“อนันดา” รับเลิก “โดนัท” แล้วเดือนกว่า ลั่นห่างกันด้วยดีอยู่ในสถานะเพื่อน รับตนเองเป็นคนค่อนข้างคบยากเพราะติดนิสัยชอบบงการ ทำงานเยอะและบางครั้งก็ใส่อารมณ์คนใกล้ตัว ยันโปรเจ็กต์ที่ทำงานร่วมกันไม่มีปัญหา บอกแม้จะห่างกันแล้วแต่ก็ยังสามารถทำงานร่วมกันได้ หลังจากที่รักระหองระแหงมาพักใหญ่ ในที่สุด “อนันดา เอเวอริ่งแฮม” ก็ออกมายอมรับแล้วว่าได้ถอยห่างลดความสัมพันธ์กับ “โดนัท วนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล” เหลือเพียงเพื่อนมาได้เดือนกว่าแล้ว โดยยอมรับตามตรงว่าตนค่อนข้างเป็นคนที่คบยากเนื่องจากติดนิสัยชอบบงการ
“แบบตรงไปตรงมาเลยนะ มันเป็นเรื่องยืดเยื้อ ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันไม่ได้คบกันเป็นแฟน แต่ก็ยังคุยกันไม่ได้โกรธเกลียดกัน ตอนนี้ด้วยเหตุการณ์หลายๆ อย่าง สภาวะของแต่ละคน เห็นดีสุดก็เป็นเพื่อนกัน รักมันก็รักอยู่แล้วแต่ด้วยสภาวะหลายอย่างเราเห็นดีว่าคบเป็นเพื่อนดีกว่า แต่ก่อนคือคบกันถึงอาจจะไม่ได้ระบุว่าคืออะไร แต่ก็คบกันมากกว่าเพื่อน ส่วนตอนนี้ก็คือเพื่อนจริงๆ เราเป็นอย่างนี้มาพักนึงแล้ว ก็อยากจะหลีกเลี่ยงข่าวแต่นี่คงเลี่ยงไม่ได้ มันไม่ได้ห่างอะไรมาก เพราะเขาก็ยังอยู่ในชีวิตผม อย่างที่ผมบอกว่าเป็นอีกสถานะนึง พูดตรงๆ แล้วกัน ตัวผมเองผมก็รู้ว่าเป็นคนที่ไม่ได้คบง่ายซักเท่าไหร่ เราเป็นคนที่ค่อนข้างมีความรับผิดชอบเยอะ อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ผมมีอะไรรับผิดชอบหลายอย่างเกินไปที่จะรับผิดชอบคนอีกคนในชีวิต”
“มันก็ไม่เชิงว่าผมเป็นคนถอยห่างออกมาก่อน เราไม่ได้บอกว่าตอนนี้จีบกัน คบกัน เลิกกัน แต่เราจะคุยกันอีกแบบ ส่วนมากเราก็ดูจากสิ่งที่มันเป็นอยู่ รู้สึกดีเราก็เป็นอย่างนี้ ส่วนเรื่องสัญญากันว่าจะเป็นไงในอนาคต เราก็คุยกันแค่ไม่เคยบอกว่าอนาคตต้องเป็นอย่างนี้อย่างนั้น ไม่ได้วาดฝันไว้(โดนัทบอกว่าไม่ได้เลิกแต่ยังไม่ได้เคลียร์กัน?) ก็คงเป็นหน้าที่ของผม เราเคลียร์กันแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันได้ แมสเสจหากันตลอด เรื่องงานเรื่องอะไรก็ยังทำด้วยกันอยู่ดี ผมอาจจะไม่ได้มีมุมมองความรักในมุมนั้น ผมรู้สึกว่าเรารู้สึกดีที่ได้รู้จักใครสักคนแล้วเก็บตรงนั้นไว้ ไปไม่ได้ก็คือไปไม่ได้ ผมมีทัศนะว่าเราไม่ใช่เจ้าของใครอยู่แล้ว เมื่อวันนึงเขาเข้ามาในชีวิตเรา เขาก็มีสิทธิเดินออกไปเหมือนกัน”
“ที่โดบอกน้อยใจผมไม่มีเวลาให้อันนั้นปกติครับ คนรอบตัวผมก็รู้อยู่แล้วว่าผมอาจจะอยู่ในช่วงเวลาที่ค่อนข้างมีหน้าที่ล้นตัว ตรงนี้ผมก็ไม่เคยไปหลอกใคร ผมก็เปิดชีวิตผมให้คนเห็นตลอดว่าผมมีหน้าที่อย่างนี้ ตัวเขาเองก็รู้ โอกาสที่จะกลับมามันก็อาจจะมีนะ ผมไม่เคยคิดว่าอนาคตจะระบุได้ว่าจะกลับมาคืนดีกันไหม เราก็เคยคุยกับโดนะตรงนี้ เราถึงยังคุยกันได้ แต่เราแค่รู้ว่า ณ ตอนนี้ เราเป็นอย่างนี้กัน ไม่ใช่ว่าเราไม่พยายาม แต่มันก็เห็นชัดว่าตอนนี้มันยากไป ถ้าเราดันทุรังเดินหน้ามันก็จะทำร้ายใจกันไปเรื่อยๆ อย่างที่บอกผมยอมรับว่าผมไม่ใช่คนคบง่าย ผมยอมรับ ติดนิสัยชอบบงการ ถ้าวัดระหว่างผมกับโดผมน่าจะเป็นคนคบยากกว่า ตัวเขาก็มีความเป็นแบบเขาสูง แต่ถ้าให้เทียบผมว่าผมคงยากกว่า มันไม่มีผิดถูก เราไม่ได้โทษกัน มันถึงวัยนี้แล้วโตแล้วเราพูดกันตรงๆ ว่าเป็นอย่างนี้และพยายามทำให้มันดีที่สุดและถ้ามันจะไปสู่สิ่งที่มากกว่านี้ก็ปล่อยไปแต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้”
ยันโปรเจ็กต์ที่ทำงานร่วมกันไม่มีปัญหา ลั่นแม้จะห่างกันแล้วแต่ก็ยังสามารถทำงานร่วมด้วยได้
“เรื่องงานของเราที่ทำด้วยกันไม่มีผลกระทบอะไรครับ เราแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว อันนี้ไม่มีปัญหา แต่ก็คงยังไม่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ก็คงไม่ทันทีหรอกครับ คงต้องมีเวลานิดนึง จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้หายกันไปนานมาก แต่ช่วงนี้เราตั้งใจห่างเพราะเขามีงานเยอะ เป็นความตั้งใจว่าช่วงนี้เราเอางานของเราให้จบ ส่วนเราสองคนหรืองานของเรา ว่างๆกว่านี้ค่อยมาคุยกันเขาและผมยุ่งมาก บางทีคนที่มันสนิทกันมากมันจะใส่อารมณ์กันและกัน บางทีงานเราเยอะแล้วเราตึง ยิ่งกับคนใกล้ตัว มันก็เป็นสิ่งที่แย่ในมนุษย์เนอะ เราชอบทำร้ายคนที่อยู่ใกล้ตัว คนที่เข้าใจเรา เลยอาจจะต้องโฟกัสเรื่องงานกัน โดแกก็คงมีเฮิร์ตบ้างแต่เราไม่ได้ไปแบบไม่ดี ไม่ได้มีเรื่องเบาะแว้ง แค่ตอนนี้มันไม่ได้ เราจำสิ่งดีๆ เราแฮปปี้ที่ได้เจอ ได้รู้จักเขา ตอนนี้ก็โสดครับ เป็นเรื่องของปัจจัยหลายอย่างแต่ไม่เกี่ยวมือที่ 3"
ที่มา: manager.co.th