หลายเดือนหลังจากที่มีข่าวต่างๆรั่วไหลออกมา ล่าสุด Moto X สมาร์ทโฟนโมโตโรล่ารุ่นเรือธงแรกหลังการควบรวมกิจการเข้ากับกูเกิลเมื่อปีก่อน ก็ได้ฤกษ์เผยโฉมให้เห็นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะมีการเปิดจำหน่ายพร้อมกันทั่วสหรัฐฯ บน 4 ค่ายมือถือหลัก (Verizon Wireless, AT&T, Sprint และ T-Mobile) ในราคา 200เหรียญฯ กับสัญญา 2 ปีมาแล้วตามคำเรียกร้อง Moto X หลังจากที่มีการพูดถึงกันมาหลายเดือน โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่รวมร่างฮาร์ดแวร์ในตำนานของโมโตโรล่ากับนวัตกรรมการออกแบบทางด้านซอฟท์แวร์ของกูเกิล และบริการที่มีการคัดสรรเพื่อสร้างแฟรนไชส์อุปกรณ์ใหม่ ซึ่งเป็นความหวังของกูเกิลที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งกับไอโฟนและสมาร์ทโฟนในตระกูลกาแล็คซี่จากซัมซุง โดย Moto X จะเปิดให้จำหน่ายผ่านทาง 4 ค่ายผู้ให้บริการหลักในสหรัฐฯ ได้แก่ AT&T, Verizon Wireless, Sprint และ T-Mobile USA เช่นเดียวกับผู้ให้บริการเครือข่ายในภูมิภาคอย่าง U.S. Cellular นอกจากนี้ ยังจะเปิดให้จำหน่ายทั่วโลกผ่านทางตัวแทนร้านค้าปลีกชื่อดัง ซึ่งรวมถึง Best Buy ด้วย อีกทั้งลูกค้าของ T-Mobile ยังจะสามารถซื้อ Moto X ได้ผ่านทางเว็บไซต์ Motorola.com ได้อีกด้วย
โดย Moto X จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว (1280x720 พิกเซล) กับฝาหลังที่มีรูปทรงโค้งมน ซึ่งจะมีกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 10 ล้านพิกเซล (สามารถถ่ายภาพวีดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ 1080p) และกล้องหน้าขนาด 2 ล้านพิกเซล ซีพียูดูอัลคอร์ Snapdragon S4 Pro 1.7GHz บน X8 Mobile Computing System แรม 2GB และรองรับเครือข่าย LTE โดยจะนำเสนอให้เลือก 2 สี (ขาว/ดำ) ผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายและร้านค้าปลีกท้องถิ่น ซึ่งจะมีความจุภายในของเมมโมรี่เริ่มต้นที่ 16GB และไม่สามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้ด้วยการ์ดหน่วยความจำ สำหรับโปรโมชั่นพิเศษ กูเกิลได้มีการนำเสนอพื้นที่จัดเก็บข้อมูลใน Google Drive จำนวน 50GB ฟรีให้กับผู้ซื้อ Moto X เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งในรุ่น 16GB จะจำหน่ายกันอยู่ที่ราคา 200เหรียญฯ พร้อมติดสัญญาเป็นเวลา 2 ปี สำหรับในรุ่น 32GB จะมีราคาเพิ่มขึ้นมาอีก 50เหรียญฯ โดยจะเริ่มจำหน่ายกันในปลายเดือนสิงหาคม หรือไม่ก็ต้นเดือนกันยายนนี้ ในสหรัฐ, แคนาดา และละตินอเมริกา ซึ่งตัวแทนจากโมโตโรล่ากล่าว กำหนดเวลาที่ชัดเจนจะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการในแต่ละราย แต่ทั้งนี้ โมโตโรล่าไม่ได้มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำหนดวันวางจำหน่ายสำหรับตลาดต่างประเทศ
ด้านซอฟท์แวร์ภายใน จะมีการใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 หรือ Jelly Bean นอกจากนี้ หนึ่งในจุดแข็งสำหรับการขายในครั้งนี้คือ การปรับแต่ง Moto X ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถเลือกสีกรอบหน้า (ขาว/ดำ) และกรอบหลัง (มีให้เลือก 16 สี) และสีปุ่มเปิดปิดเครื่อง/ปุ่มปรับระดับเสียง/กรอบกล้องด้านหลัง (มีให้เลือก 7 สี) พร้อมตกแต่งฝาหลังด้วยชื่อหรือข้อความสั้นๆที่เขียนขึ้นเอง รวมถึงสามารถปรับแต่งวอลเปเปอร์และข้อความต้อนรับได้เองอีกด้วย โดยจะต้องมีการสั่งออร์เดอร์ดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ Moto Maker เท่านั้น และจะมีการจัดส่งให้ถึงมือผู้ซื้อภายใน 4 วันหลังจากสั่งซื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สามารถทำการสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ได้ จะต้องเป็นลูกค้าของเครือข่าย AT&T เท่านั้น สำหรับลูกค้าค่ายอื่นที่สนใจ Moto X ในรุ่นปรับแต่งเอง อาจจะต้องรอคอยไปก่อน ซึ่งนั่นหมายความว่า ในช่วงแรกนี้ ลูกค้าของ Verizon Wireless, T-Mobile USA, Sprint และ U.S. Cellular จะสามารถเลือกได้เฉพาะรุ่นสีขาวหรือดำ (16GB) โดยไม่สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมเองได้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ motorola.com
ที่มา CNET
ที่มา: pantip.com