“ปั้นจั่น” รับถาม “ยิปซี” เรื่องกิ๊ก “ขุนพล” แฟนเก่า “ปู ไปรยา” บอกอีกฝ่ายยันชัดไม่รู้จัก เผยแม้เลิกกันแล้วแต่ก็ยังไปกินข้าวดูหนังกันอยู่ แต่ในฐานะเพื่อน บอกพร้อมมีแฟนใหม่ ส่วนยิปซีจะมีคนใหม่ตนก็ไม่ซีเรียส เลิกกันมาได้พักใหญ่แล้ว สำหรับสาว “ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” และหนุ่ม “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” ซึ่งล่าสุดก็มีคนเห็นสาวยิปซีเดินควงกับไฮโซหนุ่ม “ขุนพล อิสระ” แฟนเก่า “ปู ไปรยา” จนใครต่อใครคิดว่าทั้งคู่ปิ๊งรักกัน ทว่ากับเรื่องนี้ยิปซีได้ออกมาปฏิเสธเรียบร้อยแล้วว่าไม่เคยรู้จักฝ่ายชายมาก่อน ล่าสุดได้มีโอกาสเจอหนุ่มปั้นจั่น ในฐานะอดีตคนรักเก่าเจ้าตัวก็เผยว่าได้ถามเรื่องนี้กับฝ่ายหญิงเหมือนกัน
“ไฮโซที่ชื่อขุนพล เราก็ถามน้องแล้ว เพราะเราได้มีโอกาสไปกินข้าวกัน เราก็ได้อัปเดตชีวิตและเรื่องราวของแต่ละคน ซึ่งเขาก็บอกว่าไม่รู้จักและไม่เคยเจอด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็เชื่อน้องนะ ถ้าเกิดใครเห็นก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครพูด ผมเองก็ไม่ได้ซีเรียส แต่ผมเองก็ฟังจากปากยิปซีมาเขาก็บอกว่าเขาไม่รู้จัก และผมเองก็เชื่อยิปซีอยู่แล้ว เขาก็เองก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหก”
พร้อมแจงถึงการเจอกันแม้จะเลิกรากันไปแล้วว่า…
“คือการไปเจอกันของเรา เราก็ไปนั่งคุยนั่งอัปเดตชีวิตมากกว่า เราก็ถาม เขาก็ถาม ต้องพูดตรงๆ ว่าเขาก็ยังคุยกับผมอยู่ด้วยนานๆ ที แต่ไม่ใช่คุยในแบบคู่รัก แต่เราคุยกันในแบบเพื่อน เพราะว่าเรายังห่วงกันอยู่ เราเป็นเพื่อนกัน เลิกกันแล้วเรายังไปดูหนังกันเลย หลายคนเห็นก็คงงงว่าคู่นี้มันยังไง มันคืนดีกันแล้วเหรอ ผมก็บอกว่าไม่นะ เพียงแต่เราก็ดีกันตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่สถานะเราไม่ใช่แฟนเท่านั้นเอง การที่เราไปกินข้าว ไปดูหนังมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก”
“การที่เราจะกลับไปเป็นแบบเดิม มันเป็นเรื่องที่พูดลำบากเพราะการที่คนสองคนมันผ่านอะไรด้วยกันมา เราเองก็อยู่ในจุดที่ความสัมพันธ์มันสบายใจ ตอนนี้ผมก็อายุเยอะขึ้นแล้ว น้องเขาก็ประมาณนึงแล้ว มันเลยทำให้เราโต มันเป็นช่วงวัยทำงานมากกว่า ตอนที่ผมมีความรักมันค่อนข้างกระทบกับงานพอสมควร เวลาผมเครียดผมก็จะทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ตอนนี้พอผ่านมามันก็โตขึ้นแล้ว ถ้าเกิดมีรักมาหรือว่าเจอคนใหม่ ก็ต้องให้มันเป็นไป ถ้าเขาจะไปเจอใคร มันไม่ได้พูดให้ความหวังนะ แต่ไม่แน่เราอาจจะกลับมาเจอกันก็ได้ เราไม่สามารถตอบได้ เพราะมันเป็นเรื่องของอะไรไม่รู้ที่มองไม่เห็น”
“ที่ผ่านมามันเป็นเวลาที่ฉุกละหุก เราอาจจะคิดอะไรไม่ทัน บางทีการพูดออกไปโดยที่ไม่มีสมาธิหรือการเตรียมตัวไว้ มันอาจจะเป็นคำที่ไม่ได้ออกมาจากใจจริงๆ มันเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนตัวการที่เราคุยกันสองคน คุยกันนอกรอบเราจะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น บางทีผมอาจจะพูดไม่ดีหรือพูดผิดไป หรือน้องอาจจะพูดอะไรไม่ดี มันก็เป็นเรื่องคำพูดของคนที่มันผิดพลาดกันได้”
ตอบไม่ได้มีโอกาสรีเทิร์นกลับมารักกันอีกหรือไม่ บอกตอนนี้ให้อิสระต่อกัน
“ผมตอบไม่ได้จริงๆ แต่ผมไม่ได้ให้ความหวังนะ แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ บางทีผมก็อาจจะไปมีแฟนใหม่ เขาอาจจะไปมีแฟนใหม่ หรือเราอาจจะไปมีแฟนใหม่มาแล้วหลายคน แต่เราก็อาจจะกลับมาเจอกันก็ได้ใครจะไปรู้ เรารู้จักกันมาสองปี มันอาจจะเป็นระยะที่ไม่ได้นานและสั้นมาก ผมกับเขาก็เป็นคนตรงในเรื่องของการคุย บางทีเวลาทะเลาะกันเราก็จะคุยกันตรงๆ ตอนนี้เราอยู่กันในระดับไหน เราก็บอกกันตรงๆ”
“ถ้าวันนึงเขามีแฟนเราก็ต้องยอมรับและเราก็ไม่รู้สึกอะไร เราแค่อยากให้เขาเจอคนที่ดีๆ และผมก็เชื่อว่าเขาก็อยากให้เราเจอคนดีๆ ทุกวันนี้ผมมีแฟนมาแล้วสองคน ผมยังติดต่อกับแฟนเก่าผมอยู่เลย ยังคุยเป็นเพื่อนสนิทกันได้ พ่อผมสอนว่าถ้าเราเลิกกับใคร เราไม่ต้องไปหนีหน้าเขา และเราไม่จำเป็นต้องไปจบกันแบบโกธรๆ เราก็ยังดีต่อกัน วันนึงเราอาจจะกลับไปแต่งงานกับแฟนคนแรกก็ได้ มันไม่มีใครรู้”
บอกตอนนี้เปิดตัวเองพร้อมมีความรักครั้งใหม่แล้ว และหากสาว “ยิปซี” จะไปมีคนใหม่ตนก็ไม่ซีเรียส
“ส่วนตัวผมเองนั้นผมไม่ได้ปิด ผมเปิดนะ ใครที่พร้อมเข้ามาศึกษาเราก็โอเค เราก็พร้อมที่จะศึกษาเขาด้วย เราไม่ได้กลัวความรัก เราพร้อมที่จะผิดหวังเสมอ เพราะผมว่ามันเหมือนการโยนหินถามทางเหมือนกันนะ ว่าเราจะเจอทางที่เราชอบหรือเปล่า ถ้ามันไม่ใช่มันก็เสียใจแป๊บนึง แต่เราคิดว่าเราต้องเจอคนที่ใช่ เพราะมันต้องมีคนที่ใช่สำหรับเราอยู่แล้ว แต่ว่ามันจะเป็นใครเท่านั้นเอง ถ้ามีรักอีกครั้งเราก็เต็มร้อยนะ เพราะรักใหม่มันต้องดีกว่ารักเก่าเสมออยู่แล้ว ผมหมายถึงเวลาไปรักกับคนใหม่ เราต้องจริงใจกับรักใหม่ และต้องลืมรักเก่าให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นมันจะไม่แฟร์กับคนใหม่”
ที่มา: manager.co.th
