แฟ้มภาพ Galaxy S4 สมาร์ทโฟนเรือธงล่าสุดของซัมซุง ล่าสุดรายงานจาก IDC พบว่าซัมซุงสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 4 ผู้ค้าสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลกรวมกันตารางแสดงยอดจำหน่ายของผู้ค้าสมาร์ทโฟน 5 รายใหญ่ของโลก (ขอบคุณข้อมูลจากไอดีซี และตารางจาก mashable.com) ข้อมูลสำรวจตลาดสมาร์ทโฟนล่าสุดจากไอดีซี (IDC) พบว่าซัมซุง (Samsung) ยักษ์ใหญ่ตลาดไอทีสามารถจัดส่งสมาร์ทโฟนได้มากกว่าผู้ค้าสมาร์ทโฟนรายใหญ่ 4 รายในตลาดรวมกัน ได้แก่ แอปเปิล (Apple), แอลจี (LG), เลอโนโว (Lenovo) และแซททีอี (ZTE) โดยอีกความจริงน่าทึ่งคือซัมซุงสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่าแอปเปิลมากกว่า 2 เท่าตัวในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2013 ที่ผ่านมา รายงานระบุว่าตลอดเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมา ซัมซุงสามารถจัดส่งสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 72.4 ล้านเครื่อง ขณะที่แอปเปิลจัดส่งได้ 31.2 ล้านเครื่อง โดยอันดับที่ 3 ของตารางเป็นแอลจีที่จัดส่งได้ 12.1 ล้านเครื่อง, เลอโนโว 11.3 ล้านเครื่อง และแซตทีอี 10.1 ล้านเครื่อง
หากนำตัวเลขมาคำนวณ จะพบว่ายอดขายสมาร์ทโฟน 72.4 ล้านเครื่องของซัมซุงนั้นมีปริมาณมากกว่ายอดจำหน่ายของ 4 ผู้ค้าสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลกรวมกัน โดยเมื่อนำยอดจำหน่ายของแอปเปิล แอลจี เลอโนโว และแซตทีอีมาบวกกันจะมีจำนวน 64.7 ล้านเครื่องเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในมุมของส่วนแบ่งตลาด ทั้งซัมซุงและแอปเปิลต่างสูญเสียมาร์เก็ตแชร์ไปไม่น้อยเมื่อเทียบกับปี 2012 เนื่องจากส่วนแบ่งตลาดของผู้ค้าสมาร์ทโฟนรายเล็กนั้นเติบโตขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดสมาร์ทโฟนโลกกำลังจะเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่เคยมีเพียงคู่หูซัมซุง-แอปเปิลเป็นเจ้าใหญ่ในตลาดเท่านั้น
ที่น่าสนใจคือยักษ์ใหญ่อย่างหัวเว่ย (Huawei) นั้นไม่ติดอันดับ Top 5 แม้ว่าหัวเว่ยจะเคยรองตำแหน่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ของโลกในช่วงไตรมาสก่อนหน้า โดยหากรวมยอดจำหน่ายของหัวเว่ยเข้ากับผู้ผลิตรายอื่นเช่นโนเกีย (Nokia), เอชทีซี (HTC) และอื่นๆ จะคิดรวมเป็นยอดจัดส่ง 100.8 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ตัวเลขเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางตัวเลขยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นเป็น 237.9 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 52.3% ต่อปี
ก่อนหน้าการประกาศผลการสำรวจของไอดีซี ยักษ์ใหญ่ทั้งซัมซุง แอลจี และโนเกียต่างออกมารายงานผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา โดยซัมซุงมีกำไรสุทธิ 7.77 ล้านล้านวอน (ราว 2.08 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว บนรายได้รวม 57.46 ล้านล้านวอน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 20.7% โดยธุรกิจโทรศัพท์ยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของซัมซุงและมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ซึ่งทั้งหมดนี้ซัมซุงเชื่อว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนที่ดุเดือดขึ้นแน่นอน
สำหรับแอลจี อีก 1 ยักษ์ใหญ่เกาหลีที่พบว่าการขายโทรศัพท์มือถือได้มากเป็นประวัติการณ์ถึง 12.1 ล้านเครื่องในไตรมาสเดียวนั้นช่วยผลักดันให้รายได้ของแอลจีใน 3 เดือนที่ผ่านมามีมูลค่ามากกว่า 15.23 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 10.1% ทำให้มีกำไรมากกว่า 156 พันล้านวอน (ราว 4.1 พันล้านบาท) แม้จะลดลงจากปี 2012 แต่ถือว่าเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2013
ขณะที่โนเกียออกมาเปิดเผยว่าสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟน "ลูเมีย (Lumia)" ได้สูงเป็นประวัติการณ์ 7.4 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้มีการสรุปว่าปัจจุบัน สมาร์ทโฟนวินโดวส์โฟน (Windows Phone) นั้นสามารถจำหน่ายได้มากกว่าสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี่ (BlackBerry) หรือบีบีแล้ว
ในภาพรวมโนเกีย ระบุว่าตลอด 3 เดือนไตรมาส 2 ของปี 2013 โนเกียสามารถทำรายได้ลดลง 24% คิดเป็นมูลค่า 5.69 พันล้านยูโร บนกำไรจากการดำเนินงาน 303 ล้านยูโร แต่ยังคงขาดทุนสุทธิ 115 ล้านยูโร ในส่วนยอดขาย Lumia 7.4 ล้านเครื่องถือว่าสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ขายได้ 5.6 ล้านเครื่อง
ที่มา: manager.co.th