ในงานอีเวนท์พรีวิวเกมใหม่ของค่ายยูบิซอฟต์ ที่จัดขึ้นในเมืองซานฟรานซิสโกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางทีมผู้พัฒนาเกมแอ็คชั่นแฮ็คโลกอิสระ ได้ออกมาเปิดเผยถึงองค์ประกอบสำคัญๆที่ถือเป็นไฮไลท์เด่นของเกม พร้อมปล่อยคลิปเกมเพลย์ตัวใหม่ที่มีความยาวนานเกือบครึ่งชั่วโมง อย่างที่รู้ๆกันเรื่องราวในเกม "Watch Dogs" จะเกิดขึ้นบนโลกอนาคตอันใกล้ที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยเทคโนโลยี ซึ่งผู้เล่นจะได้รับบทแฮคเกอร์หนุ่มนาม "เอเดน เพียร์ซ" (Aiden Pierce) ที่มีความสามารถพิเศษในการแฮคเข้าไปยัง "CtOS" (Central Operating System) ระบบศูนย์กลางของเมืองชิคาโกผ่านทางสมาร์ทโฟน ทำให้เขาสามารถควบคุมได้ทั้งเมือง และคอยช่วยเหลือผู้คนจากเหล่าอาชญากรอย่างลับๆ ไปพร้อมกับหนีการไล่ล่าของตำรวจ
"เอเดน เพียร์ซ" จะแตกต่างจากตัวละครเอกทั่วๆไป เนื่องจากตัวเอเดนนั้นมีอดีตเบื้องหลังอันดำมืด โดยเขาเติบโตขึ้นมาที่เมืองชิคาโกแห่งนี้ และใช้ชีวิตประจำวันด้วยการพึ่งทักษะคอมพิวเตอร์ที่ตนชำนาญในการแฮคระบบรักษาความปลอดภัยลักลอบดูดเงินจากบัญชีในธนาคาร แต่กลับคอยช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อน จึงทำให้ดูเหมือนเป็นฮีโร่ในคราบผู้ร้าย และกลายเป็นศัตรูกับทั้งฝ่ายกฏหมายและเหล่าอาชญากร ซึ่งในระหว่างการเล่นตัวเกมจะไม่มีตัวเลือกทางศีลธรรมมาให้ผู้เล่นได้ตัดสินใจเหมือนกับเกมอื่นๆ แต่จะเปลี่ยนไปเน้นที่การทำให้ผู้คนในสังคมยอมรับในการกระทำของตัวเอก
เมืองชิคาโกที่ใช้เป็นฉากหลักของเกม จะถูกทำออกมาให้ผู้เล่นได้รู้สึกราวกับกำลังอยู่ในเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ ซึ่งต่างจากเกมแนวโอเพ่นเวิลด์ก่อนหน้าที่ตึกอาคารสิ่งก่อสร้างเป็นเหมือนกับกล่องยักษ์ที่ทาสีต่างกันเท่านั้น เนื่องจากตัวเกมจะใส่รายละเอียดเพิ่มความสมจริงลงไปทั้งตรอกซอกซอยที่มีกล่องกระดาษและเศษขยะวางเกลื่อนกลาด ลานจอดรถที่มีลักษณะคล้ายรวงผึ้งและมีแสงเงาต่างระดับกันไป หรือแม้แต่รายละเอียดห้องนั่งเล่นที่อยู่ภายในบ้านของชาวเมืองชิคาโก
ผู้เล่นสามารถแฮคสิ่งของได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแฮคกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจหาตำแหน่งของยามเฝ้าสถานที่เป้าหมาย, แฮคเพื่อเปิดประตูโรงรถ, แฮครถโฟล์คลิฟท์เพื่อล่อลวงทำให้ศัตรูสับสน หรือหากอยู่ในสถานการณ์คับขันผู้เล่นสามารถแฮคไฟจราจรเพื่อก่อให้เกิดอุบัติเหตุรถชันกลางสี่แยกได้ ซึ่งสภาพแวดล้อมทุกอย่างล้วนตอบสนองต่อผู้เล่นแบบไดนามิคไม่มีการจัดฉาก ส่งผลให้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
และไม่ใช่แค่การแฮคสิ่งของที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น เนื่องจากภายในเมืองชิคาโกยังมีจุดไวไฟฮอตสปอตสาธารณะประจำอยู่ตามที่ต่างๆ โดยตัวเอกสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเครือข่ายและทำการแฮคอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นที่กำลังเชื่อมต่ออยู่ได้ทั้งหมด ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถเจาะดูเข้าถึงข้อมูลและแอบสอดส่องพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือความเป็นอยู่ของชาวเมืองทั่วไปคนอื่นๆที่ไม่ใช่เป้าหมายได้
เมื่อแฮคเข้าระบบ CtOS ของเมืองชิคาโก ผู้เล่นจะพบกับเควสต์รองมากมายหลากหลายให้ได้ทำ รวมถึงเควสต์หยุดยั้งการก่ออาชญกรรม โดยในฐานข้อมูลเมืองชิคาโกจะมีระบบป้องกันภัยที่เรียกว่า "Crime Prediction Algorithms" ซึ่งมันจะทำนายเปอร์เซนต์ความเสี่ยงของผู้คนในเมืองที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อของอาชญากร แล้วให้ผู้เล่นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นมา (คล้ายๆกับหนังเรื่อง Minority Report)
นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญทางเทคนิคแล้ว ตัวเอเดนยังมีสกิลทางด้านการต่อสู้ติดตัวมาด้วย โดยระบบการต่อสู้ในเกมนั้นจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถเลือกกำจัดศัตรูได้ทั้งแบบวิธีรุนแรงถึงชีวิตหรือจะเลือกทำให้สลบ สำหรับผู้เล่นที่ชอบการลอบเร้นจะต้องหมั่นดูแผนที่หลบยามที่เดินตรวจ และใช้ประโยชน์จากกล้องรีโมทเพื่อเช็คตำแหน่งศัตรู ส่วนผู้เล่นที่ชอบความรุนแรงตัวเกมก็จะมีสรรพาวุธหลากหลายมาให้เลือกใช้ แต่ต้องคอยระวังไม่ให้คนบริสุทธิ์โดนลูกหลงไปด้วย ไม่งั้นจะส่งผลกระทบต่อระดับค่าความเชื่อถือของตัวเอก
สำหรับโหมดมัลติเพลย์เยอร์ของเกมนั้น จะใช้สภาพแวดล้อมเมืองชิคาโกแบบเดียวกับโหมดเนื้อเรื่อง โดยทางทีมผู้พัฒนาระบุแผนว่าจะทำให้ทั้งโหมดมัลติเพลย์เยอร์และซิงเกิลเพลย์เยอร์มีความเชื่อมโยงคาบเกี่ยวกันแบบแยกไม่ออกเลยทีเดียว แถมยังเตรียมขยายประสบการณ์การเล่นลักษณะคาบเกี่ยวนี้ลงไปสู่แพลตฟอร์มมือถืออีกด้วย เพียงแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆได้ในตอนนี้
เกม "Watch Dogs" มีกำหนดวางจำหน่ายลงทั้งเครื่องพีซี, เอ็กบ็อกซ์360, เพลย์สเตชัน 3 รวมถึงเครื่องคอนโซลเน็กซ์เจนอย่างวียู และเพลย์สเตชัน 4 ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
joystiq
kotaku
cvg
polygon
gameinformer
eurogamer
ที่มา: manager.co.th