ภาพจากแฟ้มภาพ แพทย์ รพ.ธนบุรี แถลงยังคงใช้แพทย์แผนไทยควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบันในการรักษา “สายัณห์” แจงให้ยาลดไข้เช้า-เย็น แต่ยังไม่สามารถให้เคมีบำบัดได้ อาการโดยรวมของโรคยังน่าห่วง ด้าน ผจก.ส่วนตัวเผยสายัณห์รับตัวเองไม่ได้ โวยปล่อยภาพตนในสภาพที่ดูไม่ดีออกสื่อได้ยังไง พร้อมบอกสายัณห์ไม่ได้รวยอย่างที่คิด บ้านกับคอนโดก็เช่าอยู่ และอย่าคิดว่าเจ้าตัวมีเงินค่ารักษา วอนสงสารอีกฝ่ายเถอะ ความคืบหน้าการรักษานักร้องลูกทุ่ง “เป้า สายัณห์ สัญญา” ในช่วงเช้าวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล ผอ.ฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลธนบุรี, นพ.วชิรบุณย์ ศาสตระรุจิ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์และแพทย์เจ้าของไข้ และ นายมานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัว สายัณห์ สัญญา ได้มีการเปิดแถลงข่าวอาการของ สายัณห์ ขึ้น โดยเผยว่ายังคงใช้แพทย์แผนไทยควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบันในการรักษา ทุกวันนี้ยังให้ยาลดไข้เช้า-เย็น แต่ยังไม่สามารถให้เคมีบำบัดได้ อาการโดยรวมของโรคยังน่าห่วง
นพ.วชิรบุณย์ ศาสตรารุจิ รอ.ผอ.ฝ่ายการแพทย์ : “ตอนนี้จะรักษาควบคู่กันระหว่างแพทย์แผนไทยกับแพทย์แผนปัจจุบัน ตัวโรคเองก็ยังดำเนินการของมันอยู่ด้วย เนื่องจากโรคมะเร็งที่ตับมันก็มีการดำเนินการของมันไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตับเราจะช่วยแบบประคับประคอง แล้วเราได้ความร่วมมือแบบประคับประคองเพื่อพยุงการทำงานของตับที่เสื่อมลงให้ช้าลง”
“ต้องเรียนว่าโดยอาการโดยรวมของตัวโรคก็น่าเป็นห่วงหมดครับ เพราะว่าโดยรวมของตัวโรคมีผลต่อการทำของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตับอ่อนทำให้เกิดเบาหวาน เบาหวานกำเริบขึ้นมาอีกจุด ยิ่งตอนนี้ยาฉีดก็ไม่รับอีก เบาหวานก็อาจจะคุมได้ไม่ดี ส่วนที่ไตและที่ตับการทำงานของตับมันมีหน้าที่ทำงานหลายอย่างด้วยกัน ทั้งเรื่องเป็นแหล่งของพลังงานทั้งช่วยในการหลั่งน้ำย่อยอาหาร แม้กระทั่งมีผลต่อการทำงานของส่วนต่างๆ ของร่างกายในตัวโรคให้มีการเสื่อมไปเรื่อยๆ อันนี้ก็เป็นสภาพซึ่งเราเป็นห่วงโดยรวมทั้งหมด”
ต่อคำถามที่ว่าตอนนี้ก็ยังรักษาแพทย์ทางเลือกอยู่ใช่ไหม? นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล ผอ. ฝ่ายการแพทย์ รพ.ธนบุรี และแพทย์เจ้าของไข้ เผยว่า…
“ก็อยู่ที่ตัวคนไข้เองว่าเขาจะเอาแบบไหน แต่เหมือนกับว่าตอนนี้เราให้สารอาหาร แต่เรื่องของเคมีบำบัดและการรักษาอื่นๆ ไม่ต้องพูดถึง เพราะว่ายังรับไม่ได้แน่ๆ ในเรื่องของโลหิตจาง ยาลดไข้เราก็ให้เช้าเย็น ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ไปได้เรื่อยๆ ครับ ตอนนี้ก็อยู่ที่กำลังใจคนไข้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน แต่ทางผู้จัดการส่วนตัวบอกว่าถ้าได้ออกไปพูดคุยไปพบปะก็อาจจะทำให้กำลังใจเขาเพิ่มขึ้น อาจจะดูให้ออกคอนเสิร์ตอะไรแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนั้น กำลังใจมันก็จะทำให้สภาวะรอบแน่นได้บางส่วน”
“ส่วนคนไข้จะสามารถไปร่วมคอนเสิร์ตที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ส.ค.นี้ได้ไหม ตอนนี้อาการดูเป็นวันๆ ครับ เป็นวันๆ คือถ้าไปตอนนี้ ตอนนี้ไปได้นะ แต่ร้องไม่ได้ โชว์ตัวโชว์ได้ แต่ว่าถ้าไปร้องคงไม่ได้ แต่ว่าถ้าอีก 10 วันมันยังไม่แน่ว่าจะยังไง เพราะอย่างที่เรียนให้ทราบว่าการดำเนินตัวของโรคเองและการดำเนินการรักษาการจะดูแลคนไข้ให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะโรคใดก็ตามต้องมีการร่วมมือกันระหว่างผู้ป่วยและคนผู้ให้การรักษา โดยทีมแพทย์ผู้ให้การรักษาเป็นแพทย์เฉพาะทางมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้วครบทุกสาขา แต่ผู้ป่วยเองก็ต้องร่วมมือกับเราเพื่อรับการรักษาด้วย การดำเนินของโรคจึงจะดำเนินไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ”
ด้าน “นายมานิตย์ อังกินันทน์” ผู้จัดการส่วนตัว สายัณห์ เผยโดนนักร้องลูกทุ่งโวยหาว่าปล่อยให้มีการเผยแพร่ภาพตนเองในสภาพที่ไม่น่าดูออกสื่อได้อย่างไร
“เมื่อคืนผมไปดูสถานที่จัดงานมา และลูกเขาก็โทร.มาบอกให้ผมมาหาคุณพ่อด่วน เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้แกเริ่มจิตตกอีกครั้งแล้ว นั่งคุยกันเมื่อคืนผมมาถึงโรงพยาบาลประมาณสองทุ่มแกก็บ่น แต่ตอนแรกพยาบาลมาก็คุยดี แต่หลังจากที่แกดูภาพที่โรงพยาลที่ยกมือไหว้อะไรเปิดให้แกดู ไม่รู้ใครไปเปิดให้แกดู แกก็มีสีหน้านิ่งไปพักหนึ่ง แล้วก็บ่นว่าทำไมทำกันแบบนี้ล่ะ ผมบอกผมไม่รู้ผมไม่ได้อยู่ ผมไปงานมา แล้วผมอยู่ที่งานผมไม่รู้ พี่เป้าก็บอกว่าแล้วทำไมเธอไม่ดูสภาพพี่ให้ดีก่อนแล้วค่อยตอบ แต่ผมก็ไม่รู้เพราะผมก็ไม่อยู่เพราะวันที่ 16 ผมไปอยู่งานทั้งวันผมไม่ได้อยู่ เธอทำแบบนี้เธอก็รู้ความรู้สึกพี่นะ เธอก็รู้นิสัยพี่ดี ถ้าทำกันแบบนี้พี่ก็รับไม่ได้ ผมเลยบอกว่ามาถึงขั้นนี้แล้วเราก็ต้องดำเนินการต่อไป ทีนี้ผมจะเก็บภาพให้ดีที่สุด”
“ต้องขอร้องกับสื่อมวลชนถึงภาพที่ออกไปว่าดูภาพที่ดูดีหน่อย เพราะแกรับสภาพที่แกเป็นอยู่นี้ไม่ได้ อาการก็เลยหงุดหงิดมาเรื่อย แล้วตอนเช้าลูกแกก็โทร.มาอีกว่าให้ผมมาโรงพยาบาลด่วนเลยเพราะแกจะออกจากโรงพยาบาล ผมก็บอกพี่ใจเย็นๆ เดี๋ยวผมเข้าไป แล้วจะมีเรื่องไปคุยกับพี่หลายเรื่อง วันนี้ก็คุยแบบเปิดอกทั้งเรื่องงานคอนเสิร์ตและเรื่องของการรักษาจะต้องพูดความจริงให้แกได้รู้ว่าต้องรักษา เพราะถ้าจะมาไม่รับยาอะไรแบบเก่าดูท่าแล้วแกคงจะอยู่ได้ไม่นาน”
“คือเมื่อคืนนี้ปิดประตูคุยกันสองต่อสองเลย พี่เป้าถ้าให้เหตุผลแกคุยกันรู้เรื่องปั๊บทุกอย่างแกโอเคหมด ทุกอย่างที่คุยคือจะโอเคหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องคุยกันให้กระจ่าง แล้วตอนนี้ก็ต้องบอกแกตรงๆ แล้ว ปิดบังแกไม่ได้แล้ว ถ้าผมขึ้นห้องไปหาแกตอนนี้ก็จะแพ็คกระเป๋ากลับบ้านอย่างเดียว”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแกอยากจะออกจากโรงพยาบาล ไม่รู้ตอนนี้แกคิดอะไรอยู่ แกนอนคิดอยู่คนเดียวนั่นแหละ ถามว่าแกหลับไหม แกก็ไม่หลับ ผมนั่งคุยข้างเตียงทั้งคืน คุยเรื่องคอนเสิร์ต ผมก็นึกว่าแกหลับไปแล้ว แกก็บอกเออจัดที่ไหนล่ะ ลืมตาขึ้นมาพูดผมก็อ้าวยังไม่หลับเหรอ แกก็บอกยังไม่หลับ ก็จัดวัดไร่ขิง”
“บอกตรงนี้เลยนะครับ ที่ทุกคนทำให้วันนั้นคนภายนอกอาจจะคิดว่าสายัณห์รวยเหมือนเดิม มีเงินมีทองอยู่กินอย่างสบายเหมือนราชาแบบนั้น ทุกคนกำลังคิดผิด คือเราพูดตรงๆ คือมันเป็นความล้มเหลวในชีวิตที่ผ่านมานะครับ ทุกคนมีผิดพลาดตลอด แต่ทุกวันในขณะนี้ผมบอกทุกคนตามตรงเลย ว่าคอนโดที่พี่เป้าอยู่นั้นก็เช่าอยู่ บ้านที่ภรรยาอยู่ขายก๋วยเตี๋ยวลุยสวนนั้นก็เช่าเขา ให้เข้าใจซะใหม่ว่าพี่เป้าไม่ได้รวย”
“คนในวงการจะรู้ว่าพี่เป้าเป็นยังไง แต่คนนอกไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่าชื่อสายัณห์ สัญญา คือราชาเพลงลูกทุ่ง ราชาความร่ำรวย แต่จริงๆ แล้วมันตรงกันข้ามครับ อยากจะบอกกับสื่อมวลชนและแฟนเพลงว่าอย่าคิดว่าพี่เป้าจะมีเงินค่าโรงพยาบาล แค่นี้จิ๊บจ้อย สงสารแกเถอะครับ ทุกวันนี้อยากให้แกอยู่นานที่สุดที่จะอยู่ได้ พวกผมจะยอมเหนื่อยกันเพราะคนที่เรารักเท่านั้นเอง การคบหากันมาบางครั้งความผูกพันมันก็มีเยอะ ต่อจะให้โกรธกันแค่ไหนก็ต้องกลับมาคุยกัน ถ้าเห็นพี่เขาอยู่แบบนี้”
ที่มา: manager.co.th