Author Topic: ชไนเดอร์ส่ง SmartStruxure เจาะอาคารขนาดเล็กในไทย  (Read 1179 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


นายเรืองชัย จารุรังสีพงค์ รองประธานบริษัท กลุ่มธุรกิจโซลูชั่นอาคาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ไทยแลนด์


ชไนเดอร์ชี้วิกฤตด้านพลังงานกลายเป็นโอกาสของการทำธุรกิจด้านการจัดการอาคาร เผยเทรนด์อาคารขนาดเล็กเริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานด้วยเทคโนโลยีมากขึ้น ส่งระบบการจัดการอาคารด้วยโซลูชันใหม่ SmartStruxure ลงตลาด ชูจุดขายช่วยจัดการทุกสิ่งในอาคารด้วยซอฟต์แวร์ตัวเดียว เรียกดูข้อมูลแบบเรียลไทม์และใช้งานผ่านมือถือได้ เล็งเจาะอาคารสร้างใหม่ในเมืองไทยทุกกลุ่มธุรกิจ
       
       นายเรืองชัย จารุรังสีพงค์ รองประธานบริษัท กลุ่มธุรกิจโซลูชันอาคาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ไทยแลนด์ กล่าวว่า วิกฤตพลังงานในปัจจุบันกลายเป็นโอกาสที่ดีของชไนเดอร์ในการทำตลาดด้านการจัดการอาคารเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อการลดการใช้พลังงาน และมองเห็นว่าจะเป็นส่วนช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นด้วยการใช้เทคโนโลยี โดยที่ผ่านมาชไนเดอร์ได้มีระบบการจัดการอาคารหรือ BMS (Building Management system) ให้บริการอยู่แล้ว แต่เป็นระบบสำหรับอาคารขนาดใหญ่ จึงได้มีการลดขนาดลงเพื่อให้เหมาะสมกับองค์กรหรืออาคารขนาดเล็กตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว
       
       “อาคารขนาดเล็กทั่วโลกเริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อการจัดการพลังงานมากขึ้น และกลายเป็นเทรนด์ทั่วโลกที่มีความต้องการในรูปแบบนี้ ซึ่งตึกเล็กๆ เหล่านี้ต้องการการจัดการที่ไม่ซับซ้อนมาก ชไนเดอร์จึงต้องหันมาพัฒนาระบบการจัดการที่เหมาะสมกับลูกค้าเหล่านี้มากขึ้น โดยเน้นให้ลูกค้าสามารถใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม ดูแลรักษาสภาพแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยในการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและเข้าถึงระบบการจัดการอาคารได้ทุกที่ทุกเวลา”
       
       ชไนเดอร์ได้นำเสนอโซลูชัน SmartStruxure ที่ประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ผสานรวมเรื่องของวิศวกรรมระบบ การติดตั้ง และการบริการไว้ในหนึ่งเดียว เพื่อช่วยให้การจัดการและการใช้พลังงานในส่วนของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียกดูข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ผ่านเว็บ แสดงผลด้วยกราฟิกที่สวยงามและแม่นยำ พร้อมมุมมองให้เห็นถึงแนวโน้มต่างๆ รวมทั้งยังจัดทำรายงานได้หลากหลายแบบ นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันสำหรับโมบายล์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันอีกด้วย
       
       นายเรืองชัยกล่าวว่า โซลูชัน SmartStruxure ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ StruxureWare Building Operation Software ที่ใช้ในการตรวจตราควบคุมและจัดการ ทั้งระบบควบคุมความร้อน ระบบระบายอากาศ และระบบปรับอากาศ (HVAC) ในภาพรวม ทั้งระบบพลังงาน แสงสว่าง ระบบจัดการอาคาร และระบบรักษาความปลอดภัยรวมทั้งหมดไว้ในหนึ่งเดียวโดยมีอินเตอร์เฟซที่สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องตามความต้องการของแต่ละองค์กรได้ นอกจากนี้ยังมีโซลูชันที่สามารถเชื่อมต่อไปยังแอปพลิเคชัน StruxureWare อื่นๆ ในกลุ่มได้อย่างง่ายดาย
       
       “โซลูชัน SmartStruxure เป็นซอฟต์แวร์ระบบเปิด จึงช่วยให้สามารถใช้งานร่วมกับระบบอื่นได้อย่างราบรื่น ทั้ง LON®, BACnet®, Modbus® และเว็บเซอร์วิสอื่นๆ รวมทั้งเว็บเซอร์วิส EcoStruxure™ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค นอกจากนี้ โซลูชัน SmartStruxure ยังช่วยให้ใช้บริการขั้นสูงในการจัดการอาคารได้มากมาย เช่น การวิเคราะห์การทำงานของอุปกรณ์ประเภทเครื่องกลได้ในแบบอัตโนมัติ รวมถึงช่วยให้ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์อื่นในอาคารได้สูงสุด”
       
       ทั้งนี้ โซลูชันดังกล่าวยังพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของภาคตลาดหลักๆ และรองรับโดยเว็บเซอร์วิส EcoStruxure ที่รวมแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์สำคัญในระดับเอนเตอร์ไพรส์ทั้งหมดไว้ จึงเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถรองรับความต้องการในการปรับขยายระบบในอนาคตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยตอบสนองการใช้พลังงานด้วยการเชื่อมโยงแบบวันซิสเต็มส์ ที่สามารถเชื่อมโยงกับโซลูชันเดิมของชไนเดอร์ได้ด้วยการอัปเกรด
       
       นายเรืองชัยกล่าวว่า สำหรับการเจาะตลาดในเมืองไทยจะเน้นอาคารสำนักงานที่เจ้าของให้ความสำคัญต่อการจัดการด้านพลังงาน เช่น โรงแรม โรงพยาบาล ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าในระบบ BMS เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ เซ็นทรัลพระราม 9, รถไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับการทำตลาดของการเข้าไปหาลูกค้าคือการเข้าไปหาลูกค้าโดยตรง และผ่านพาร์ตเนอร์ที่ช่วยขายระบบที่มีอยู่ประมาณ 5-6 ราย นอกจากนี้จะมีการจัดงานสัมมนาและอีเวนต์ต่างๆ ที่จะสื่อสารถึงตัวลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
       
       นอกจากในกรุงเทพฯ แล้ว ชไนเดอร์ยังมีออฟฟิศอยู่ที่ระยองเป็นหน่วยดูแลอยู่ภาคตะวันออก มีวิศวกรประจำอยู่ในพื้นที่อย่างเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง สุราษฎ์ธานี ภูเก็ต โดยสัดส่วนลูกค้าส่วนใหญ่ยังอยู่ที่กรุงเทพฯ มากกว่าต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันคู่แข่งมีอยู่ 4-5 ราย
       
       Company Related Link :
       Schneider

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)