ดีแทคเตรียมเสนอ กสทช.พร้อมส่งคืนคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่ไม่ได้ใช้ และอยู่ในสัมปทานรวม 50 MHz ให้นำประมูล LTE ล่วงหน้า ชี้หากนำไปรวมกับของทรูและดีพีซีรวมไปถึงคลื่น 900 MHz ของเอไอเอสจะทำให้มีคลื่นความถี่รวม 100 MHz ที่จะทำให้การวางแผนด้านเครือข่าย LTE มีประสิทธิภาพมากขึ้น เผยเตรียมเปิดโครงข่าย TriNet สำหรับลูกค้าทั่วไป 23 กรกฎาคมนี้ พร้อมบุกวางโครงข่ายภาคเหนือหวังเจาะตลาดธุรกิจการค้าชายแดนด้วยเงินลงทุน 6,000 ล้านบาท นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า สำหรับการที่ กสทช.จะดำเนินการประมูลคลื่นความถี่ใหม่เพื่อให้บริการ LTE นั้น ดีแทคยินดีที่จะคืนคลื่นความถี่ 1800 MHz จำนวน 25 MHz ที่จะใกล้หมดสัญญาสัมปทานและไม่ได้ใช้งาน รวมไปถึงคลื่น 1800 MHz ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจำนวน 25 MHz เพื่อให้ไปรวมกับคลื่นความถี่ 1800 MHz จำนวน 12.5 MHz ของทรู และ 12.5 ของบริษัทดิจิตอลโฟน จำกัด ที่กำลังจะหมดสัญญาสัมปทานในวันที่ 15 กันยายน 2556 นี้ เพื่อนำทั้งหมดไปประมูล LTE ร่วมกัน
สอดคล้องกับที่เอไอเอสจะนำคลื่น 900 MHz ที่กำลังจะหมดสัญญาสัมปทานในอีก 2-3 ปีข้างหน้ามาให้ประมูลก่อน ซึ่งเมื่อรวมกับคลื่นความถี่ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วจะรวม 100 MHz ที่มีความเหมาะสมสำหรับการนำไปประมูลเครือข่าย LTE ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แต่ทั้งนี้ การยกคลื่นให้นำไปประมูลดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการที่มีอยู่ เนื่องจากในส่วนที่ยังอยู่ในสัญญาสัมปทานจนถึงปี 2561 นั้นจะยังคงให้บริการจนกว่าจะสิ้นสุด แต่การให้นำไปประมูลก่อนเพื่อที่จะทำให้รู้ว่าหลังจากประมูลแล้วดีแทคจะได้คลื่นความถี่ใดเป็นจำนวนเท่าใด เพื่อนำมาจัดการบริหารการให้บริการก่อนที่สัญญาสัมปทานจะหมดลงเพื่อให้เกิดการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้การเกิด LTE เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
“สำหรับในส่วนของการให้บริการ 3G 2100 MHz นั้น ก่อนหน้านี้ไม่ได้พูดว่าจะเปิดเมื่อไร เพราะอยากให้เปิดแล้วมีคุณภาพใช้งานได้จริงๆ โดยวันแรกที่จะเกิดขึ้นคือ 21 มิถุนายน ที่จะให้พนักงานกว่า 5,000 คนอยู่ในระบบ TriNet และในเดือนกรกฎาคมเริ่มให้ลูกค้าเข้าสู่ 3G TriNet ได้ในวันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม โดยในขณะนี้มีลูกค้าลงทะเบียนเครือข่าย TriNet แล้วกว่า 2 ล้านราย ซึ่งดีแทคตั้งเป้าลูกค้าในปีนี้กว่า 10 ล้านราย”
จอนกล่าวต่อว่า สำหรับการเลือกลูกค้าเข้าสู่บริการไตรเน็ตใหม่นั้น ในเบื้องต้นดูพฤติกรรมการใช้งานของเครื่องลูกค้าว่ารองรับเครือข่ายใหม่ได้หรือไม่ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าที่มาสมัครมีความพร้อมของอุปกรณ์รองรับได้ประมาณ 50% จากทั้งหมด นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาพื้นที่ที่อยู่มีจำนวนสถานีฐานรองรับพร้อมหรือไม่ โดยคาดว่าจะคัดเลือกลูกค้าเข้าเครือข่ายใหม่ในเบื้องต้นหลายแสนราย ในเบื้องต้นจะมีเซลไซต์พร้อมให้บริการทั่วประเทศ 3,000 สถานี และจะครอบคลุม 5,000 สถานีในเดือนตุลาคมนี้
“สำหรับการลดราคาลง 15% ตามข้อกำหนดของ กสทช.นั้นดีแทคได้ทำตามที่ กสทช.ต้องการ อย่างเช่นแพกเกจใหม่ของ TriNet นั้นจากเดิมที่ลูกค้าเคยจ่ายอยู่ 299 บาท จะปรับลดเหลือ 119 บาทแต่ได้ปริมาณนาทีและการใช้งานดาต้าเท่าเดิม หรือเดิมที่มีราคา 699 บาทใช้ได้ 350 นาที ใช้งาน 3G ได้สูงสุด 1 GB เป็นราคา 749 บาทแต่ใช้งานโทรได้ 400 และใช้งานดาต้า 3G ได้สูงสุด 3GB”
ด้านนายชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้าดีแทค กล่าวว่า ล่าสุดดีแทคได้ขยายโครงการ 77/77 อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริป ต่อไปยังภาคเหนือเพื่อเป็นการขยายเครือข่าย โดยดีแทคมองว่าภาคเหนือเป็นอีกภาคหนึ่งที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะมีการค้าขายรอบพรมแดนมีค่ามากกว่าปีละ 1 แสนล้านบาท มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานจากจีนตอนใต้มาถึงภาคเหนือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง การเติบโตของเอสเอ็มอีที่น่าสนใจ รวมไปถึงการเปิดเออีซีจะมีการสร้างการเติบโตที่เพิ่มขึ้น
“ในภาคเหนือดีแทคมีลูกค้ามากกว่า 4 ล้านราย ประกอบกับการใช้งานด้านดาต้ายังคงน้อยอยู่เฉลี่ย 33 MB ต่อคน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้สามารถกระตุ้นการใช้งานได้ ประกอบกับปัจจุบันการใช้งานสมาร์ทโฟนมีเพียง 15% เท่านั้น และมีเพียง 800,000 คนเท่านั้นที่ใช้อุปกรณ์ที่รองรับคลื่น 2100 MHz จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ดีแทคจะนำทั้งเครือข่ายและอุปกรณ์ที่รองรับเข้าไปให้บริการ”
สำหรับการลงทุนในภาคเหนือนั้น ดีแทคได้เตรียมเงินลงทุนไว้ 6,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี เพื่อทำการขยายเครือข่าย จากปัจจุบันที่ดีแทคมีสถานีฐานรวมทั้งหมด 3,000 และได้ทำการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า พัฒนาศักยภาพดีแทคคอลเซ็นเตอร์ให้พนักงานบริการลูกค้าได้ถึง 10 ภาษา และขยายช่องทางจัดจำหน่ายร่วมมือกับพันธมิตรในภาคเหนือ เปิด TriNet Partner ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการของดีแทคได้มากขึ้น และยังเป็นการช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้ชาวเหนืออีกด้วย
Company Relate Link
Dtac
ที่มา: manager.co.th