กสท ยิ้มหน้าบาน หลังตัวเลขโชว์ปี 2556 จะมีกำไร 887 ล้านบาท ดีขึ้นจากแผนพลิกฟื้นที่คาดว่าจะขาดทุน 1,807 ล้านบาท แต่ต้องรับรู้รายได้จากบีเอฟเคที 2.5 หมื่นล้านบาท “กิตติศักดิ์” ชี้ กสท เนื้อหอม 365 คอมมูนิเคชั่นขอเป็น MVNO ทำตลาด 3 แสนเลขหมาย พร้อมรายอื่นอย่างเอ็ม ลิ้งค์ เทสโก้ โลตัส นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด กสท เมื่อวันที่ 3 ก.ค. มีการรายงานเรื่องผลประกอบการ กสท โดยระบุว่าในปี 2556 กสท จะมีรายได้รวมอยู่ที่ 45,000-46,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากบีเอฟเคทีราว 25,000 ล้านบาท หรือ 62% ของรายได้รวม และอีก 38% หรือ 15,000 ล้านบาทมาจากรายได้ธุรกิจอื่นๆ ซึ่งส่งผลให้ กสท มีกำไรถึง 887 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวยังไม่รวมรายได้จากสัญญาสัมปทาน
จากเดิมตามแผนพลิกฟื้นธุรกิจของ กสท ระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2556-2560 ได้ประมาณการว่าในปี 2556 กสท จะติดลบ 1,807 ล้านบาท และในปี 2557 ติดลบ 11.5 ล้านบาท แต่ภายหลังจากการรับรู้รายได้ในปีนี้ทำให้คาดว่าในปี 2557 กสทจะไม่ติดลบแล้ว ส่วนรายได้ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ค. 2556) กสท มีรายได้รวม 15,774 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 16,090 ล้านบาท หรือขาดทุนราว 316 ล้านบาท
“ตอนนี้การดำเนินงานดีขึ้นกว่าแผนพลิกฟื้นถึง 2,694 ล้านบาท (จากขาดทุน 1,807 ล้านบาท เป็นกำไร 887 ล้านบาท) โดยมีปัจจัยมาจากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น และรายได้จากตัวบีเอฟเคทีที่ขายดีขึ้น”
ส่วนในประเด็นที่ กสท มีแผนการให้เอกชนเช่าใช้โครงข่ายเพื่อให้บริการ หรือ MVNO นอกเหนือจากเรียลมูฟของทรูที่เป็นอยู่รายเดียวนั้น ล่าสุดมีความเป็นไปได้ว่าบริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จะเป็นรายที่ 2 ในการทำ MVNO โดยเบื้องต้นคาดว่าจะขอเลขหมายในการทำตลาดที่ 3 แสนเลขหมาย ซึ่งจะทำให้ กสท มีรายได้ 300 ล้านบาท อีกทั้งยังมีบริษัทรายอื่นๆ ที่สนใจขอทำ MVNO อีก เช่น บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), เทสโก้ โลตัส และบริษัทประกันภัย
“กรณีกฤษฎีกาตีความสัญญา 3G ไม่ต้องผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ในอีก 2 สัปดาห์ กสท จะเรียกประชุมบอร์ดนัดพิเศษเพื่อหารือในประเด็นดังกล่าวก่อนจะรีบส่งรายละเอียดโครงการทั้งหมดให้กระทรวงไอซีทีต่อไปเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการขออนุมัติงบประมาณจำนวน 2.9 หมื่นล้านบาท (แบ่งเป็น 1.5 หมื่นล้านบาทเป็นค่าเช่าบีเอฟเคที และ 1.4 หมื่นล้านบาทเป็นการวางระบบสื่อสัญญาณเพื่อใช้ในโครงการนี้) จาก ครม.”
ส่วนกรณีที่บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และบริษัท ทรูมูฟ ยังไม่ได้โอนเสาโทรคมนาคมให้ กสท เนื่องจากรออนุญาโตตุลาการตัดสินว่าเสาโทรคมนาคมถือเป็นทรัพย์สินที่ต้องโอนให้รัฐตามสัญญา BTO หรือไม่ ซึ่งหากอนุญาโตตุลาการตัดสินว่าเสาโทรคมนาคมต้องโอนให้ กสท ก็มีความเป็นไปได้ว่า กสท อาจจะจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ร่วมกับกลุ่มทรู โดยการนำเสาสัญญาณโทรคมนาคมทั้งหมดมาเป็นสินทรัพย์ในกองทุนดังกล่าว
“คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องเสาโทรคมนาคมภายในสิ้นปีนี้แน่นอน เพราะการเจรจาล่าสุดผ่านไปได้ด้วยดี โดยทรูพร้อมที่จะโอนเสาทั้งหมดกลับมาให้ กสท ซึ่งในตอนนี้เหลือเพียงข้อกฎหมายบางข้อเท่านั้น ส่วนดีแทคเองคาดว่าในตอนนี้กำลังรอผลสรุปจากกรณีของทรูก่อนเพื่อเป็นตัวอย่างในการดำเนินการต่อไป”
Company Relate Link :
CAT
ที่มา: manager.co.th