Author Topic: “กิ๊ฟ วรรธนะ” แต่งสาวเวิร์คพ้อยท์ เผยรักไม่หวาน แต่ห่วงใยให้กัน  (Read 663 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai






    “กิ๊ฟ วรรธนะ” สละโสดสาวกับสาวเวิร์คพ้อยท์ เผยหมั้นกันตั้งแต่ก่อนแม่เสีย สินสอดหลักล้าน คบหากันมา 5 ปีแล้ว แต่ความรักไม่หวานไม่ค่อยบอกรักกันแต่แสดงความห่วงใยให้กัน
       
       “กิ๊ฟ วรรธนะ กัมทรทิพย์” ควง “ตาล ผกาพันธุ์ เสถียร์กาล” สาวเวิร์คพ้อยท์ ฉลองวิวาห์ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ผูกข้อมือหมั้นหมายกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนที่แม่ของกิ๊ฟจะเสียชีวิต เผยฝ่ายหญิงเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวคบกันมา 5 ปีแล้ว
       
       “เจ้าสาวผมชื่อน้องตาลเขาทำอยู่ที่บริษัทเวิร์คพ้อยท์ส่วนผมทำที่เจเอสแอล เราไม่ได้ทำงานแล้วมาเจอกันแต่น้องสาวผมเป็นคนแนะนำให้รู้จัก เพราะว่าน้องตาลเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวก็เลยได้รู้จักกัน ได้พูดคุยกันจนมาเป็นแฟนกันครับ จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ 5 ปีแล้วครับ”
       
       “หลังจากที่เราได้คบและรู้จักกันแล้วหลายๆ อย่างน้องตาลทำให้เรารู้สึกว่าน้องคนนี้ใช้ชีวิตกับเราได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเรื่องของอุปนิสัย และก็โดยส่วนตัวผมผมเป็นคนที่ช่างจุกจิกคนที่จะมาใช้ชีวิตกับผมได้ต้องมีความอดทนสูง น้องเขาเป็นคนที่มีความอดทนสูงแล้วก็มีความเป็นผู้ใหญ่มาก ผมว่าหลายๆ อย่างที่ผมพูดมาเป็นปัจจัยที่ทำให้เราสองคนได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในวันนี้”
       
       “กิ๊ฟ” เผยเตรียมงานแต่งเรียบร้อยแล้วค่อยขอเจ้าสาวแต่งงาน
       “เคยคุยกันเหมือนกันว่าถ้าเกิดเราแต่งงานด้วยกันแล้วเนี่ยเราจะเป็นยังไงนะ อยากทำสถานการณ์เหมือนคู่อื่นๆ ไปตามร้านอาหารแล้วก็เซอร์ไพร์สใหญ่ๆ โดยมีคนเยอะๆ แต่เขาอายไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ เขาเป็นคนง่ายๆ เรียบง่าย ผมก็เลยขอแต่งงานที่บ้านของผมง่ายๆ วันหนึ่งเขามาที่บ้านแต่กว่าจะมีวันนี้ได้ก็ยังไม่ยอมขอตั้งนาน เพราะเตรียมโรงแรมแล้วเตรียมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้วก็มาขอช่วงหลังๆ นี่เอง ก็แอบงอนๆ นิดนึงว่านี่จะไม่ขอฉันแต่งงานแล้วใช่ไหม คืองานก็เตรียมไว้แล้วทุกอย่างเตรียมหมดแล้วแต่เธอยังไม่ขอฉันแต่งงานเลยนะ ขอฉันก่อนหรือเปล่าค่อยทำอย่างอื่นอะไรอย่างนี้ ท้ายที่สุดคือจริงๆ เราอยากจะขอกันวันที่เราคิดว่าเป็นวันสำคัญ ตอนนั้นเขาก็ใจร้อนก็ยังไม่ได้ขอเขาตอนนั้น”
       
       น้ำตาล : “คือต้องเล่าก่อนว่าตาลรู้จักพี่กิ๊ฟมานานมากแล้ว เพราะว่าเป็นเพื่อนสนิทกับน้องสาวเขา เวลาน้องเขาจะมาปรับทุกข์หรือว่าอะไรก็จะเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟัง ก็พอจะทราบอยู่แล้วว่าพี่กิ๊ฟเป็นคนยังไง แล้วพอมาได้คุยกันสไตล์เราก็เหมือนกันมากนิสัยเหมือนกัน”
       
       กิ๊ฟ : “คือการที่เขารู้มาก่อนไม่ใช่เรื่องดีนะครับ เขาเป็นเพื่อนสนิทน้องสาวผมน้องสาวผมเวลามีเรื่องอะไรในบ้านเขาก็จะบ่นให้กับเพื่อนเขาฟัง วันหนึ่งเพื่อนสนิทของเขาก็เป็นแฟนผม ที่บอกว่าไม่ใช่เรื่องดีคือเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเราตั้งแต่ไหนแต่ไร แฟนคนนั้นเป็นยังไงคนโน้นเป็นยังไง เขารู้เรื่องเราแต่เราไม่รู้เรื่องเขา แต่พอเราเริ่มเปิดใจกันลองคบกันพอเขารู้เรื่องราวของเราปั๊บมันก็จูนกันไปได้ง่าย มันก็ไม่มีมีอะไรเฟคกันมากเราเคยคุยกันว่าคู่เรามันไม่เหมือนกับคู่อื่นๆ ที่มีโปรโมชั่นเยอะมาก แต่เราสองคนก็รู้สึกเหมือนกันได้ว่าคบกันแล้วจากวันนั้นถึงวันนี้ 5 ปี ไอ้ที่เริ่มต้นจากที่ไม่มีโปรโมชันมากวันนี้มันเริ่มมากขึ้นดีมากขึ้น มันก็รู้สึกดีกว่าตอนแรกที่มีโปรโมชั่นดีอยู่ดีๆ มันก็เริ่มจางลง”
       
       “แต่ก็มีปัญหาบ้างครับคืออย่างที่ผมบอกผมเป็นคนที่เวลาคิดอะไรแสดงอะไรผมก็บอกมาตรงๆ ผมไม่ใช่คนเก็บอะไรมากฉะนั้นเวลาที่เขามารู้จักผมใหม่ๆ ผมเป็นคนดียังไงไม่ดียังไงก็แสดงออกเลย ช่วงแรกเขาก็อาจปรับตัวลำบากก็มีทะเลาะกันมีเถียงกันบ้างแต่ก็เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น แต่พอเราเริ่มรู้จักกันมากขึ้นๆ เหมือนความเป็นตัวของเราเองที่ไม่สนใจคนอื่นมันก็น้อยลงมันก็เริ่มแคร์ความรู้สึกของเขามากขึ้น เหมือนในขณะเดียวกันเขาก็ปรับตัวเข้าหาผมในสิ่งนี้มันทำให้เราปรับตัวเข้าหากันได้มันเป็นมุมมอง แล้วก็การเอาใจใส่ดูแลซึ่งกันและกันครับ วันหนึ่งเราได้อยู่ด้วยกันมันทำให้เราสองคนลดทิฐิและรู้สึกว่ามันเป็นเหตุผลส่วนตัวเกินไปแล้วก็จะเข้าใจอีกคนหนึ่งมากขึ้น”
       
       สินสอดหลักล้านเก็บหอมรอมริบมาตั้งแต่เข้าวงการ
       “พอผมรู้ว่าจะมีวันนี้ผมก็เริ่มเก็บแล้วก็บางส่วนที่ผมเริ่มสะสมตั้งแต่เข้าวงการ ก็จะมีแหวน นาฬิกา มีเงินสดบ้างประมาณพอหอมปากหอมคอ แหวน 2 กะรัตกว่าครับ ก็เป็นแหวนที่เขาชอบแล้วก็ไม่เคยพาเขาไปซื้อด้วยนะครับแต่ผมไปซื้อเองคือตัดสินใจซื้อไปก่อนก็แอบวัดไซส์นิ้วเขาแล้วก็ไปสั่งทำแหวน ปรากฎว่าใหญ่ไปท้ายที่สุดก็เลยต้องไปปรับแหวนแต่เขาก็ชอบมากไม่คิดว่าเราจะซื้อวงนี้ ส่วนเรื่องสินสอดก็หลักล้านครับ”
       
       เผยจริงๆ แล้วหมั้นกันตั้งแต่ก่อนแม่ของ “กิ๊ฟ” เสียชีวิตแล้ว
       “จริงๆ แล้วผมผูกข้อไม้ข้อมือแต่งนานแล้ว ตามฤกษ์นี้ผมหาไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาปีที่แล้วเพื่อที่จองโรงแรมเตรียมงานในวันนี้ แต่คุณแม่ผมมาเสียชีวิตก่อนเป็นเส้นเลือดในสมองแตกกะทันหัน ระหว่างที่คุณแม่ยังมีลมหายใจอยู่ญาติๆ คุณพ่อก็บอกให้เราสองคนไหนๆ ปีหน้าจะแต่งงานแล้วก็เลยให้สองคนผูกข้อไม้ข้อมือ ถ้าเกิดให้คุณแม่หมดลมหายใจก็ยังจัดพิธีมงคลได้ไม่ได้ต้องรอไปประมาน 3 ปี ก็โดยธรรมเนียมเหมือนเราผูกข้อไม้ข้อมือไปแล้ว ในวันนี้ก็พิธีหมั้นช่วงเช้าเราก็เลยตัดออกไปก็เลยเหลือพิธีช่วงเย็นอย่างเดียว”
       
       “เราผูกข้อมือก่อนที่คุณแม่เสียประมาณ 26 กุมภาพันธ์ปีนี้ที่โรงพยาบาล แต่ระหว่างนั้นก็จัดผูกข้อไม้ข้อมือที่บ้านเจ้าสาวมีคุณพ่อแล้วก็ญาติของทางเจ้าสาวงานนั้นมีแค่ 6 ท่านเท่านั้นเอง แล้วก็กลับมาบอกคุณแม่แล้วคืนนั้นคุณแม่ก็เสียชีวิต”
       
       วางแผนฮันนีมูนฝรั่งเศส
       “เราสองคนวางแพลนจะไปยุโรปเพราะเราไม่เคยไปเที่ยวทางยุโรปก็จะเป็นอิตาลีฝรั่งเศสช่วงเดือนตุลานี้ประมาณ 10 กว่าวันครับ ส่วนเรื่องลูกยังครับคงจะเที่ยวกันใช้ชีวิต2คนก่อนวางแผนไว้น่าจะเป็นปีหน้าค่อยเริ่มอาจเป็นช่วงปลายปีก็ได้ ส่วนเรือนหอก็คงเป็นที่บ้านผมครับเป็นหลังเก่า 7 ปีแล้วแถวเกษตรเลียบทางด่วนเอกมัย”
       
       ไม่มีคำมั่นสัญญา และไม่ค่อยบอกรักกันมีแต่ความห่วงใยให้กัน
       “อย่างที่บอกเราสองคนเป็นคนเรียบง่ายเราจะไม่เอาอะไรที่ผูกมัดเราสองคนมายังนั้นอย่างนี้ แต่อย่างที่บอกเราคบกันไปน้องตาลก็ถามคบไปแล้วเรื่องอนาคตยังไง เอาตรงๆ ผมก็ไม่ได้วางแผนเป็นคนใช้ชีวิตไปเรียบง่ายแล้วก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดพยายามห่วงใยเขาเรามองไปทีละสเต็ป บางทีมองภาพที่มันใหญ่ๆ เหมือนความฝันแล้วเราทำไม่ได้ผมขอให้คู่ของเราค่อยเป็นค่อยไป แล้วเขาก็เป็นแบบผมคืออาจเป็นใกล้เคียงกันนิสัยเหมือนกันทำให้เราอยู่ด้วยกันได้ เราก็ไม่ได้บอกรักกันทุกวันเพราะเราสองคนไม่ได้เป็นคู่สวีทต้องบอกรักเช้าเย็นเราเหมือนกับเป็นอะไรที่แสดงออกฉันรักเธอเธอรักฉันเราไม่เป็นอย่างนี้ แต่เราแสดงความห่วงใยมากกว่าเรื่องการห่วงใยการถามอะไรต่างๆ มากกว่าคำว่าฉันรักเธอ”
       
       “คือตั้งแต่วันที่ผมรู้จักมันก็ไม่ใช่แค่ปี 2 ปี ถึงแม้ว่าผมเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองคนอื่นมองว่าผมเรื่องเยอะมาก แต่เขารู้ว่าตั้งแต่เราคบกันมาเขารู้ว่าทุกอย่างที่ผมทำเพื่อเขาคนเดียว ถ้าตัดจากครอบครัวผมคือเขาคนเดียว แล้วก็หลายๆอย่างในงานให้เขาเป็นคนดูแลเขาอยากได้อะไรขอให้บอกเราทำได้เราก็จะทำให้”
       
       กิ๊ฟ : “ก็ขอบคุณพี่กิ๊ฟและครอบครัวที่ดูแลและก็ให้การต้อนรับตาลอย่างดีตั้งแต่เป็นเพื่อนน้องสาวจนถึงเป็นสถานะเป็นแฟนอาเฮียก็ขอบคุณมากค่ะ
       
       กิ๊ฟ : “บางทีเราไม่ได้พูดฉันรักเธอแต่เราจับมือกันโอบกันหอมกันผมจะเป็นคนแบบนั้น
       ตาล : “ไม่เป็นไรค่ะเป็นอย่างนี้ดีแล้ว ก็เดี๋ยวจะเพิ่มความหวานให้ละกันนะ คือตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้คือเขาเสมอต้นเสมอปลายเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น เขาชัดเจนตั้งแต่วันแรกที่เจอเราคุยกันชัดเจน เราค่อนข้างคบกันตอนอายุที่พอสมควรแล้วรู้ว่าเป้าหมายในวันข้างหน้าจะเป็นยังไง”
       
       กิ๊ฟ : "ของเขานี่เป็นลูกสาวคนเดียวแล้วก็เป็นหลานคนโต ตอนแรกที่เราคบกันกว่าจะไปเจอพ่อแม่ก็ประมานปีนึง

       ได้แต่ที่นี้พอไปเจอเสร็จปั๊บพอเขารู้ว่าจะมีวันนี้จริงๆ คุณแม่กับพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเขาก็บอกว่า ช่วยดูแลตาลด้วยนะเพราะตาลเป็นลูกคนเดียว คือคุณพ่อเขาเสียมันเหมือนกับโมเมนต์ของเราที่ไปเจอในสถานการณ์อย่างนั้น เราก็รู้สึกว่าแฟนเราเวลาเขาเจอเรื่องราวอะไรไม่ดีเข้ามาในชีวิตแล้วพี่เขาคุณแม่เขาฝากฝังกับเรามันเหมือนกับความรับผิดชอบของเรามันต้องมีมากขึ้นมันเหมือนเราต้องดูแลเขาให้ได้มันมากกว่าความรัก”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)