ผู้กำกับ “โต้ง บรรจง” แจงกรณีจีนแบน “พี่มากฯ” บอกเตือนผู้ซื้อลิขสิทธิ์แล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางผ่านเซ็นเซอร์แน่นอน แต่ผู้ซื้อก็ยังดื้อ พร้อมบอกจะทำทุกวิถีทางให้ได้เข้าฉาย แย้มยอดรวมรายได้ในไทยยังไม่สรุป คาดถึงพันล้าน เป็นประเด็นขึ้นมา เมื่อทางประเทศจีนติดต่อซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ “พี่มากพระโขนง” ทั้งๆ ที่ประเทศจีนมีกฏเหล็กจากกองเซ็นเซอร์ไม่ได้ฉายภาพยนตร์สยองขวัญและภาพยนตร์เกี่ยวกับเพศที่3 ในประเทศเด็ดขาด ซึ่งทางผู้กำกับ “โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล” ก็ได้เผยว่า ทางค่ายจีทีเอชตัดสินใจขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ดังกล่าวให้กับประเทศจีนไปแล้วทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าไม่สามารถเข้าฉายได้แน่นอน
“จริงๆ ยังไม่ได้มีการส่งหนังไปใดๆ ทั้งสิ้น และทางจีนเองก็ยังไม่มีใครได้ดูเรื่องนี้เลย คำว่าโดนแบนอาจจะงงนิดหน่อย แต่เรารู้กันอยู่แล้วว่าประเทศจีนจะฉายหนังสยองขวัญไม่ได้หรือแม้แต่หนังเพศที่ 3 แต่ว่าฮ่องกงและไต้หวันจะฉายได้ ผมว่ามันเป็นเรื่องความเชื่อมากกว่า ถึงแม้จะหนังเราจะเป็นผีแบบตลกก็ตาม แต่สุดท้ายมันก็เป็นผี เท่าที่เขาบอกกันมาก็น่าจะไม่ให้นะครับ แต่ตัวผมเองก็ยังไม่ทราบเหมือนกันครับ”
“จริงๆ เราเองไม่มีแพลนจะไปฉายที่ประเทศจีนอยู่แล้วครับ คิดว่าพอหนังออกฉายแล้วใครสนใจก็ติดต่อเข้ามามากกว่า อย่างเมืองจีนเองเราคุยกันว่าคงไม่น่าจะได้ฉายหรอก แต่น่าแปลกที่หนังพี่มาก เราเองรู้กันอยู่แล้วว่าหนังสยองขวัญฉายในเมืองจีนไม่ได้ แต่ว่ากับเรื่องนี้มีคนซื้อครับ เขาก็บอกว่าเขาจะพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาเข้าโรงให้ได้ ซึ่งเขาก็ต้องไปสู้รบตบมือกับฝ่ายเซ็นเซอร์อีกทีนึง”
“เราเองก็ยังงงว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง ก็คุยๆ กันแบบงงๆ ว่าเขาซื้อไปได้ยังไงกัน แต่เราก็ขายไปแล้วครับ เราก็ยังคุยกันเองว่าจะไปฉายได้ยังไง เราเองมีการถามไปที่ผู้แทนจำหน่ายของต่างประเทศเยอะมากว่ามีโอกาสเป็นไปได้จริงๆ เหรอ เพราะเราไม่เคยได้ยินว่าหนังผีจะฉายในเมืองจีนได้ ซึ่งทุกคนก็บอกว่าไม่น่าจะได้ แต่ก็งงว่าเขาซื้อไปทำไม ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ฉายไม่ได้”
“ซึ่งทั้งหมดนี่มันเป็นเรื่องของทางเขาแล้ว เพราะเราได้เตือนเขาก่อนซื้อแล้วว่ามันจะผ่านกองเซ็นเซอร์ไปไดยังไงกัน ถ้าฉายได้จริงๆ เราคงดีใจมาก เพราะประเทศจีนเป็นตลาดที่กว้างใหญ่มาก แล้วมาริโอ้เองก็ค่อนข้างโด่งดังที่เมืองจีนมาก ซึ่งตัวผมเองไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะเข้าฉายได้ แต่ถ้าเข้าฉายได้จริงๆ ก็เป็นเรื่องที่อะเมซิ่งมากครับ แต่ถึงแม้เราจะไมได้ฉายที่จีนเราก็ไม่ได้กระทบอะไร ประเทศอื่นเราก็ฉายได้ตามปกติ ตอนนี้เพิ่งฉายที่อินโดนีเซียและฮ่องกงครับ แต่เดี๋ยวจะมีไปซิดนีย์ สิงคโปร์และทยอยตามกันมาหลายประเทศครับ”
เผยยอดรวมรายได้ในไทยยังไม่สรุปแน่นอน แค่คาดว่าน่าจะได้ยอดรวมทั้งสิ้นกว่าพันล้านบาท ซึ่งตั้งใจกันไว้ว่าทีมงานจะกลับไปไหวศาลย่านาคอีกครั้ง
“ถ้าในประเทศทั่วทุกจังหวัดยังไม่ทราบเลยครับ ผู้ใหญ่กำลังตามข้อมูลอยู่ครับ ตอนจบโปรแกรมก็คงได้มาบอกคนดูอีกทีนึง แต่ผู้ใหญ่แย้มว่าน่าจะถึงพันล้านครับ ก็คงมีการฉลองและกลับไปไหว้ย่านาคอีกรอบนึงด้วยครับ จริงๆ นอกจากศาลย่านาคแล้ว ผมเองก็มีบนไว้ที่ญี่ปุ่นด้วย ก็บนว่าได้ได้รายได้มากกว่าหนังเรื่องเอทีเอ็มฯ 151 ล้าน แต่ว่ายังไม่ได้ไปแก้บนที่วัดบนภูเขาไฟฟูจิ แต่แพลนไว้ว่าน่าจะไปแก้บนปลายปีครับ ทริปนี้ก็ไปเที่ยวพักผ่อนมากกว่าครับ ส่วนที่จะจัดเลี้ยงทีมงานนี่ยังไม่ลงต้องต้องคุยกับผู้ใหญ่ แต่พวกเราก็เล็งๆ กันไว้ที่ยุโรปว่าอยากจะไปฝรั่งเศสกัน”
ที่มา: manager.co.th
