ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ก็ใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ได้ ไมโครซอฟท์คิดค่าไลเซ่นซอฟต์แวร์ถูกกว่าราคาปกติ 80% ไม่เชื่อต้องอ่าน...
น.ส.ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโคร ซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า โครงการ iCafe (ไอคาเฟ่) เริ่มขึ้นเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว เป็นความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์ กับ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลร้านอินเทอร์เน็ตและร้านเกมทั่วประเทศ และจากการสำรวจพบว่า ร้านอินเทอร์เน็ตและร้านเกมต้อง การให้ภาครัฐเข้าไปสนับสนุนเรื่องของซอฟต์แวร์เพราะต้องการดำเนินธุรกิจโดยใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์
ดังนั้น ไมโครซอฟท์ (ประ เทศไทย) จึงทำโครงการ ไอคาเฟ่ ขึ้นที่ประเทศไทยนำร่องเป็นประเทศแรกในโลก ลดค่าไลเซ่น ซอฟต์แวร์ให้แก่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่และร้านเกมที่ร่วมโครงการ 80% จากราคาปกติ พร้อม ให้เนื้อหาเกี่ยวกับอี-เลิร์นนิ่ง เช่น ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น เนื้อหาความรู้ภาษาอังกฤษ และโปรแกรมป้องกันเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เพื่อทำให้ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่และร้านเกมเป็นห้องเรียนสะอาดที่พร้อมให้ความรู้นอกห้องเรียน
สำหรับ ไอคาเฟ่ แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ระยะแรกไมโครซอฟท์จัดโรดโชว์ 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น โคราช ระยอง เชียงใหม่ ชลบุรี และหาดใหญ่ เปิดให้ผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่มาสมัครเข้าร่วมโครงการ ปัจจุบันมีร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่ร่วมโครงการแล้ว 4,000 กว่าร้าน กลางปีนี้ไมโครซอฟท์ตั้งเป้าจะขยายโครงการ ไอคาเฟ่ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
“จากข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนนักเรียนต่อเครื่องพีซีอยู่ที่ 50 : 1 ขณะที่สัดส่วนของประชากรไทยต่อเครื่องคอมพิว เตอร์พีซีอยู่ที่ 100 : 1 ทำให้ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงความรู้ผ่านคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ดังนั้นไอคาเฟ่จึงมีบทบาทที่จะผลักดันให้ร้านอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ และสอนให้ เด็ก ๆ ได้ใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์” น.ส.ปฐมา กล่าว
นายธนะศักดิ์ เกียรติภัทรชัย เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ใน จ.ราชบุรี กล่าวว่า การเปิดร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่จะต้องลงทุนฮาร์ดแวร์สูงมาก จึงไม่อยากลงทุนด้านซอฟต์แวร์มากนัก ซึ่งการเข้าร่วมโครงการไอคาเฟ่ทำให้ลดต้นทุนเรื่องของซอฟต์แวร์ได้มากและได้ใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ ซึ่งมีประโยชน์มากทั้งกับผู้ประกอบการเองและนักเรียน ซึ่งเป็นการสอนให้เด็กได้ใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ ขณะที่โอกาสการเติบโตของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในราชบุรียังมีอีกมาก เพราะโรงเรียนมีการสอนคอม พิวเตอร์ให้แก่เด็ก แต่เด็กจำนวนมากยังไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านจึงเข้ามาใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ในการค้นคว้าหาความรู้
สำหรับตัวเลขการจับกุมผู้ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ปี 2551 ของกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีแห่งชาติ (บก.ปศท.) ระบุว่า จับกุมองค์กรธุรกิจที่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ถึง 53 ราย เป็นบริษัทของคนไทยและต่างชาติ มีเครื่องคอม พิวเตอร์ที่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 2,000 เครื่อง รวมมูลค่า 170 ล้านบาท
ขณะที่ผลการศึกษาล่าสุดของไอดีซี ระบุ หากประเทศไทยลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์บนพีซีลงได้ 10% จะเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2,100 ตำแหน่ง และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท มีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น 2,275 ล้านบาท
ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่และร้านเกมที่ใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ เปรียบเหมือนห้องเรียนสะอาดที่พาเด็กไทยหลาย ๆ คนก้าวสู่โลกกว้างได้อย่างภาคภูมิ และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย.
น้ำเพชร จันทา
namphetc@dailynews.co.th
ที่มา: dailynews.co.th
