Author Topic: “รอง” สุดห่วง “แม่ทุม” ทรุดรอบ 3 เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องเฝ้า 24 ชม.  (Read 662 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“รอง” เผย “แม่ทุม” เข้าโรงพยาบาลครั้งที่ 3 เหตุหายใจแผ่ว แจงตอนนี้ภรรยาป่วยเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงเพิ่มมาอีกหนึ่งโรค บอกอาการร้ายแรงมากขึ้นทำให้ต้องเฝ้า 24 ชม. เพราะสามารถน็อกได้ตลอดเวลา ลั่นสุดห่วงแต่กำลังใจของตน และภรรยาดีเต็มร้อย ทำใจอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
       
       หลังจากที่นักแสดงอาวุโสมากฝีมือ “ปทุมวดี เค้ามูลคดี” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “แม่ทุม” คู่ชีวิตของ “รอง เค้ามูลคดี” เจ็บหนักจนถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว 2 รอบ หลังโรคไทรอยด์เป็นพิษชนิดรุนแรงกำเริบ และก่อนหน้านี้ ทางด้านของสามีคู่ชีวิตก็ได้ออกมาเผยถึงอาการของภรรยาว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว และอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ล่าสุด ต้องหาม “แม่ทุม” ส่งโรงพยาบาลครั้งที่ 3 เป็นการด่วน ด้วยสาเหตุหายใจแผ่ว โดยตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง ชั้น 7 โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งกับความคืบหน้าการรักษาอาการป่วย “รอง” ได้เผยว่า…
       
       “คือจริงๆ แล้วการเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ไม่มีใครรู้เรื่องเลย เข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ก็ครั้งที่ 3 แล้ว แต่หมอบอกว่าไม่อยากให้มีครั้งที่ 4 คือ ปกติถ้าเขานอนหลับอยู่ในห้อง แล้วถ้าใครเดินผ่านหน้าห้องเขาจะเรียกหมด วันนั้นเจ้าโด่งเขาก็เดินลงมาแล้ว ทุกวันแม่เขาจะเรียกโด่งทุกวัน แต่วันนี้เขาไม่เรียก โด่งมันก็มองว่าทำไมแม่ไม่เรียก”
       
       “แต่พอดีวันนั้นเขามีธุระไปธุระกลับมาเขาก็มายืนหน้าห้อง แม่ก็ไม่เรียกอีก เขาก็เลยเดินเข้าไปดู แม่ก็นอนอ้าปาก แล้วก็นอนมองเพดานก็เลยเอามือไปอังตรงจมูก ก็เกิดว่าทำไมลมหายใจมันแผ่วขนาดนี้ โด่งก็ตกใจเรียกเด็กที่บ้านมาช่วยอุ้มใส่รถส่งห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลรามาฯ แต่พอดีรถมันไม่ติดเราก็เอามาส่งเลย ปรากฏมาถึงหมอบอกว่าออกชิเจนที่ตัวจะหมดแล้ว ก็เลยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ”
       
       “ซึ่งตอนที่โด่งเขาพาแม่ส่งโรงพยาบาลพ่อก็ไม่ได้อยู่บ้านด้วย พ่อถ่ายละครอยู่ฝั่งธน ก็เลยรีบขับรถมาเลย พอมาถึงคุณหมอกำลังเอาท่อลงพอดี ตอนแรกที่กลับบ้านไปคือปกติแล้ว ดีหมดทุกอย่าง เขาบอกว่าเราก็ไม่รู้ว่าตอนไหนที่กล้ามเนื้อมันจะเกิดอ่อนแรง ตอนนี้ที่แม่เขาเป็นคืออาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง มันรุมเร้าหนักมาก คือนอนๆ ถ้าเราไม่รู้ถ้าเขาหลับๆ นอนๆ ธรรมดามันก็จะอ่อนแรงๆ แล้วก็หลับไปเลย”
       
       “ตอนนี้ไทรอยด์กลายเป็นปัญหารองแล้ว ปัญหาใหญ่คือ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง มันเป็นปัญหาใหญ่แล้ว เพราะว่ามันเกิดมาหลายเดือนแล้ว แต่ว่ามันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนี้ ตอนนี้แรงมากขึ้น ตอนนี้คือถ้าแม่นอนหลับก็คือต้องคอยดู ถ้าเราอยู่กับเขาเราก็ต้องคอยดูว่าเขาอยู่ในสภาพไหน ก็ต้องเอามือคอยๆ อังจมูกไว้ ถ้าจะให้ใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาก็ต้องปรึกษาคุณหมออีกที แต่จริงๆ คุณหมอก็ให้กลับบ้านได้แล้วนะ แต่กลัวว่าถ้ากลับไปแล้วเกิดอะไรขึ้นอีกจะทำยังไงเดี๋ยวส่งโรงพยาบาลไม่ทัน”
       
       เผยตอนนี้อาการดีขึ้นเป็นพักๆ ถ้าโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงกำเริบอาการก็จะหนักอีก
       
       “ตอนนี้แม่ก็คุยได้ปกติทุกอย่าง เราก็ยังงงอยู่ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง มันเกิดอย่างฉับพลันมาก งงมากนะ ตอนนี้ก็พูดคุยจ้อยๆๆ หมอก็บอกว่าจะให้กลับบ้านแล้วนะ แต่หมอเขาก็ยังเป็นห่วงเรื่องไม่รับประทานอาหาร เขาทานได้แต่พอทานแล้วเขาเหนื่อยเพราะว่าไอ้โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมันลามไปทั่วหมด พอเขาทานมากๆ ก็เหนื่อย เขาก็เลยไม่อยากทาน”
       
       “หมอก็ดูเรื่องอาหารเหมือนกัน เพราะว่าตอนนี้ก็ทานอาหารธรรมดาปกติอยู่ แต่ว่าถ้าเขาทานแล้วเขาเหนื่อยเราก็ต้องเตรียมเป็นอาหารเหลวไว้ให้เขาด้วย เดี๋ยวก็ต้องติดต่ออาหารกับทางโรงพยาบาล ถ้ากลับบ้านก็ยังไม่รู้ว่ามันเก็บไว้ได้นานแค่ไหน เพราะว่าสังเกตไว้เขาดูดได้ แต่ก็ต้องบอกเลยว่าตั้งแต่สิ้นปีที่แล้วมาถึงปีนี้ ปัจจุบันอาการเขาไม่ได้ดีขึ้นเลยนะ แต่เราก็บอกว่าเขาดีขึ้นตลอด ทุกคนก็พูดให้กำลังใจเขานะ”
       
       “แต่เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรเลยนะ ทำไมต้องเอาเขามาไว้ที่โรงพยาบาลเขาแข็งแรงจะตาย น้ำหนักก็ไม่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 31 กิโลฯ แล้วความจำตอนนี้เขาสับสนมาก คุยกับเขา เขาก็บอกว่าเขาเหนื่อยมาก เขาไปถ่ายละครเพิ่งกลับมา ถึงบอกว่าอะไรมันแวบเดียวแวบเดียวหมด อย่างคุยกับเขาไปถ่ายละครแวบเดียว เขาก็กลับมาคุยรู้เรื่องอีกแล้ว รู้เรื่องไปได้พักใหญ่ๆ เอาอีกแล้วไปตามพ่อมาหน่อยสิ”
       
       “แล้วเขาถามพ่อไหน พ่อรองไง ไม่รู้จักเหรอ เขาก็งง เพราะว่าเราก็นั่งอยู่ สักพักหนึ่งกลับมาอีกแล้ว ตามพ่อสิ โทร.ถามหน่อยเบอร์พ่อ แต่เขาจำเบอร์โทรศัพท์ได้แม่น ซึ่งหมอบอกว่าอาการแบบนี้อาจจะเป็นเพราะยาก็ได้ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาอ่อนแรงแล้วก็จากที่เขาล้มในห้องน้ำอาจจะกระทบกระเทือน แต่ไม่น่าห่วง หมอบอกว่าถ้าร่างกายเขาแข็งแรงมันก็จะฟื้นมาเอง ตอนนี้ก็ประคับประคองดูแลเขาให้ดีที่สุด”
       
       กับคำถามที่ว่าตอนนี้โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต้องอยู่ในการดูแลของหมอตลอดเลยมั้ย เจ้าตัวเผยว่า…
       
       “มันก็พูดยาก เพราะว่าถ้าอยู่ปกติก็เหมือนเป็นคนธรรมดาไม่มีอะไร แต่ถ้ามันมามันก็มาเลยนะ มาแบบไม่ให้ตั้งตัวเลย มาก็มาเลย บางทีเขาหายใจอ่อนลงๆ ก็เลยคิดว่าจะถามหมอว่าเอาออกชิเจนไปไว้ที่บ้านดีไหม คือมันแปลกมากนะโรคนี้ ทุกคนงงหมด เดี๋ยวน็อกไป เดี๋ยวดี เป็นแบบนี้ตลอด ก็เลยจับทางกันไม่ถูก หมอบอกว่าเขางงไปหมด”
       
       “ไทรอยด์ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นอยู่ แต่ไอ้กล้ามเนื้ออ่อนแรงนี่แหละที่สามารถจะไปได้ง่ายๆ ซึ่งจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่ก็ต้องดูก่อนว่าเขาจะหายใจเองได้หรือยังต้องใช้ออกซิเจนหรือเปล่า ถ้าไม่ต้องใช้แล้วก็สามารถกลับบ้านได้ แต่ก็ต้องคุยกับคุณหมออย่างยาวแล้วก็ละเอียดหน่อยว่าเราจะมีวิธีการดูแลเขายังไง”
       
       บอกกำลังใจของ “แม่ทุม” และตนดีเต็มร้อย
       
       “คือเขาไม่เคยรู้เลยว่าเขาเป็นอะไร ปัจจุบันเขาคิดว่าเขาแข็งแรง เขาไม่รู้เลยว่าเขาเป็นอะไร เราตั้งใจไม่บอกเขาเลย เราแค่บอกเขาว่าเขาเป็นไทรอยด์แค่นั้น เราก็ขอให้เขาทานข้าวทานอะไรเยอะๆ ไทรอยด์มันจะได้หาย เราจะไม่บอกอะไรที่มันร้ายแรงกับเขา เรารู้ว่าเขาเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ว่าเราไม่คิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้”
       
       “แล้วตอนนี้คุณหมอเขาบอกว่ากำลังจะหาสาเหตุว่ามันมาจากอะไร ส่วนกำลังใจพ่อมันเต็มร้อยอยู่แล้ว อย่างหนึ่งเราต้องคิดว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ก็ไม่อยากให้มันเกิด เราก็เฝ้าแม่ตลอด 24 ชั่วโมงนะ คือถ้าเขาเปิดให้เฝ้าเมื่อไหร่เราจะเฝ้าตลอด แล้วถ้ามีถ่ายละครพ่อก็จะวิ่งไปถ่ายละคร ตอนนี้สุขภาพเราไม่เป็นอะไรแข็งแรงดี เอาเขาให้รอดเถอะ”
       
       ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น “รอง” เผย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับ “แม่ทุม” ไว้เป็นคนไข้ในพระอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ครอบครัวตนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม
       
       “ต้องบอกว่าเรื่องค่าใช้จ่ายถือว่าเป็นโชคดีของทางครอบครัว เราได้รับพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างสูงสุดที่องค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระอุปถัมภ์ แล้วลูกชายก็เป็นข้าราชการ ก็เลยเบิกได้ส่วนหนึ่งครับ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)