ผู้อำนวยการสร้างชื่อดัง เปิดเผยว่ายักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์ Warner Bros.กำลังเล่นลูกไม้ไม่ยอมให้หนังใหม่ของทาง The Weinstein Co.ได้ใช้ชื่อ The Butler ด้วยข้ออ้างว่าเป็นชื่อที่ซ้ำกับผลงานเก่าของพวกเขา แต่อันที่จริงแล้ว Warner Bros.ต้องการใช้เรื่องนี้มาเป็นข้อต่อรอง เพื่อแลกกับสิทธิ์หนัง The Hobbit เท่านั้น สงครามแย่งชื่อหนัง The Butler ระหว่าง Warner Bros. และ The Weinstein Co. ทำท่าว่าจะบานปลายไปใหญ่ เมื่อ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ออกมาแฉผ่านรายการ CBS This Morning ว่ายักษ์ใหญ่แห่งฮอลลีวูดมีจุดประสงค์แอบแฝง ที่ไม่ยอมให้หนังใหม่ของเขาใช้ชื่อ The Butler
The Butler ผลงานใหม่จาก The Weinstein Co.ของผู้กำกับ ลี แดเนียล ที่เล่าถึงชีวิตของพ่อบ้านผิวสีของทำเนียนบขาว ที่ทำงานให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึง 8 ท่านระหว่างปี 1952 ถึง 1986 ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งข้อพิพาทใหญ่ เมื่อทาง Warner Bros.ได้อ้างว่าหนังเรื่องนี้ใช้ชื่อซ้ำหนังเก่าของพวกเขาเมื่อปี 1916 ที่เป็นหนังสั้นขาวดำ ที่มีความยาวเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ที่มาออกรายการ This Morning พร้อมกับทนายความ เดวิด บอยส์ และ คริส ดอดด์ ประธานของสมาคมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอเมริกา ได้เปิดเผยว่าอันที่จริงแล้ว Warner Bros.มีเหตุผลแอบแฝงในการอ้างเป็นเจ้าของชื่อ The Butler “มีผู้บริหารของ Warner Brothers 2 คน ที่ถามผมว่าถ้ายอมคืนสิทธิ์ในหนัง The Hobbit พวกเขาก็จะถอนฟ้องเช่นเดียวกัน”
“ใช้หนังสั้นเมื่อปี 1916 เนี่ยนะ? นี่มันเป็นวิธีของอันธพาลชัดๆ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่รังแกเด็กเห็นๆ” ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน กล่าว
โดยตอนนี้ The Weinstein Co.มีส่วนถือสิทธิ์ในหนังไตรภาค The Hobbit ที่ Warner Bros.จัดจำหน่ายอยู่ในสัดส่วนที่ไม่สูงนัก แต่ด้วยความสำเร็จที่แค่ภาคแรกก็กวาดเงินไปเกิน 1,000 ล้านเหรียญทั่วโลกแล้ว สิทธิ์ดังกล่าวก็ถือว่ามีมูลค่าอยู่ไม่น้อย
คริส ด็อด ตัวแทนจากสมาคมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฯ ยังเปรยว่าเขาอยากเห็นสองสตูดิโอใหญ่แห่งฮอลลีวูดหยุด “สงครามที่โง่เง่า” นี้เสียที “ทั้งสองฝ่ายควรจะนั่งลง และแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น ยังจะมีขั้นตอนของชั้นอุทธรณ์ สางปัญหากันผ่านช่องทางนั้นจะดีกว่า ไม่มีเหตุผลเลยที่นี่จะกลายเป็นประเด็นใหญ่โต”
ฝ่าย Warner Bros.เองได้ออกแถลงการณ์เช่นเดียวกัน ด้วยการอ้างความเห็นจาก New York Times ที่สงสัยว่า The Weinstein Company เองต่างหากที่กำลังใช้ปัญหาข้อพิพาท ที่เกิดขึ้นได้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ มาตีข่าวเพื่อโปรโมตหนัง ด้วยการพยายามบิดเบือนเรื่องราวให้คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง
“Weinstein Company นั้นช่ำชองระดับผู้เชี่ยวชาญพิเศษอยู่แล้วในเรื่องแบบนี้ คำตัดสินชี้ขาดในเรื่องนี้อ้างอิงจากกฎของสมาคมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฯ เอง ทุกอย่างเป็นไปโดยที่ทาง Warner Bros.ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับหนังของ ลี แดเนียลส์ และเราเองก็สนับสนุนเป้าหมายทางศิลปะของคนทำหนังอยู่แล้ว คำกล่าวอ้างของ Weinstein Company นั้นถือว่าเป็นการมุ่งโจมตี และตรงข้ามกับความจริงโดยสิ้นเชิง” Warner กล่าวพร้อมยืนยันพวกเขาไม่ได้มีข้อพิพาทใหญ่โตอะไร ทั้งเรื่องชื่อ The Butler หรือสิทธิ์ของ The Hobbit
ที่มา: manager.co.th