"โจลี" ระหว่างเปิดตัวหนังเรื่อง "the Tourist" เมื่อปี 2010/AFP เอเอฟพี - “แอนเจลินา โจลี” เปิดเผยว่าเธอได้ตัดสินใจที่จะเข้าสู่ขั้นตอนทางการแพทย์ เพื่อตัดเต้านมทั้งสองข้าง 2 ทิ้ง เพราะเชื่อว่าตัวเองมีโอกาสเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นมะเร็งเต้านมในอนาคต นักแสดงสาวชาวสหรัฐฯ วัย 37 ปี เขียนข้อความเพื่อเล่าถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญ ลงตีพิมพ์ใน New York Times ด้วยการเริ่มต้นหัวข้อว่า “การตัดสินใจทางการแพทย์ของฉัน” ซึ่งเธอได้เล่าว่า ตนเองเพิ่งที่จะเข้ารับการรักษาครั้งใหญ่ สืบเนื่องจากร่างกายของตัวเองมียีนที่ไม่สมบูรณ์ จนเพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่
แอนเจลินา โจลี นักแสดงหญิงที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของฮอลลีวูดยุคปัจจุบัน ยังกล่าวว่าเพราะยีนที่เรียกว่า BRCA1 นี้ ทำให้หมอเชื่อว่าเธอมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมถึง 87 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสเป็นมะเร็งรังไข่ 50 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นมารดาของเธอก็เสียชีวิตด้วยมะเร็งขณะที่มีอายุแค่ 56 ปีเท่านั้น
“เมื่อฉันได้รู้ถึงความจริงเกี่ยวกับตัวเองข้อนี้ ฉันตัดสินใจเองว่าต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงให้น้อยลงที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงได้เลือกที่จะตัดเต้านมออกทั้งสองข้าง” โจลี เขียน
“ฉันขอเริ่มที่เต้านม เพราะมีโอกาสเสี่ยงมากกว่า และการผ่าตัดรังไข่ก็ซับซ้อนกว่าด้วยเช่นเดียวกัน”
เธอยังเผยอีกว่าเพิ่งจะเสร็จสิ้นจากขั้นตอนทางการแพทย์ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตัดเอาเต้านมออกครั้งนี้ ที่กินเวลาถึง 3 เดือน ในวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา จนตอนนี้เธอสามารถลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเหลือเพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
โจลี ที่มีลูกบุญธรรม และลูกแท้ๆ กับ แบรด พิตต์ รวม 6 คนยังกล่าวด้วยว่า “ฉันสามารถบอกกับเด็กๆ ได้แล้วว่าทุกคนไม่ต้องกลัวว่าจะเสียแม่ไปจากมะเร็งเต้านมแล้ว”
ที่มา: manager.co.th