Author Topic: นายก อบต.ศรีสะเกษแฉ สาวสวยเอี่ยวพระดังรวยติดจรวด พ่วงลูกปริศนาอีก 1 คน  (Read 875 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


นายทองวรรณ จิตโชติ นายก อบต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ

 ศรีสะเกษ - นายก อบต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เผยสาวสวยเอี่ยวพระดังมีฐานะร่ำรวยเร็วแบบติดจรวด ซื้อสดที่ดิน 7 ไร่ใกล้สำนักสงฆ์ขันติธรรม และมีบ้านหรู 15 ล้านในกรุง พร้อมได้ลูกชายปริศนา 1 คนทั้งที่ยังไม่แต่งงาน ขณะข้าราชการและผู้นำชุมชนท้องถิ่นเมินเข้าร่วมกิจกรรมทำบุญที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ เตรียมหารือแก้ไขปัญหา เหตุทำให้ชื่อเสียง อ.กันทรารมย์เสียหาย
       
       วันนี้ (24 มิ.ย.) นายทองวรรณ จิตโชติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้เข้าไปให้กำลังใจ นางลอน มนัส เจ้าของที่ดินสำนักสงฆ์ขันติธรรมมาแล้วในวันที่เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ เนื่องจากถูกโทรศัพท์ข่มขู่อุ้มฆ่า โดยได้แจ้งกับนางลอนว่ากลุ่มประชาชนชาว อ.กันทรารมย์ และบรรดาผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกคนพร้อมให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มที่หากไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกข่มเหงรังแกจากกลุ่มลูกศิษย์พระดังรูปหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งนางลอนก็ได้ขอบคุณที่ผู้นำท้องถิ่นจะให้ความช่วยเหลือ
       
       นายทองวรรณกล่าวต่อว่า กรณีสำนักสงฆ์ขันติธรรมนั้น ชาวบ้านในเขต อ.กันทรารมย์ รับไม่ได้ เนื่องจากปกติการจัดงานต่างๆ ของวัดทุกแห่งจะมีการปักธงชาติ และธงธรรมจักร แต่พระดังแห่งนี้ปักธงที่มีตราสัญลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งตนไม่ค่อยเห็นชาวบ้านในเขต อ.กันทรารมย์เข้าไปทำบุญที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอ หรือข้าราชการทุกส่วน นายก อบต.ทุกตำบล รวมทั้งนายก อบต.ดู่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในเขต ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ ซึ่งอยู่ใกล้สำนักสงฆ์ขันติธรรม ก็ไม่มีใครเข้าไปร่วมกิจกรรมหรือทำบุญที่สำนักสงฆ์แห่งนี้แต่อย่างใด พูดได้ว่ามีชาว อ.กันทรารมย์น้อยมากที่เข้าไปทำบุญที่สำนักสงฆ์แห่งนี้
       
       นายทองวรรณกล่าวต่อว่า เมื่อประมาณปี 2551 ป้าของตนได้เข้าไปถวายสำรับพระรูปหนึ่งที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ปรากฏว่าได้เจอสาวสวยคนหนึ่งแต่งชุดนอนเดินออกมาจากห้องของพระชื่อดังรูปหนึ่ง ซึ่งป้าของตนรู้จักผู้หญิงคนดังกล่าวดีว่าชื่ออักษรย่อ “ม” เป็นสาวสวยที่มีบ้านอยู่ไม่ไกลจากสำนักสงฆ์ขันติธรรม และเรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มชาวบ้านใกล้สำนักสงฆ์แห่งนี้อย่างกว้างขวาง ขณะนี้สาวสวยคนดังกล่าวยังไม่ได้แต่งงานแต่มีลูกชาย 1 คน ปัจจุบันเรียนอยู่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (ป.2) โรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่ง และสาวสวยคนนี้มีฐานะดีขึ้นอย่างรวดเร็วมากทั้งที่ไม่ได้มีอาชีพการงานอะไรแต่มีเงินสดซื้อที่ดิน 7 ไร่ใกล้กับสำนักสงฆ์ และมีบ้านขนาดใหญ่มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาทในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ
       
       นายทองวรรณกล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่สำนักสงฆ์ขันติธรรมจัดงานทอดกฐินจะมีการจัดทำต้นกฐินจำนวน 9 ต้น สูงต้นละ 9 เมตร ต้นหนึ่งๆ ไม่รู้ว่าได้เงินกี่ล้านบาท และปีล่าสุดจัดทำต้นกฐินกว่า 36 ต้นได้เงินจำนวนมาก แต่ไม่ทราบว่าเงินทอดกฐินและเงินบริจาคเก็บรักษาอย่างไร นำเอาไปใช้อะไรบ้าง ซึ่งตนเห็นว่าการจัดงานทุกอย่างของสำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นธุรกิจไปหมด แม้แต่พวกเราเข้าไปปักป้ายจัดงาน รวมทั้งทำงานต่างๆ ภายในสำนักสงฆ์ก็ต้องจ่ายค่าจ้างเป็นรายวันและรายเดือน อีกทั้งไม่เคยเห็นพระสำนักสงฆ์แห่งนี้ออกบิณฑบาต แต่จะจ้างแม่ครัวมาทำอาหารถวายพระสงฆ์โดยตรง
       
       “พวกเราที่เป็นกลุ่มผู้นำท้องถิ่นได้มีการประชุมพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วเห็นว่าพระชื่อดังไม่ใช่พระอีกต่อไป เพราะไม่เหมือนกับพระทั่วไปที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ซึ่งพวกเราผู้นำท้องถิ่นทั้ง อ.กันทรารมย์จะมีการประชุมหารือกันเกี่ยวกับพระดังในเรื่องนี้ เพราะทำให้ชื่อเสียงของ อ.กันทรารมย์ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก” นายทองวรรณกล่าว

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)