“วุ้นเส้น-ชาคริต” แฮปปี้สุดๆ แต่งงานกันแล้วพากันรับทรัพย์ บอกชอบทำบุญทั้งคู่ก็อาจส่งเสริมให้การงานดีขึ้น ฝ่ายชายเผยตนเองชอบนั่งสมาธิสวดมนต์ วางแผนเรือนหอเสร็จมีลูก ตอนนี้ไปทำงานที่ไหนก็จะเอาวุ้นเส้นไปด้วย เพราะไม่รู้ชีวิตจะตายจากกันเมื่อไหร่ ตั้งแต่แต่งงานกันมาก็ดูเหมือนว่า “วุ้นเส้น วิริฒิพา แย้มนาม” กับ “ชาคริต แย้มนาม” จะดวงเฮงสุดๆ เพราะมีทั้งงานอีเวนต์คู่ รับพรีเซ็นเตอร์คู่ หรืองานเดี่ยวที่แยกกันอีกหลายงาน โบราณเขาว่าดวงหนุนนำกัน บวกกับการที่ชอบควงกันไปทำบุญเสริมดวงบ่อยๆ
ชาคริต : “ก็ดีครับแต่งงานกันแล้วดวงหนุนนำรับทรัพย์ตลอด จริงๆ เราเองก็ไม่ได้ไปเสริมดวงอะไรกันมากนะ เพราะชอบทำบุญกันทั้งคู่อยู่แล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าเราทำบุญกันมาเรื่อยๆ มันเลยทำให้เรามีทุกวันนี้ด้วยกัน ทำให้ชีวิตมันดีขึ้นถึงวันข้างหน้าต่อๆ ไปผมว่าคงเป็นเรื่องที่ดี ฉะนั้นเราก็คงจะทำบุญกันแบบนี้เรื่อยๆ”
“แต่เอาเข้าจริงๆ เวลาที่เราทำบุญเราก็ไม่ได้คิดหรือว่าหวังว่ามันจะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นรึเปล่า เราว่าถ้ามันจะดีขึ้นมันก็อยู่ที่ตัวเรามากกว่า แต่ถ้าทำบุญแล้วมันมาช่วยเสริมด้วยมันก็เป็นสิ่งที่ดี เราเองทำกันมาเยอะและทำตลอดอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเรามาคบมาแต่งงานกันแล้วเราเพิ่งมาทำบุญกันนะ เราต่างคนต่างชอบทำบุญกันอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยมีคนรู้เท่านั้นเอง เราชอบทำแล้วเราไม่ค่อยบอกใคร อย่างนั่งสมาธิผมเองนั่งทุกวันอยู่แล้วตรงนี้อาจจะไม่มีใครรู้แต่อาจจะเป็นการนั่งแบบสั้น แต่ถ้ามีโอกาสว่างจริงๆ ก็จะได้นั่งยาวๆ เป็นชั่วโมง อาจจะเป็นอาทิตย์เว้นอาทิตย์ เดือนเว้นเดือน แต่ถ้ากำหนดลมหายใจ เดิน ยุบหนอพองหนอนี่ทำทุกวันอยู่แล้ว”
วุ้นเส้น : “เราจะชอบไปกันส่วนตัวมากกว่า วุ้นเองก็เพิ่งมารู้ว่าเขาขนาดนี้ตอนที่แต่งงานกันแล้ว ก็แปลกใจเหมือนกันว่าเขานั่งสมาธิเก่งกว่าเราอีก เรายังนั่งได้แค่แป๊บเดียว แต่เขาสามารถนั่งได้นาน สวดมนต์ไหว้พระก็เป็นอะไรที่ดีมากๆ ค่ะ ถือว่าวุ้นโชคดี อย่างเวลาออกงานคู่กันเงินที่ได้เราก็จะแบ่งกันชัดเจน ถึงจะแต่งงานกันแล้วแต่ต่างคนต่างก็มีค่าใช้จ่ายของตัวเอง แต่ก็จะมีที่เราจะเก็บเพื่ออนาคตด้วยกันด้วย ก็จะมีวาระช่วงเวลาที่ต้องเก็บ”
ทั้งคู่เผยเรื่องการมีทายาทบอกเตรียมวางแผนไว้แล้ว แต่รอให้ที่บ้านเสร็จเรียบร้อยก่อน
วุ้นเส้น : “เราก็คุยกันไว้ว่าอยากจะมีตอนที่บ้านเราเสร็จเรียบร้อยแล้วอีกสักปีกว่าๆ เราก็จะเริ่มวางแผนเรื่องนี้กันเหมือนถ้าบ้านเสร็จแล้วน้องออกมาก็จะเหมือนว่าน้องมีทุกอย่างแล้ว เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกัน ก็เรียกว่ายังมีเวลาค่ะยังเด็กอยู่”
ชาคริต : “ ที่ไปเมืองนอกนี่ไปทำงานทั้งนั้น คืออย่างเมื่อก่อนที่ผมไม่ได้มีเขา เราก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายอะไร วันๆ ก็คิดว่าเราได้ทำแต่งานที่เรารักเต็มที่ทุกวัน เราแฮปปี้แล้ว ไม่ได้มีเหตุผลว่าจะต้องหยุดไปเที่ยวไหนกับใคร แต่พอมีเขาแล้วเราก็อยากจะใช้ชีวิตคู่ให้มันคุ้ม ให้เรามีความสุขกันเต็มที่ เพราะอนาคตเราจะตายวันไหนก็ไม่รู้ ก็เลยอยากทำงานที่เรารักไปพร้อมกับคนที่เรารักถ้ามันสามารถทำได้จริงๆ ถ้างานไหนที่สามารถพาเขาไปได้เราก็อยากจะพาเขาไปด้วย อยากจะทำให้ทั้งสองอย่างมันสมดุลกัน ไม่อยากจะทิ้งเขาไว้อยู่คนเดียว แล้ววันหนึ่งที่เรานอนพะงาบๆ แล้วต้องมาเสียดายเวลา เสียดายตังค์ที่อุตส่าห์หามายังไม่ได้ใช้ให้คุ้มกับที่เหนื่อยเลย”
ที่มา: manager.co.th