อินเทลดิ้นหนีตายในตลาดอุปกรณ์พกพา ประกาศพร้อมส่งชิปเทคโนโลยีการผลิต 22 นาโนเมตรใหม่ที่ออกแบบเพื่อใช้กับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ คาดทั้งอุปกรณ์โมบายล์แอนดรอยด์ที่ใช้ชิปอินเทลจะสามารถวางตลาดในราคาต่ำกว่า 200 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6,000 บาท เบื้องต้นจะทยอยเปิดตัวไตรมาส 4 ปีนี้เพื่อประเดิมตลาดในต้นปีหน้า เดวิด แมคคลอสกี้ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และธุรกิจ บริษัท อินเทล ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ยอมรับในงานเปิดตัวไมโครอาร์จิเทกเจอร์ “ซิลเวอร์มอนต์” ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ปัจจุบันอินเทลยังไม่มีส่วนแบ่งในตลาดอุปกรณ์แอนดรอยด์ แต่เชื่อว่าอินเทลจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 20% ได้ด้วยชิปรุ่นใหม่อย่างเบย์เทรล และเมอริฟิลด์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มลงตลาดในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2013 เป็นต้นไป
“แม้เราจะเป็นผู้ผลิตชิปอันดับ 2 ในตลาดชิปสำหรับอุปกรณ์เครือข่ายเคลื่อนที่ แต่ในตลาดแอนดรอยด์ อินเทลต้องเริ่มจากศูนย์ เราหวังว่าจะเริ่มต้นทำส่วนแบ่งตลาดแอนดรอยด์ให้ได้ 10-20% ก่อนจะขยายตลาดต่อไป”
เบย์เทรลและเมอริฟิลด์นั้นเป็นสถาปัตยกรรมชิปใหม่ที่อินเทลเชื่อว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมให้อินเทลในช่วงปลายปีนี้ถึงปีหน้า เบย์เทรลคือชิป 4 คอร์หรือควอดคอร์ที่สร้างบนสถาปัตยกรรมซิลเวอร์มอนต์ซึ่งอินเทลเตรียมไว้สำหรับใช้ในแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ได้รับการการันตีว่าเป็นชิปที่มีประสิทธิภาพมากกว่าชิปอะตอมที่อินเทลทำตลาดแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนในขณะนี้อย่างเมดฟิลด์ และคัฟเวอร์เทรลมากกว่า 2 เท่าตัว แถมยังประหยัดไฟมากกว่า
“คาดว่าแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ที่ใช้ชิปเบย์เทรลจะเริ่มเปิดตัวในไตรมาส 3 เพื่อวางตลาดในไตรมาส 4 ช่วงปลายปีนี้เราจะเห็นแท็บเล็ตอินเทลจากผู้ผลิตมากกว่า 15 รายในตลาด เรียกว่าตลาดแท็บเล็ตอินเทลจะขยายตัวอย่างชัดเจน” เอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว โดยย้ำว่าผู้ผลิตพีซีทุกรายจะจำหน่ายแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 และแอนดรอยด์ในสิ้นปีนี้
ขณะที่เมอริฟิลด์เป็นชิปควอดคอร์สำหรับใช้ในแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนที่อินเทลระบุว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุดในตลาด และยังมีประสิทธิภาพโดยรวมเหนือกว่าชิป 8 คอร์ หรือ “ออคตาคอร์” ด้วย โดยชิปเมอริฟิลด์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเมดฟิลด์และคัฟเวอร์เทรลดั้งเดิมมากกว่า 50% นี้เองที่อินเทลหมายมั่นปั้นมือว่าจะสามารถลุยตลาดอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้ในไตรมาส 1 ปีหน้า (หลังการเปิดตัวในไตรมาส 4) ท่ามกลางความร่วมมือกับ 12 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่พร้อมใช้ชิปของอินเทล
ปัจจุบันอินเทลถูกจับตามองว่าตกที่นั่งลำบากในตลาดอุปกรณ์พกพา เพราะหากมองในตลาดไทย สมาร์ทโฟนที่วางจำหน่ายโดยใช้ชิปอินเทลมีเพียงเอเซอร์เท่านั้น ส่วนเลอโนโวกำลังจะวางจำหน่าย ขณะที่ผู้ผลิตแท็บเล็ตซึ่งใช้ชิปอินเทล ได้แก่ ซัมซุง เอซุส เลอโนโว เอชพี และเดลล์ อย่างไรก็ตาม อินเทลมั่นใจว่าชิปใหม่สายพันธุ์ซิลเวอร์มอนต์จะสามารถทำให้ผู้ผลิตเปลี่ยนใจเลือกใช้งานมากขึ้น เนื่องจากโครงสร้างราคาที่จะไม่แพงอย่างที่หลายคนหวั่นใจ
“ไม่เพียงชิป แต่โครงสร้างราคาซอฟต์แวร์จะทำให้แท็บเล็ตวินโดวส์ 8 ราคาลดลงจากปัจจุบันที่ 600 เหรียญ มาอยู่ที่ 300-400 เหรียญ ขณะที่แท็บเล็ตแอนดรอยด์จะลดจาก 300-400 เหรียญเหลือต่ำกว่า 200 เหรียญ”
นอกจากนี้ เอกรัศมิ์ระบุว่า 2 ชิปใหม่จะทำให้อินเทลสามารถเข้าถึงตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดสำหรับผู้เริ่มต้นได้ (รุ่นราคาต่ำกว่า 6,000 บาท) จากปัจจุบันที่อินเทลยืนในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง-สูงมาตลอด
อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาต่ำกว่า 6,000 บาทในประเทศไทยของอินเทลอาจไม่ง่ายนัก เนื่องจากตลาดมีการแข่งขันอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่โอเปอเรเตอร์ไทยทั้งทรูและดีแทคต่างลุยเปิดตัวโทรศัพท์มือถือแบรนด์ตัวเองผ่านผู้ผลิต OEM ซึ่งจุดนี้อินเทลระบุว่ามีการเข้าไปเจรจาเพื่อเสนอตัวแก่โอเปอเรเตอร์ไทยและผู้รับจ้างผลิตโทรศัพท์มือถือเหล่านี้
“เรายังอยู่ระหว่างการคุยกับโอเปอเรเตอร์และผู้ผลิต OEM หลายราย จะยังไม่เห็นสินค้าในขณะนี้”
เบื้องต้นอินเทลคาดหวังว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรวมแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ 20% จากยอด 200 ล้านเครื่องทั่วโลก โดยแม้จะคาดหวังให้ธุรกิจชิปสำหรับอุปกรณ์โมบายล์เติบโต แต่อินเทลยืนยันว่าธุรกิจชิปคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กของอินเทลจะยังเป็นธุรกิจหลักเช่นเดิม โดยมั่นใจว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 90% จากทั้งหมด 350 ล้านเครื่องทั่วโลก
ข่าวนี้ถือเป็นอีกสัญญาณตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของแอนดรอยด์ ระบบปฏิบัติการที่ยักษ์ใหญ่โลกออนไลน์อย่างกูเกิลเป็นผู้พัฒนาขึ้น โดยอินเทลตัดสินใจข้ามไปให้ความสำคัญต่อตลาดแอนดรอยด์ โดยเมินแผนพัฒนาชิปสำหรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน 8 ซึ่งมีโนเกียเป็นผู้ผลิตรายหลักไป ทั้งที่อินเทลลงมือผลิตชิปสำหรับแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
Company Relate Link :
Intel
ที่มา: manager.co.th