2 ผู้บริหารใหญ่ผู้กำหนดทิศทางโนเกียในตลาดโลกวิเคราะห์ภาพการแข่งขันนับจากนี้ต่อไปจะเป็นการต่อสู้ที่หน้าจอขนาดใหญ่เพื่อสนองการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก พร้อมทั้งต้องมีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมดึงดูดความสนใจกลุ่มคนผู้นำเทรนด์ หลังเดินถูกทางด้วยยอดขาย LUMIA ทั่วโลกโตกว่า 27% โนเกียเตรียมส่ง LUMIA 925 สมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่นำวัสดุโลหะมาใช้เป็นองค์ประกอบให้ยลโฉมเร็วๆ นี้ ชูจุดขายให้ภาพคมชัดแม้ในที่แสงน้อย มั่นใจสร้างชื่อให้โนเกียกลับมาอยู่ในใจผู้ใช้อีกครั้ง พร้อมทั้ง วินโดวส์โฟนที่จะโตวันโตคืน
โนเกียเปิดเผยยอดขายสมาร์ทโฟนรวมทุกรุ่นของ Lumia ว่าเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลอด 3 เดือน ม.ค.-มี.ค. 2013 โนเกีย Lumia มียอดขายราว 5.6 ล้านเครื่อง จากอุปกรณ์ทั้งหมดที่โนเกียจำหน่ายได้ 6.1 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ยืนยันความสำเร็จครั้งสำคัญของโนเกียในการสร้างรากฐานผู้ใช้โนเกียที่มั่นคงด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องเกาะติดสังคมออนไลน์เกือบ 24 ชม. เป็นกลุ่มคนที่ให้ความสำคัญต่อโทรศัพท์มือถือว่าเป็นเครื่องแสดงความเป็นตัวตนที่แท้จริง โดยเฉพาะคนที่ต้องการเน้นความสวยงามของตัวโทรศัพท์ และชื่นชอบการถ่ายภาพสวยๆ
การเปิดตัวโนเกียตระกูล LUMIA หลายรุ่นที่ผ่านมาเป็นการลบภาพเดิมๆ ที่คนมองว่าโนเกียเป็นแบรนด์คนแก่ได้อย่างไร้ที่ติ สร้างสีสันให้โนเกียอีกครั้งหลังจากเงียบหายไปนาน และยิ่งเป็นการตอกย้ำอีกครั้งเมื่อโนเกียเปิดตัว LUMIA 925 น้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวที่อังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
Nokia Lumia 925 เป็นการปรับโฉมครั้งสำคัญ เน้นศักยภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ด้วยเทคโนโลยีเลนส์ล้ำหน้า พร้อมซอฟต์แวร์ด้านภาพถ่ายที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ แม้ในสภาวะแสงน้อย ด้วย Nokia Smart Camera โหมดถ่ายภาพล่าสุดบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ทุกรุ่น ให้สามารถถ่ายภาพได้ถึง 10 เฟรมภาพเพียงกดชัตเตอร์แค่ครั้งเดียว และสามารถแก้ไขภาพพร้อมให้เลือกโหมด Best Shot, Action Shot, และ Motion Focus เพื่อให้ได้รูปถ่ายที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ในโอกาสเปิดตัว LUMIA 925 ทีมงานไซเบอร์บิซได้มีโอกาสสัมภาษณ์ 2 ผู้บริหารที่มีบทบาทสำคัญด้านการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ ในการผลักดันให้โนเกียก้าวมาอยู่แถวหน้าของผู้นำสมาร์ทโฟนอีกครั้ง
มิสโจ ฮาร์โลว์ รองประธานบริหารกลุ่มธุรกิจ Smart Devices โนเกีย กล่าวว่า Nokia Lumia 925 เป็นสมาร์ทโฟนตระกูล Lumia เครื่องแรกที่นำวัสดุโลหะมาใช้เป็นองค์ประกอบ ให้ความโดดเด่นที่ความแข็งแกร่ง ฝาหลังแบบโพลีคาร์บอเนต และยังมีฝาครอบสำหรับชาร์จแบตฯ ไร้สาย ช่วยให้สามารถชาร์จแบตฯ แบบไร้สายได้ง่ายเพียงแค่ติดเข้ากับฝาหลังโทรศัพท์
มิสโจกล่าวถึงแนวทางการทำตลาดของโนเกียไว้อย่างน่าสนใจว่า โนเกียเคยเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในโลก แต่หลายคนมองว่าในระยะหลังโนเกียเงียบไป แต่ความเป็นจริงแล้วโนเกียก็ไม่เคยหายไปไหน
“จากนี้ไปโนเกียจะนำจุดแข็งที่มีอยู่มาเป็นจุดขายในการทำตลาด เริ่มจากดีไซน์การออกแบบที่สวยงาม ตามมาด้วยกล้องที่จะให้ภาพถ่ายที่ดีที่สุดทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ”
ในขณะที่การแข่งขันของตลาดจะมุ่งไปที่ 1. การเปิดตัวโทรศัพท์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตอบสนองการใช้งานในโลกสังคมออนไลน์ และ 2. การสร้างความแตกต่างเรื่องประสบการณ์การใช้งานให้กลุ่มลูกค้าของตนเองมากที่สุด
สิ่งสำคัญที่จะทำให้โนเกียกลับมาเป็นผู้นำในตลาดได้อีกครั้งคือการสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด ตรงความต้องการลูกค้ามากที่สุดเป็นประเด็นสำคัญ โนเกียจะให้ความสำคัญต่อการผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์อย่างลงตัว เมื่อมีกล้องมีเลนส์ที่มีคุณสมบัติดีแล้ว ก็ต้องมีซอฟต์แวร์ที่จะทำให้ได้ภาพที่ออกคมชัด ภาพที่ถ่ายมา 10 ภาพต้องนำมาใช้งานได้
มิสโจกล่าวอย่างมั่นใจว่า หลายไตรมาสที่ผ่านมาโนเกียเห็นการตอบรับที่ดีในด้านยอดขายจากวินโดวส์โฟน จึงมั่นใจได้ว่าวินโดวส์โฟนจะมีการเติบโตต่อไปเรื่อยๆ จากผู้ใช้ทั่วโลก
“นับจากนี้ต่อไปอีก 1-2 เดือนข้างหน้าจะได้เห็นสิ่งใหม่ๆ จากโนเกีย เป็นการตอกย้ำการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้วันนี้ยังบอกไม่ได้มากนัก บอกได้แต่เพียงว่าโนเกียจะมุ่งนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นเพื่อผู้ใช้โนเกีย LUMIA อย่างต่อเนื่อง เราอยากบอกให้ลูกค้าโนเกีย LUMIA ทุกคนมีความมั่นใจว่าเราจะทำให้โทรศัพท์ของคุณดีขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ดีแค่วันนี้แต่ดีขึ้นไปอีก 6 เดือนข้างหน้า 1 ปีข้างหน้า ด้วยซอฟต์แวร์ใหม่ๆ แอปพลิเคชันใหม่ๆ เพื่อให้โทรศัพท์ของคุณมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
ในตำแหน่งที่ต้องดูแลกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโฟนทุกภูมิภาคทั่วโลก มิสโจกล่าวว่า การทำตลาดในแต่ละภูมิภาคของโนเกียมีความแตกต่างกันออกไป เห็นได้ชัดคือเรื่องแอปพลิเคชัน ซึ่งนอกจากมีแอปฯ ที่เป็นโกลบอลแล้วจะต้องมีแอปฯ ที่เหมาะสำหรับแต่ละภูมิภาคด้วย ส่วนเรื่องการเลือกแต่ละผลิตภัณฑ์วางในแต่ละตลาดก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่างโปรดักต์ที่เป็นแฟลกชิป มีคุณภาพสูงหรือพวกไฮเอนด์ โนเกียก็จะวางโปรดักต์นี้ในตลาดที่มีการเติบโตสูงอยู่แล้วอย่างอเมริกา ยุโรป ขณะที่โทรศัพท์ที่มีราคาย่อมเยาอย่าง LUMIA 520 ก็จะวางจำหน่ายในตลาดเกิดใหม่ที่การใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่งเริ่มเติบโต
ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ก็สำคัญเช่นกัน การที่จะทำให้ผู้หญิงหันมาสนใจโทรศัพท์สักเครื่องก็ต้องมุ่งไปที่การออกแบบตัวเครื่อง ดีไซน์ต้องสวยงาม ขนาดเหมาะมือผู้หญิง
“ผู้หญิงส่วนใหญ่จะชอบโทรศัพท์หน้าจอใหญ่ เพื่อให้เห็นข้อมูลได้มากๆ แต่ก็ต้องมีขนาดพอดีเมื่ออยู่ในมือ โนเกียจึงให้ความสำคัญต่อความโค้งมน ไม่เป็นสี่เหลี่ยมทื่อๆ แข็งๆ ให้ความกระชับมือ ขณะเดียวกันก็ต้องมีแอปพลิเคชันที่ตอบสนองความต้องการของผู้หญิงโดยเฉพาะ”
ปัจจุบันมีแอปฯ มากมายที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย การลดความอ้วน การทำอาหาร แต่ก็ยังมีช่องว่างในการพัฒนาแอปฯ เหล่านี้ได้อีกมาก ทุกคนบอกสูตรการทำอาหาร แต่ก็ยังไม่มีใครบอกว่าเมื่อทำผิดพลาดไปแล้วควรจะแก้ไขอย่างไร เมื่อใส่เกลือมากไปแล้วทำอย่างไรที่จะแก้ไขได้ ซึ่งเป็นโอกาสของนักพัฒนาที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิง เพราะประชากรผู้หญิงมีมากและมีกำลังซื้อสูง
***เครื่องสวยต้อง “รักแรกเห็น”*** เมื่อโปรดักต์วางตลาด หลายแบรนด์ตกม้าตายตั้งแต่ต้นเพราะไม่ได้รับการตอบรับที่ดี หรือไม่เกิดอาการรักแรกเห็น ทำให้ไม่ต้องคิดไปไกลถึงขนาดจะมีคนซื้อไปใช้งานด้วยซ้ำ
สตีเฟ่น แพนเนนเบคเคอร์ หัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์โนเกีย ผู้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบทุกโปรดักต์ของโนเกียทั้งสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟน กล่าวว่า โนเกียให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก แรงบันดาลใจของการออกแบบ LUMIA อยู่ที่การให้ความสำคัญต่อวัสดุ จากรุ่นแรก 920 เป็นโพลีคาร์บอเนต ให้ความสำคัญที่สีสันสดใส ความเรียบง่ายที่ดูดี มาถึงLUMIA 925 จะมีความต่างออกไปโดยใช้อะลูมินัมมาเป็นโครงสร้างหลักของตัวเครื่องสี่ด้าน ซึ่งในนั้นก็จะมีเสาอากาศรับสัญญาณอยู่
“โนเกียให้ความสำคัญต่อวัสดุนำเรื่องดีไซน์ แต่ที่สุดแล้วการออกแบบก็ต้องตอบสนองการใช้งาน เน้นดีไซน์สวยงามแต่ก็ต้องใช้งานได้ดีด้วย”
เมื่อถามถึงเทรนด์การออกแบบในอนาคต รูปลักษณ์หน้าตาจะเป็นอย่างไร สตีเฟ่นกล่าวว่า โนเกียไม่ได้มองว่าเทรนด์หรือแนวโน้มของโลกอะไรจะมาหรืออะไรจะไป แต่โนเกียมองเหตุผลในการออกแบบคืออะไรเป็นหัวใจสำคัญ เข้าใจได้ง่ายๆ คือต้องพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์ดีขึ้น ดีไซน์จะเป็นตัวเสริมให้วัสดุทำงานได้ดี
“โนเกียจะเป็นคนนำเทรนด์ ไม่ได้ตามเทรนด์ แต่ก็ชัดเจนว่าเราจะเดินไปทางไหนมากกว่า เราเป็นคนเซตว่าอะไรเหมาะกับคาแรกเตอร์ของโนเกียและเดินไปตามนั้น หัวใจสำคัญคือทำให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
โนเกียให้ความสำคัญต่อโพลีคาร์บอเนตกับกระจก หัวใจหลัก 2 ส่วนนี้จะถูกพัฒนาต่อเนื่องไป พร้อมกับเน้นเรื่อง SIMPLIFY คือทำให้ง่าย ชัดเจน เรียบ หรู ดูดี สง่างาม
“ที่เลือกอะลูมินัมมาเป็นส่วนประกอบหลักใน LUMIA 925 เพราะเชื่อว่ามีคนชื่นชอบโลหะอยู่มากในโลก ความเป็นโลหะจะให้ความแตกต่าง จับแล้วรู้สึกมีน้ำหนัก มีคุณค่า มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีคุณค่า หรูหรา”
ส่วนการเลือกใช้วัสดุอะไรนั้น ผู้บริหารโนเกียมองว่า ต้องเริ่มจากความต้องการเพิ่มขีดความสามารถของโทรศัพท์จากเดิมที่มีอยู่ก่อน จากนั้นจึงมาดูเรื่องการออกแบบต้องให้ฟังก์ชันนำหน้า การใช้งานมาก่อน ดีไซน์และสีสันตามมา แทนที่จะบอกผู้ใช้ว่าให้เลือกหรือใช้เทคโนโลยี มาเป็นทำให้คนเลือกใช้สิ่งของที่อยากใช้ โดยเลือกใช้ของหน้าตาแบบนี้ให้ใกล้เคียงกับความชอบของคน
“เรียกว่าโนเกียเป็นผู้นำในการออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ไม่ผิดนัก ผลิตภัณฑ์โนเกียมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง มีคุณลักษณะที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ สีแรงๆ โนเกียเป็นคนแรกที่ทำสีออกมาแรงๆ และแบรนด์อื่นทำตาม โนเกียก็จะพัฒนาต่อเนื่องไปในแนวทางนี้”
การออกแบบผลิตภัณฑ์ของโนเกียอยู่ที่การมองไปรอบๆ ว่าคนเขาทำอะไรกัน ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร ใช้โทรศัพท์กันอย่างไร ส่วนที่สองเป็นเรื่องเทคโนโลยีที่จะทำให้ชีวิตคนเราสะดวกหรือดีขึ้นได้อย่างไร ส่วนที่สามเป็นทีมเวิร์กที่ให้แรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน
มุมมองสตีเฟ่นในการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้โดนใจคนในแต่ละประเทศแต่ละภูมิภาคซึ่งต้องมีความชอบไม่เหมือนกัน เริ่มจากการมองกลุ่มคนที่เป็นผู้นำทางความคิด คนที่จะทำให้คนอื่นมาตามกระแสได้ คนที่เป็นดิจิตอลเนทีฟ คนที่รู้จักใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้ตนมีความแตกต่างและโดดเด่นขึ้นมา โนเกียจะพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยจับกลุ่มคนเหล่านี้เป็นหลัก คนที่ชอบความท้าทาย อายุไม่มาก ชอบสิ่งใหม่ๆ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีบทบาทให้คนกลุ่มอื่นเดินตาม
จะเห็นได้ว่าการออกแบบ LUMIA 928, 920, 925 มีความแตกต่างกัน โดย 920 เดินตามการออกแบบ LUMIA เดิมคือกระจกโค้งมน ส่วน928 ดีไซน์ให้เครื่องรับกับเทคโนโลยีที่ต้องใช้งานได้ หมายถึงเทคโนโลยีนำ การออกแบบตาม ส่วน 925 เป็นเรื่องของดีไซน์สตอรี งานออกแบบที่ต้องการสร้างความแตกต่างโดยการนำอะลูมินัมมาใช้งานเป็นการแตกไลน์ออกมาในเรื่องวัตถุดิบ โดยทั้ง 3 รุ่นเป็นการสะท้อนงานดีไซน์ที่แตกต่างกัน
“คนยุโรปกับคนเอเซียก็จะมีความชอบต่างกันไม่ว่าจะป็นสี หรือขนาดที่ไม่เหมือนกัน สำหรับที่สุดของการออกแบบก็ต้องมีการผสมผสานเพื่อความพอดีตรงกลางที่สนองความต้องคนส่วนใหญ่ได้”
ที่มา: manager.co.th