แอปเปิลชวนชาวจีนและอเมริกัน นำอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ที่ไม่ได้ผลิตโดยแอปเปิล มาแลกซื้ออแดปเตอร์ของแท้จากแอปเปิลในราคา 10 เหรียญ แต่ชาวไทยยังไม่ชัดเจนว่ามีสิทธิ์ร่วมโครงการหรือไม่ตัวอย่างอแดปเตอร์รุ่น 12 วัตต์สำหรับไอแพด เพื่อตอบโต้ปัญหาอแดปเตอร์ที่ชาร์จแบตเตอรี่ของปลอมไม่ได้มาตรฐานระบาดหนักจนทำให้ผู้ใช้ไอโฟน ไอพ็อด และไอแพดในหลายประเทศได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร แอปเปิล (Apple) ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีรายใหญ่สัญชาติอเมริกันจึงสร้างสรรค์โครงการ"นำอแดปเตอร์ปลอมมาแลกซื้อของแท้"โดยจะเปิดให้ผู้ใช้แลกซื้ออแดปเตอร์ของแท้ในราคา 10 เหรียญสหรัฐหรือ 300 บาทเพื่อใช้แทนอแดปเตอร์เดิมที่ใช้อยู่ แต่จากการสอบถามล่าสุด พบว่าศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์แอปเปิลในประเทศไทยยังไม่รองรับโครงการดังกล่าว โดยพนักงานระบุว่ายังต้องรอสัญญาณจากบริษัทแอปเปิลเซาธ์เอเชีย (ประเทศไทย) ต่อไป โครงการอแดปเตอร์ปลอมแลกซื้ออแดปเตอร์ของแท้นั้นถูกแอปเปิลตั้งชื่อว่า USB Power Adapter Takeback Program โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นผลจากเหตุไฟไหม้ 2 ครั้งในประเทศจีนซึ่งเกิดจากผู้ใช้อุปกรณ์แอปเปิลชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอแดปเตอร์ปลอมซึ่งไม่ได้มาตรฐาน ทำให้อแดปเตอร์ปลอมดังกล่าวเกิดการลัดวงจรและเป็นต้นเหตุเพลิงไหม้จนทำให้ผู้ใช้ได้รับบาดเจ็บรวมถึงเสียชีวิตจนเป็นข่าวดังทั่วโลก
ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้แอปเปิลต้องการรณรงค์ให้ผู้ใช้เลือกซื้ออแดปเตอร์ของแท้ที่ได้มาตรฐาน จึงเปิดโครงการ Adapter Takeback Program เพื่อให้ผู้ใช้นำอแดปเตอร์อุปกรณ์ชาร์จไฟของผู้ผลิตรายอื่นมาขายคืนหรือ trade-in เพื่อแลกซื้ออแดปเตอร์จากแอปเปิลในราคา 10 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 300 บาท
แอปเปิลระบุว่าโครงการแลกซื้อนี้จะเริ่มต้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2556 โดยผู้ใช้อแดปเตอร์ซึ่งไม่ได้ผลิตโดยแอปเปิล แล้วหวั่นใจว่าอแดปเตอร์จะทำงานผิดพลาด ก็สามารถนำอแดปเตอร์นั้นมามอบให้พนักงานในร้านค้าปลีกหรือ Apple retail store รวมถึงตัวแทนให้บริการของแอปเปิล ซึ่งจะนำไปทำลายโดยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป
ผู้ซื้อในสหรัฐฯจะสามารถซื้ออแดปเตอร์ของแท้จากแอปเปิลในราคาชิ้นละ 10 เหรียญสหรัฐ โดยโครงการนี้จะครอบคลุมทั้งอแดปเตอร์สำหรับไอโฟน ไอแพด และไอพ็อด ระยะเวลาโครงการจะสิ้นสุดวันที่ 18 ตุลาคมนี้
เพื่อป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดี แอปเปิลกำหนดเงื่อนไขให้ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการต้องนำอุปกรณ์ไอโฟน ไอแพด และไอพ็อดของตัวเองมาที่ร้านเพื่อแลกซื้อด้วย เพื่อเป็นการตรวจสอบหมายเลขประจำเครื่องในการยืนยันสิทธิ์แลกซื้อ
เบื้องต้น จากการสอบถามพนักงานร้านไอสตูดิโอ (iStudio) ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแอปเปิลอย่างเป็นทางการ พบว่ายังไม่มีการยืนยันว่าผู้ใช้อุปกรณ์แอปเปิลในประเทศไทยจะมีสิทธิ์ร่วมโครงการนี้หรือไม่ โดยระบุว่ายังต้องรอการแจ้งจากแอปเปิลเซาธ์เอเชีย (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าอุปกรณ์แอปเปิลเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการต่อไปไม่มีกำหนด
ปัจจุบัน ราคาอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ของแอปเปิลจำหน่ายในราคาชิ้นละ 690 บาท โดยอแดปเตอร์รุ่น 12 วัตต์สำหรับไอแพดและรุ่น 5 วัตต์สำหรับไอโฟนและไอพ็อดนั้นจำหน่ายที่ราคาเท่ากัน ขณะที่สายเชื่อมต่อระหว่างอแดปเตอร์สู่เครื่องถูกวางจำหน่ายในราคาเส้นละ 690 บาท โดยสายเชื่อมต่อนี้จะไม่รองรับโครงการแลกซื้อที่เพิ่งเปิดตัวไป
ต้องยอมรับว่าการปรับราคาอแดปเตอร์ของแท้ลง สะท้อนว่าแอปเปิลรู้ดีถึงที่มาของปัญหาอแดปเตอร์ไม่ได้มาตรฐานที่จำหน่ายอย่างแพร่หลายในขณะนี้ โดยเฉพาะในแง่ราคาจำหน่ายที่ต่างกันมากจนทำให้ผู้บริโภคต้องเลือกซื้ออแดปเตอร์ราคาประหยัดมาใช้งานแทน ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว อแดปเตอร์ของแท้ที่แอปเปิลผลิตและจำหน่ายนั้นมีราคาสูงกว่าอแดปเตอร์จากผู้ผลิตรายอื่นสูงสุดถึง 6 เท่าตัว (อแดปเตอร์จากผู้ผลิตในประเทศจีน จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 100-120 บาทเท่านั้น)
สำหรับเหตุเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะอแดปเตอร์ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโครงการนี้ กลายเป็นข่าวดังทั่วโลกช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยนาย หวู เจียน ตง (Wu Jian Tong) วัย 30 ปีได้รับบาดเจ็บจากประกายไฟของอแดปเตอร์ชาร์จ iPhone 4 ซึ่งคาดว่าเป็นที่ชาร์จที่ผลิตโดยบริษัทอื่นซึ่งไม่ใช่แอปเปิล แต่เป็นบริษัทที่ได้รับการรับรองจากแอปเปิล ปัจจุบันอาการของหวูดีขึ้นแล้วหลังจากตกอยู่ในระดับอันตรายนานนับ 10 วัน
อีกเหตุการณ์หนึ่งคือนางสาวหม่า อ้าย หลุน (Ma Ailun) หญิงสาววัย 23 ปีจากมลฑลซินเจียงที่เสียชีวิตเพราะการคุยโทรศัพท์ iPhone 5 ขณะที่ยังเสียบสายชาร์จค้างไว้ รายงานระบุว่าที่ชาร์จของหม่าไม่ได้ถูกผลิตโดยแอปเปิลหรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ซึ่งทั้งหมดทำให้แอปเปิลออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ภาษาจีน เพื่อเตือนให้ผู้ใช้อแดปเตอร์จากผู้ผลิตรายอื่นระมัดระวังการใช้อแดปเตอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยแนะนำให้ใช้งานอแดปเตอร์จากที่บริษัทให้การรับรองเท่านั้น
ขณะนี้ โครงการแลกซื้ออแดปเตอร์ของแท้จากแอปเปิลเชื่อว่าจะเปิดให้บริการแน่นอนในประเทศจีนและสหรัฐฯ โดยความเคลื่อนไหวในประเทศอื่นๆยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในขณะนี้
ที่มา: manager.co.th