HP ส่ง Desktop รุ่นใหม่ หวังเพิ่มส่วนแบ่ง ตลาดองค์กร เป็น 24%

[Nick]

เอชพีส่งผลิตภัณฑ์เดกส์ท็อปเพื่อกลุ่มองค์กรรุ่นใหม่ลงตลาด 7 รุ่น หลังไอดีซีคาดการณ์ตลาดลูกค้าทั่วไปยังทรงตัว ชี้โอกาสทางการตลาดเกิดจากกลุ่มธุรกิจถึงเวลาต้องเปลี่ยนเครื่องและเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงการใช้งานออลอินวันเริ่มได้รับความนิยม ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 24% จากเดิม 22% ภายในปีนี้ เผยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์อยู่ที่มีรูปแบบหรือฟอร์มแฟคเตอร์ให้เลือกมากที่สุดประหยัดไฟและพื้นที่ในการจัดวาง และที่สำคัญปรับแต่งได้ตามต้องการ
       
       นายฐิตพล บุญประสิทธิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจ กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ เอชพี ประเทศไทย กล่าวว่า เอชพีมองภาพรวมของตลาดเดสก์ท็อปในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปยังทรงตัวและอาจจะถดถอยไปบ้าง ส่วนภาพรวมธุรกิจองค์กรยังดีอยู่ มีการใช้ออลอันวันและมัลติทัชมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนเทคโนโลยีทำให้พีซีที่อยู่ในองค์กรต้องมีการอัปเกรดขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงขณะนี้ถึงเวลาที่องค์กรส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนเครื่องแล้วทำให้เอชพีมองเห็นโอกาสในการส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เพื่อตอบสนองในตลาดเหล่านี้ โดยในปีนี้ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดของเดกส์ท็อปไว้ที่ 24% หลังจากส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด
       
       โดยผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอล่าสุดอยู่ในตระกูล HP EliteOne/EliteDesk ซีรีย์ 800 และ HP ProOne/ProDesk series ซีรีย์ 600 รวม 7 รุ่น เป็นกลุ่มเดสก์ท็อปสมรรถนะสูงสำหรับองค์กรธุรกิจ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการความต้องการที่หลากหลายขององค์กรโดยข้อดีของเดกส์ท็อปคือสามารถเพิ่มเติมและปรับแต่งได้ตามที่ต้องการ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เดสก์ท็อปได้มีการพัฒนารูปลักษณ์ใหม่ๆ แต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำงานไว้ครบถ้วน และยังคงครองส่วนแบ่งเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดพีซีทั่วโลก
       
       “ไอดีซีระบุว่าในปีนี้ตลาดพีซีน่าจะถอยไปนิดหน่อยอยู่ที่ประมาณ 11% และน่าจะถดถอยลงอีกในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากผู้บริโภคตามบ้านมีการเปลี่ยนแปลงการใช้งาน ไปใช้แท็ปเล็ตมากขึ้น ส่วนตลาดองค์กรยังพอไปได้ โดยประเมินว่าภาพรวมตลาดพีซีและโน้ตบุ๊กน่าจะอยู่ที่ 3.7 ล้านเครื่องในปีนี้ โดยเป็นโน้ตบุ๊กประมาณ 60% ซึ่งในปีที่ผ่านมาเอชพีมีส่วนแบ่งการตลาด 22% ในตลาดคอมเมอเชียลเดสก์ท็อป มีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่มีส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 18% โดยการเติบโตดังกล่าวเพราะเอชพีได้เข้าไปในตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์มากขึ้น รวมถึงมีช่องทางที่ค่อนข้างแข็งแรง”
       
       นายฐิตพล กล่าว่า ผลิตภัณฑ์พีซีรุ่นใหม่ของเอชพีที่นำเสนอนี้ได้มีการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่เพรียวบางกว่าเดิม และมาในรูปแบบของออลอินวันพีซีที่ประหยัดพลังงานและประหยัดพื้นที่มากขึ้น นอกจากจะช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดพื้นที่แล้ว ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น พอร์ตที่ชาร์จไฟได้รวดเร็ว ซอฟต์แวร์ HP Wireless Hotspot ที่ช่วยในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ และทำหน้าที่เป็นเสมือนศูนย์กลางการทำงานของธุรกิจที่ให้ประสิทธิภาพสูง รวมไปถึงยังมีมัลติมีเดีย และระบบรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน
       
       “ปัจจุบันตลาดเอสเอ็มอีเริ่มหันมาใช้งานบิสิเนสพีซีเพิ่มมากขึ้นดังนั้นเราจะมุ่งเน้นในตลาดนี้มากขึ้นด้วย โดยปัจจุบัน เอชพีมีลูกค้ากว่า 60% อยู่ในองค์กรใหญ่ และ 40% อยู่ในองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเอชพีมีหน่วยไฟแนนซ์ที่จะให้ความสะดวกสบายในด้านการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของลูกค้า ตอบสนองกับปัจจุบันที่เทรนด์การเช่ามีสัดส่วนที่มากขึ้น ด้านการรับประกันนั้นลูกค้าสามารถขยายเวลาการรับประกันได้ตามที่ต้องการ”
       
       สำหรับผลิตภัณฑ์ HP EliteOne และ HP EliteDesk ซีรีย์ 800 ที่เอชพีนำเสนอนี้เป็นออลอินวันและเดสก์ท็อปพีซีสำหรับธุรกิจ มีรูปแบบหรือฟอร์มเฟคเตอร์ให้เลือกมากที่สุดของเอชพี เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานรูปแบบต่างๆ ของธุรกิจในยุคปัจจุบัน ใช้หน่วยประมวลผล อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชัน 4 รุ่นใหม่ล่าสุดจากอินเทล ให้ภาพกราฟฟิกที่คมชัด มาพร้อมออปชันหน่วยความจำแคช และไดร์ฟแบบโซลิดสเตทรุ่นใหม่ ที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลและแอปลิเคชันต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น รวมไปถึงมีระบบรักษาความปลอดภัยระดับ เอชพี อีลิท เอ็นเทอร์ไพรส์-คลาส เพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการและปกป้องข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ อุปกรณ์ต่างๆ และรหัสแสดงตัวตนได้ด้วยเทคโนโลยีสนับสนุน Intel vPro support โดย HP EliteOne และ HP EliteDesk ซีรีย์ 800 ราคาเริ่มต้นที่ 25,990 บาท
       
       ส่วนผลิตภัณฑ์ HP ProOne และ HP ProDesk ซีรีย์ 600 คือ ออลอินวันและเดสก์ท็อปสำหรับธุรกิจรูปทรงล้ำสมัย พร้อมหน่วยประมวลผล อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 4 รุ่นล่าสุดของอินเทล ทั้งสองรุ่นตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจประจำวันได้เป็นอย่างดี มีระบบปฏิบัติการให้เลือกทั้งวินโดวส์ 8, วินโดวส์ 7 หรือลีนุกซ์ มาพร้อมแอปพลิเคชัน HP Client Security เพื่อปกป้องข้อมูล อุปกรณ์ต่างๆ และรหัสแสดงตัวตนได้ อีกทั้งยังสามารถเสริมประสิทธิภาพในการทำงานด้วยเทคโนโลยีการสั่งพิมพ์แบบไร้สาย HP ePrintที่สะดวกและรวดเร็ว และให้เสียงคุณภาพเยี่ยมด้วยระบบเสียงแบบดีทีเอส (DTS Sound) ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ราคาเริ่มต้นที่ 20,990 บาท
       
       Company Relate Link :
       HP

ที่มา: manager.co.th