ช่อง7 หย่าศึกนัด “เคลลี่” เคลียร์ “พ่อ-แม่กรีน” พรุ่งนี้ (17 พ.ค.) เคลลี่ไม่ชัวร์ว่าจะได้เคลียร์กับพ่อตัวต่อตัวหรือเปล่า แต่มั่นใจจบด้วยดี บอกไม่ใช่เรื่องใหญ่ ลั่นถ้าตกลงกันได้ตนยกฟ้องแน่ พร้อมหวังพ่อแฟนสาวจะให้อภัยในสิ่งที่ตนทำผิดไป กระฉ่อนไปทั้งวงการ สำหรับกรณีที่นักแสดงหนุ่ม “เคลลี่ ธนพัฒน์” ลุกขึ้นมายื่นฟ้อง “นายฉัตรฎรัฐ สิริวัฒน์ธนกุล” พ่อของนางเอก “กรีน อัษฎาภรณ์ สิริวัฒน์ธนกุล” แฟนสาวของตนเอง โดยการพิจารณาคดีจะมีขึ้นที่ศาลแขวงพระนครเหนือ วันที่ 20 พ.ค. 56 นี้ ทั้งนี้เคลลี่ได้ให้เหตุผลในการฟ้องพ่อแฟนว่า เป็นเพราะถูกอีกฝ่ายข่มขู่มานานหลายเดือน ทว่าเรื่องดังกล่าวทำให้เคลลี่และกรีนโดนถล่มอย่างหนัก ซึ่งเมื่อหลายวันก่อนทางด้านของ “นายฉัตรฎรัฐ” ได้โพสต์คลิปเพื่อเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่าหากใครจะต่อว่าลูสาวตนก็ให้มาว่าตนแทนดีกว่า พร้อมถามไปยังหนุ่มเคลลี่ว่าถ้ารักจริงรอให้ลูกสาวตนเรียนจบก่อนได้หรือไม่?
กระทั่งข่าวคราวทุกอย่างก็เงียบหายไป ล่าสุดเป็นทางด้านของหนุ่มเคลลี่ที่ออกมาเผยความคืบหน้าอีกครั้งในงานแถลงข่าว “โครงการเตรียมเปิดหลักสูตรใหม่ สถาบันกันตนา” ที่บริษัทกันตนา ย่านเหม่งจ๋าย โดยเจ้าตัวเผยว่าพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) จะมีการเคลียร์ปัญหากันขึ้นที่ช่อง 7
“ผมได้ขอทางช่อง 7 นะครับ พร้อมด้วยน้องกรีนและคุณแม่น้องกรีน ไปเรียนให้ทางผู้ใหญ่ทางช่องได้ฟังว่า เรื่องราวมันเป็นยังไง ได้ไปคุยได้คำปรึกษากับผู้ใหญ่ ซึ่งทางผมได้ฟังจากผู้ใหญ่มาจากเหตุการณ์นี้ คือ 1 ปีแล้วครับ เข้าหาทางผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็บอกโอเคเดี๋ยวบอกทางคุณพ่อน้องกรีนให้ เรื่องจะได้จบสักที จะได้มาคุยมาเคลียร์กัน แค่นี้เรื่องนี้มันก็จบ แต่มีบางอย่างที่ออกมาเมื่อคนที่ได้ฟังแล้ว บางคนอาจจะเข้าใจผิด ก็เลยอยากเคลียร์กันให้เข้าใจก่อน แล้วค่อยออกมาเคลียร์พวกพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนและก็แฟนละคร”
“กับพ่อน้องผมก็อยากจะเคลียร์ให้เร็วที่สุด เพื่อวันที่ 20 จะได้บอกว่ามันได้จบลง แต่ถ้าถึงบอกว่ามีสัญญากับคุณพ่อให้เป็นข้อๆ ขนาดนั้น คงไม่ถึงขนาดนั้นครับ คือเอาเป็นว่ารอก่อนแล้วกันครับ เพราะว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ มันสามารถมาคุยกันก่อนได้ครับ ทางช่องนัดมาพรุ่งนี้ แต่ผมขอเข้าไปดูก่อนว่าจะมีโอกาสได้คุยกับคุณพ่อหรือเปล่า (ยังไงพรุ่งนี้พ่อมาเคลียร์ที่ช่องแน่นอน?) ผมยังไม่แน่ใจครับว่ากี่โมง ผมรอให้เขาโทร.มาหาผมอยู่”
บอกถึงวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) จะเคลียร์กันลงตัว แต่วันที่ 20 ก็ต้องขึ้นศาลอยู่ดี แต่ถ้าทุกอย่างจบด้วยดีตนก็ยกฟ้องอยู่แล้ว
“ต้องขึ้นอยู่แล้วครับ เพราะว่าการฟ้องร้องมันไม่ได้เป็นการฟ้องร้องที่ทุกคนฟัง ไม่ได้เกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง แค่อยากให้มาไกล่เกลี่ยกัน มาคุยกันแล้วก็จบ แต่ว่ามันเป็นข่าว มันก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่โต คุณพ่อก็มาไกล่เกลี่ยคุยกัน แต่พอมันเป็นข่าวมันก็เลยมีความคิดเห็นของฝ่ายนู้นฝ่ายนี้ มีคนเดาว่าเป็นแบบนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นแบบนี้ เพราะว่ายังไม่รู้ข้อมูล ผมว่ารอก่อนแล้วกันนะครับ อย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์กันเลย”
“กับทางคุณพ่อไม่ได้ติดต่อมาครับ ผมว่าน่าจะรอให้พูดกันครั้งเดียวเลยครับ มันน่าจะดีกว่าครับ ผมยกฟ้องอยู่แล้วครับ เพราะการฟ้องอย่างที่บอกว่าผมต้องการให้หยุดการกระทำในสิ่งที่ทำให้ผมอาจจะเสื่อมเสียชื่อเสียงในหน้าที่การงาน ที่อาจจะทำให้ผมเสียหายได้ ทำแบบนี้ผมจบแค่นี้แหละ ที่ผมพูดถ้าหยุดก็จบ มันเป็นเรื่องในครอบครัว ยิ่งออกมายิ่งเสียหาย ผมเลยอยากให้เรื่องนี้มันจบเร็วที่สุด ไม่อยากให้มันยืดเยื้อ”
“เรื่องนี้มันเกี่ยวกับคุณพ่อไม่ได้เกี่ยวกับน้องกรีนเลย แต่พอมันมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็เกิดความเสียหาย ซึ่งผมบอกได้เลยว่าน้องเป็นคนน่ารัก เป็นคนมีความกตัญญู อย่างที่เราเห็นน้องเป็นคนน่ารักอยู่วงการเป็นคนน่ารัก แต่พอมาเห็นอีกวันหนึ่งเขาไม่น่ารัก ก็รอให้รู้ความจริงเรื่องราวทั้งหมดก่อนว่าที่มองที่ผ่านมาเนี่ยได้มองเห็นภาพว่า น้องเขาเป็นคนดีและเป็นคนน่ารักจริงๆ น้องเขาเครียดมาก ก็เขารักครอบครัวเขาพ่อแม่มีใครไม่เครียด ผมก็เครียด”
ส่วนที่ทุกคนมอง “กรีน” ด้านลบ เจ้าตัวบอกเป็นเพราะคนที่ไม่เข้าใจมากกว่า
“เรื่องนี้มันไม่ได้เกิดอะไรในแง่ลบอยู่แล้ว เพราะคนที่เขาไม่เข้าใจเขาจะมองไปแบบนั้น แต่ถ้าเราได้มาคุยกันแล้ว เราทำความเข้าใจกันแล้ว แล้วเดี๋ยวพวกเขาก็คงเข้าใจ ตอนนี้อาจจะยังไม่รู้ลึกถึงข้อมูลเหตุการณ์บางอย่าง เพราะว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นนานแล้ว เรื่องนี้มันออกมาจากอินเตอร์เน็ต มันมีเอกสารส่วนตัว ผมอยู่กับพี่ๆ สื่อมวลชน อยู่กับสื่อผมไม่เคยลงข่าวผมไม่เคยโกหก แต่ผมก็บอกว่าผมพูดได้แค่นี้จริงๆ เพราะว่าเรื่องรายละเอียดก็คงต้องรอก่อนครับ”
ต่อคำถามที่ว่าต่อไปมองหน้าพ่อแฟนสาวติดไหม? เจ้าตัวก็แจงว่า....
“ท่านเป็นผู้ใหญ่ยังไงผมก็เคารพ ท่านเป็นคุณพ่อน้องกรีนเพราะฉะนั้นถ้าท่านได้ยินต่างฝ่ายต่างคุยกันแล้วท่านก็คงเมตตาเข้าใจและหวังว่าอาจจะให้อภัยในสิ่งที่เราทำผิดไป สำหรับตัวผมเองไม่ได้โกรธแค้นไม่ได้มีปัญหา หรือว่าจะเอาชนะ แต่เพียงเราเข้าใจว่ามันเป็นเพียงรอยร้าวที่อาจจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นครับ พรุ่งนี้ต้องไปในทิศทางที่ดีครับ”
พร้อมโต้พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นทำให้กระแสละครของ “กรีน” ตกวูบจนช่องสั่งตัดตอน
“ไม่ครับ เรื่องของละครเท่าที่ผมดู ในฐานะที่เป็นคนดู และเท่าที่ทราบมาละครก็จะจบอาทิตย์นี้อยู่แล้ว ไม่มีตัดออกหรือเพิ่มเติม กำหนดไว้ว่าจบอาทิตย์นี้อยู่แล้ว กับเรื่องของเรตติ้งก็ไม่ได้กระทบอะไรมาก สรุปในตัวอยู่แล้ว ตัวละครก็มีหลายตัว อย่างที่ผมบอกว่าน้องเขาน่านักจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่บางคนเข้าใจผิด และมีคนที่เขาเห็นว่าน้องเป็นแบบนั้นและก็ไม่เคยมีข่าวเสียมาโดยตลอดหวังว่าคนน่าจะเข้าใจว่าน้องเขาเป็นแบบนั้น”
“และผมเองอยู่ในวงการมา 10 กว่าปี น้อง 4-5 ปี คงไม่ได้สร้างภาพมาจนถึงทุกวันนี้ครับ ไม่เคยมีข่าวเสียหาย ไม่เคยมีปัญหากับใครไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน เพราะฉะนั้นอยากให้มั่นใจว่าที่มองกลับมาต้องเป็นคนที่ออกมาจริงๆ ไม่ใช่ว่าชั่วข้ามคืนจะเปลี่ยนคนได้ขนาดนั้น ก็ขอบคุณหลายๆ คนผู้ใหญ่ที่คอยเป็นกำลังใจให้ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจที่อยากจะออกมาพูดเรื่องนี้อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องส่วนตัวก็ให้มันเป็นเรื่องส่วนตัวดีกว่า”
มั่นใจถ้าปัญหาทุกอย่างจบแล้วจะสามารถเรียกชื่อเสียงของ “กรีน” ได้เหมือนเดิม
“ต้องได้ครับ ต้องทำให้ได้ เพราะว่าน้องเป็นคนอ่อนน้อม จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับน้องเลย ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องต้องเสียชื่อเสียง คือเขารักครอบครัว ครอบครัวก็รักน้อง ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนมาเข้าใจผิดไปมองทางน้องแบบนั้นทำไม เพราะมันเป็นทางผมกับพ่อของน้อง เอาไว้รอถามคุณพ่อเขาดีกว่าว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไง ตัดน้องกรีนออกไปเลย ไม่ควรตำหนิเขาเลย เพราะว่าน้องเขาไม่ได้ผิด ยืนยันได้เลยว่าเขาไม่ผิด”
ปัดไม่รู้รายการ “วันวานยังหวานอยู่” ตัดฉากที่ “เคลลี่” ไปเซอร์ไพรส์ “กรีน” ออก
“อันนี้ผมไม่ทราบครับ ต้องไปถามทางรายการเอาครับ ส่วนเรือ่งกระแสทางเน็ตแรง เราไปห้ามความคิดของเขาไม่ได้ คือผมเข้าใจว่าบางคนก็อาจมีเวลาว่างมานั่งวิพากษ์วิจารณ์ เราไปห้ามเขาไม่ได้ แต่ก็มีหลายคนที่ให้กำลังใจ จริงๆ เราไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งอ่านข่าวทั้งวันเพราะอ่านข่าวไปเราก็เครียด ผมยอมรับว่าผมเครียด เราก็จะพยายามทำหน้าให้ดีที่สุด เดี๋ยวมาเคลียร์กันเรื่องก็จบครับผมรับรอง”
ที่มา: manager.co.th
