เจมส์ จิ" ปัด ขึ้นแท่นพระเอกอันดับหนึ่งแทน "ณเดชน์" ยันไม่กล้าเทียบรุ่นพี่ เขินคนเรียก “ซุป’ ตาร์” ปลื้มกระแสคุณชายหมอฟีเวอร์ มีแฟนคลับที่จีนทั้งๆที่ละครเพิ่งออนแอร์ หลังจากที่ละครเรื่อง “คุณชายพุฒิภัทร"ออกอากาศไปได้ไม่กี่ตอน ก็ทำเอาบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่หรือสาวไม่แท้นั่งกรี๊ดติดหน้าจอ จนอยากจะเป็นคนไข้กันทั่วบ้านทั่วเมือง กับบทบาท “คุณชายหมอพุฒิภัทร” ที่นำแสดงโดย "เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข"
แม้จะเป็นพระเอกใหม่แกะกล่อง แต่ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาบวกกับ บุคลิกขี้เล่น อีกทั้งความสามารถที่ครบเครื่องทั้งร้องเต้น เล่นดนตรี ผสมกับการแสดงที่ดีเกินคาด ยิ่งทวีความหลงรักในตัว “เจมส์”และส่งผลให้เขามีแฟนคลับเข้ามาอย่างมากมายในชั่วพริบตา
กลายเป็นกระแสคุณชายฟีเวอร์
“เจมส์”บอกไม่คิดเทียบพระเอกรุ่นพี่ 'ณเดชน์ คูกิมิยะ' ที่ครองตำแหน่งพระเอกอันดับหนึ่งของช่อง 3 เขินหามีคนเรียก”ซุป’ตาร์"
“ผมก็ค่อนข้างจะตกใจและก็ปลื้มมาก ที่มีคนชอบขนาดนี้ เพราะว่า คุณชายพุฒิภัทร ออกอากาศได้ 3 อาทิตย์เองก็จบแล้ว ผมว่ามันเป็นความสำเร็จของเราครับ ส่วนเรื่องเปรียบเทียบกับ “ณเดชน์” จริงๆ พี่เค้าเป็นไอดอลผมอยู่แล้ว และเป็นแบบอย่างที่ดีในวงการของผม ผมคงไม่ถึงขนาดจะมาฆ่าพี่เค้าหรืออะไรผมชอบพี่เค้ามานานแล้ว ผมว่าไม่กล้าเทียบกับพี่เค้าอยู่แล้ว เรามีเจอกันบ้างครับ ส่วนเรื่องงาน ต้องพูดก่อนเลยว่า จริงๆ ผมก็ดร็อปเรียนไปเมื่อปีที่แล้ว เพื่อมาทำงาน ปีนี้เลยกลับมาเรียน และก็ถ่ายละคร 1 เรื่องครับ”
“ผมรู้สึกดีครับ เพราะว่ามันเป็นความสำเร็จในการแสดงของเราปลื้มใจแทน "ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์"กับ "พี่แหม่ม ธิติมา สังขพิทักษ์" ที่เขาพยายามทำออกมาให้ตัวละครนี้เป็นท่านชายจริงๆ ที่ไม่ใช่ตัวผมครับ ตอนนี้มีคนเรียก“ซุป’ ตาร์” ผมก็ยังคงไม่ขนาดนั้นหรอกครับเพราะผมก็เพิ่งเข้ามาใหม่ครับ แล้วก็อยากให้ทุกคนติดตามผมเรื่อยๆผมก็ยังอยากเล่นละครต่อไปเรื่อยๆอยากให้ทุกคนช่วยเชียร์ผมเรื่อยๆครับ และก็คงไม่รับมือยังไงครับเราก็ทำตัวปกติเหมือนเดิมๆ"
"กระแสคุณชายหมอฟีเวอร์ ส่งผลให้มีโฆษณาติดต่อเข้ามาอย่างมากมาย แต่ด้วยเหตุผลของทางช่อง ที่อยากจะให้”เจมส์ จิ” ตั้งใจเรียน และทำงานละครอย่างเต็มที่ จึงได้งดงานอีเวนท์ แต่ก็ยังมีผลงานตามหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารต่างๆ ประกอบกับกำลังมีละครที่กำลังถ่ายทำอยู่
“เรื่องไม่รับงานอีเว้นท์ คงเป็นหน้าที่ของพี่ๆ ที่ดูแลผมมากกว่า ก็อยากให้เวลากับการเรียนหนังสือและถ่ายละคร ซึ่งก็รู้สึกดีที่ถูกมองว่าเป็นดาราต้นแบบไม่รีบตักตวงขณะที่กำลังดังและถ้าจะรับงานอีเวนท์ก็จะไม่อัพค่าตัว แต่ว่าจริงๆ ผมบอกพี่เค้าไปว่า ผมอยากเรียนเพราะปีที่แล้วผมพลาดจริงๆ ที่ดร็อปเรียนไปผมต้องขอขอบคุณแฟนๆ คอยติดตามผลงานผม ตอนนี้ผมอยากเรียน และก็ถ่ายละครให้ดีที่สุดจริงๆ ส่วนเรื่องงานอีเวนท์ ผมก็มีงานบ้าง ก็เป็นงานที่ผมเป็นพรีเซนเตอร์ ตอนนี้มีอยู่ตัวเดียวครับ เรื่องการรับงาน ผมไม่ทราบจริงๆ ครับคงเป็นเรื่องของผู้จัดการผมครับ ส่วนตัวผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นดาวรุ่งอะไร แค่อยากเล่นละครให้แฟนๆ ติดตามผลงานก็พอแล้วครับ ก็จะมีถ่ายแบบบ้าง สัมภาษณ์ตามกองถ่ายละครบ้าง ซึ่งตอนนี้ก้มีละครที่กำลังถ่ายทำคือเรื่อง “รักสุดฤทธิ์” ประกบกับ “พี่พั้นช์ วรกาญจน์ โรจนวัชร" ครับ"
กระแสคุณชายหมอแรงขนาดแฟนคลับที่จีนยังแอบปลื้ม
ผมก็ดีใจที่มีแฟนคลับต่างประเทศครับทั้งๆที่ผมยังเล่นละครอยู่ในประเทศไทยอยู่เลย ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาติดตามข่าวสารเท่าไหร่ครับเพราะช่วงนี้มีงานเยอะขึ้นเลยไม่ค่อยได้เช็คอะไรมาก แต่ยังไงก็ขอบคุณครับ"
ที่มา: manager.co.th