ทีวีดิจิตอล ไม่ใช่ทั้งทีวีดาวเทียม (Satellite TV) และเคเบิลทีวี (Cable TV) ทีวีดิจิตอลเป็นวิวัฒนาการล่าสุดของการส่งสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดิน (Terrestrial Television) ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนทีวีแอนะล็อก (Analog TV) ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มีหลักการทำงานเหมือนกับทีวีแอนะล็อก คือส่งสัญญาณจากเสาโทรทัศน์ของสถานีผ่านอากาศ เข้าเสาก้างปลาหรือหนวดกุ้งของเครื่องรับโทรทัศน์ที่บ้าน แต่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงกว่า ด้วยการเปลี่ยนการเข้ารหัสจากแบบแอนะล็อกเป็นดิจิตอล ทำให้ 1 ช่องแอนะล็อกกลายเป็น 48 ช่องดิจิตอลทันที ทั้งยังรองรับการส่งสัญญาณภาพแบบ Full HD ความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซล สัดส่วนภาพ 16:9 Wide Screen และรองรับการส่งสัญญาณเสียงแบบรอบทิศทาง (Digital Surround) ด้วย ประเทศไทยจะเปลี่ยนระบบโทรทัศน์ไปเป็นระบบดิจิตอลบนมาตรฐาน DVB-T2 (Digital Video Broadcasting-Second Generation Terrestrial) ทั้งหมด โดยจะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงในปี พ.ศ. 2558-2563 ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับผู้บริโภค เพราะจากที่เคยมีฟรีทีวีให้ดูอยู่แค่ 6 ช่อง นับจากนี้ไปก็จะมีช่องให้เลือกมากขึ้นถึง 48 ช่องทีเดียว
วิธีรับชมทีวีดิจิตอลก็ไม่ยาก ใช้เสาอากาศเดิมกับทีวีเดิมที่มีอยู่นั่นแหละ เพียงแต่ซื้อกล่องแปลงสัญญาณที่รองรับมาตรฐาน DVB-T2 มาต่อพ่วงเข้าไปแค่นี้ก็ดูทีวีดิจิตอลได้แล้ว หรือถ้าใครอยากซื้อโทรทัศน์ใหม่ก็ย่อมได้ ขอให้รองรับมาตรฐาน DVB-T2 ได้เป็นพอ ย้ำว่าต้อง DVB-T2 เท่านั้น หากเป็นมาตรฐานอื่น เช่น DVB-T (ไม่มีเลข 2 ต่อท้าย) แบบนี้เป็นคนละมาตรฐานกัน ดูไม่ได้
ในส่วนของภาครัฐนั้นก็ให้การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยมีนโยบายแจกคูปองส่วนลดให้แก่ทุกครอบครัวเพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อกล่องรับสัญญาณหรือทีวีเครื่องใหม่ที่รองรับมาตรฐาน DVB-T2 ด้วย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มแจกคูปองได้ในปี พ.ศ. 2557
ถึงบรรทัดนี้ เชื่อว่าคุณผู้อ่านคงเห็นภาพโดยรวมของระบบทีวีดิจิตอลในประเทศไทยบนมาตรฐาน DVB-T2 แล้ว และพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาถึงเมืองไทยในอีก 2 ปีข้างหน้า ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.samsung.com/th/smarttv/digitaltv/ที่มา: manager.co.th