อุตสาหกรรมไอที เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มองผิวเผินอาจไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเมืองมาก แต่หากธุรกิจอื่นๆ มีความเสียหายผู้ประกอบการไอทีก็ลำบากเช่นเดียวกัน
โดย...ทีมข่าวธุรกิจตลาด
อุตสาหกรรมไอที เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มองผิวเผินอาจไม่ได้รับผลกระทบตรงจากวิกฤตการเมืองมาก แต่ถ้ามองภาพรวม หากธุรกิจอื่นๆ มีความเสียหายไม่สามารถลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ ผู้ประกอบการไอทีก็ลำบากเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อทุกอย่างมีผลถึงกันเช่นนี้ การออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจจึงเป็นสิ่งจำเป็น
นายสมเกียรติ อึงอารีย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (เอทีเอสไอ) ได้จัดประชุมคณะกรรมการสมาคม พร้อมเชิญ น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ และนายรอม หิรัญพฤกษ์ สองว่าที่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือซิป้า ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการไอทีมาร่วมระดมความคิดเห็นและกลั่นกรองออกมา เป็นแผน เอทีเอสไอ ไมโคร โรดแมป 5 ข้อ เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ระยะสั้น และอาจส่งผลไปถึงการเติบโตระยะยาวด้วย
แผนดังกล่าวเดิมได้วางเป็นแนวทางการทำงานในปีนี้ แต่เมื่อมีวิกฤตทางการเมืองฉุดการเติบโตของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์โดยรวม ซึ่งจากตัวเลขประมาณการในกลุ่มผู้ประกอบการซอฟต์แวร์รายได้ลดลงกว่า 50% ช่วงเดือน เม.ย.–พ.ค.ที่ผ่านมา อาจมีตัวเลขทางเศรษฐกิจถึงกว่า 5,000 ล้านบาทที่หายไป จึงตั้งเป้าหมายว่าแผนโรดแมปนี้จะสามารถดึงส่วนต่างที่หายไปกลับคืนมาได้ภาย ในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ในโรดแมป 5 ข้อที่สำคัญและเป็นไฮไลต์ที่สุดคือ การช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งสำคัญมากและเป็นปัญหาเสมอมา จุดนี้เอทีเอสไอจะเข้าไปหารือกับสภาอุตสาหกรรม พร้อมกับเข้าพบนายกรัฐมนตรีในอีกประมาณ 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อระดมทุน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 500 ล้านบาท สำหรับช่วยผู้ประกอบการซอฟต์แวร์เพื่อช่วยในด้านต้นทุนการผลิต 250 ราย โดยเปิดกว้างขอแค่เป็นบริษัทคนไทยเท่านั้น และอีก 500 ล้านบาท สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประมาณ 1,000 รายถือเป็นการสร้างอีโคซิสเต็มให้กับอุตสาหกรรม
เชื่อว่าแผนแรกจะประสบความสำเร็จได้ เพราะสอดคล้องกับรัฐบาลที่มีงบประมาณและแผนฟื้นฟูอยู่แล้ว เอทีเอสไอได้หารือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ช่วยนำแผนเข้าไปประกบผลักดันให้เริ่มเร็วขึ้น “ในต่างประเทศได้มีการศึกษาดัชนีชี้วัดความสามารถด้านไอทีในภูมิภาคนี้ พบว่าไทยเป็นรอง อินเดีย จีน และมาเลเซีย แต่ยังเหนือกว่าอีกหลายประเทศ ปัจจัยที่ต้องเร่งปรับปรุงคือ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่เอื้อต่อการประกอบการและการเติบโตเท่าที่ควร นี่คือสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งที่มาเลเซียมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ริเริ่ม ทำให้ทุกอย่างไปได้รวดเร็ว ถ้านายกรัฐมนตรีของไทยสนับสนุนก็น่าจะไปได้เร็วเช่นกัน” นายสมเกียรติ กล่าว
นายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส เอส ซี โซลูชั่น หนึ่งในผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากการชุมนุมการเมืองย่อมต้องมีการลงทุน ด้านไอทีใหม่ ตรงนี้เป็นรายได้ให้บริษัทซอฟต์แวร์ และช่วยบริษัทที่ลงทุนจะนำซอฟต์แวร์ไปเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน
ดังนั้น ถ้าการเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีสามารถผลักดันเอทีเอสไอ ไมโคร โรดแมป ให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้ สิ่งนี้จะทำให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เจริญได้อย่างยั่งยืน
ที่มา: posttoday.com