มารุต มณีสถิตย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญต่อการแปรรูปองค์กรธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ต้องการโซลูชันด้านสารสนเทศที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการทางธุรกิจและลดความซับซ้อนด้านไอทีเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการตอบสนองต่อตลาดและสามารถสร้างนวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยโซลูชันหลักของฮิตาชิ 3 โซลูชัน ได้แก่ ระบบแฟลชทั้งหมดของ Hitachi Unified Storage VM (HUS VM), Hitachi Unified Storage และ Hitachi NAS Platform รวมทั้ง Hitachi Unified Computer Platform (UCP) จะช่วยลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของได้มากถึง 30% เมื่อเทียบกับโซลูชันอื่นๆ และยังมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ถึง 2 เท่า นอกจากนี้ โซลูชันที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพดังกล่าวยังจะช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ระบบไอทีที่มีอยู่ อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานได้มากกว่าเดิม
ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชทั้งหมดของ HUS VM, Hitachi Unified Storage และ Hitachi NAS Platform รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hitachi UCP จะช่วยให้องค์กรมีแพลตฟอร์มด้านไอทีซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาดที่พร้อมนำเสนอข้อมูลเชิงลึก ช่วยให้ตัดสินใจรวดเร็วขึ้น และประหยัดทรัพยากรในการสร้างนวัตกรรมเพื่อให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ
สำหรับการทำตลาดโซลูชันใหม่ทั้ง 3 โซลูชันนี้ในประเทศไทยยังคงเน้นธุรกิจธนาคาร โทรคมนาคม หน่วยงานภาครัฐ และอุตสาหกรรม หน่วยงานด้านสุขภาพ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้โซลูชันที่ออกมาใหม่ในครั้งนี้จะมีส่วนแบ่งตลาด 20% จากยอดขายทั้งหมดของฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ประเทศไทย
ที่มา: manager.co.th
