Job & Healthy & Poem & Share Clip > Healthy Tips
เผยโรคอันตราย 15 โรค รับฤดูฝน
(1/1)
Nick:
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้โรคหลายชนิดสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วนั้น ล่าสุดนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลทุกแห่ง จับตาเป็นพิเศษตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2553 เป็นช่วง 90 วันอันตราย โดยโรคที่ต้องติดตามต่อเนื่อง 2 โรคคือ โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 และ โรคไข้หวัดนก เพราะหากมีโรคนี้เกิดขึ้นในฤดูฝน เชื้ออาจมีการผสมข้ามสายพันธุ์ได้ ดังนั้น กรมควบคุมโรคได้ออกประกาศเตือนประชาชนในการป้องกันโรคติดต่อ ที่มักเกิดขึ้นในฤดูฝน โดยมี 5 กลุ่มรวม 15 โรค ได้แก่...
1. กลุ่มโรคติดต่อทางน้ำและอาหาร ที่พบบ่อยคือ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ตับอักเสบสาเหตุเกิดจากกินอาหาร ดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน หรือกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
2. กลุ่มโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่พบบ่อยคือ โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบหลอดลมอักเสบ และโรคปอดบวม โดยเฉพาะโรคปอดบวมนั้นมีอันตรายอาจถึงชีวิตได้ อาการเริ่มจากไข้ ไอ หายใจเร็วหรือหอบเหนื่อย
3. กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง ที่พบบ่อยคือ โรคเลปโตสไปโรซิสหรือไข้ฉี่หนู อาการเด่น ๆ ของโรคนี้คือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะมักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและโคนขาอย่างรุนแรง และตาแดง
4. กลุ่มโรคติดต่อที่เกิดจากยุงที่สำคัญ 3 โรค ได้แก่ ไข้เลือดออกมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งกว่าร้อยละ 80เป็นยุงลายที่อยู่ในบ้านไข้สมองอักเสบ เจ อี (Japanese Encephalitis) มียุงรำคาญซึ่งมักแพร่พันธุ์ตามแหล่งน้ำในทุ่งนาเป็นตัวนำโรค และโรคมาลาเรีย มียุงก้นปล่องที่อยู่ในป่าเป็นพาหะนำโรค ทั้ง 3 โรคนี้อาการเริ่มจากมีไข้สูงปวดศีรษะมาก คลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะโรคไข้สมองอักเสบ อาจทำให้พิการภายหลังได้
5. กลุ่มโรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดง ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ใน น้ำสกปรก กระเด็นเข้าตา
นอกจากนี้ ยังมีโรคน้ำกัดเท้า ที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งเกิดจากการเดินลุยน้ำสกปรกนาน ๆ หรือต้องแช่น้ำ เดินลุยน้ำท่วมขังในช่วงที่มีฝนตกหนัก ถูกสัตว์มีพิษกัด ต่อย เช่น งู ตะขาบ แมงป่องที่หนีน้ำท่วมมาอาศัยในบ้านเรือน และโรคอาหารเป็นพิษจากกินเห็ดพิษที่ขึ้นเองตามธรรมชาติในป่า ในสวน ซึ่งพบในช่วงฤดูฝนทุกปี
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีไข้สูงและเช็ดตัวหรือกินยาลดไข้แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือไข้ยังไม่ลดภายใน 3วันแนะนำว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจรักษาที่ถูกกับโรค ห้ามกินยาจำพวกแอสไพรินเด็ดขาด โดยเฉพาะไข้เลือดออกไข้หวัดใหญ่ และโรคไข้ฉี่หนู ซึ่งจะมีเลือดออกตามอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายอยู่แล้ว หากกินยาแอสไพริน ซึ่งมีสารป้องกันเลือดแข็งตัวเข้าไปอีกจะทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น โอกาสเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ที่มา: kapook.com
Navigation
[0] Message Index
Go to full version