Author Topic: “บี้” รับรู้จัก “เกย์ติดเอดส์” เผยเป็นคนดันประกวดเดอะสตาร์ ปัดลืมบุญคุณยินดีไปเยี่ยม  (Read 714 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




"เกย์ตาต้า"

“บี้” ยอมรับรู้จักกับ “เกย์ตาต้า” เผยอีกฝ่ายเป็นคนดันประกวดเดอะสตาร์จริง ปัดลืมบุญคุณ อ้างคนมีบุญคุณกับตนเป็นร้อยอาจลืมชื่อไปบ้าง แต่ไม่เคยลืมว่าใครทำอะไรให้ ยินดีไปเยี่ยม ไม่สนใจอีกฝ่ายจะออกพ็อกเกตบุ๊กแฉ แถมใจกว้างโคตรบอกถ้าจะเอาข้อมูลเพิ่มให้มาขอกับตนได้เลย ส่วนเรื่องที่เกย์ตาต้าเป็นเอดส์ยันไม่ทราบ ก่อนโต้แฟนคลับทำคุณไสยใส่
       
       ดังอยู่ดีๆ ก็เจอข่าวฉาวเล่นงานซะอ่วม! สำหรับนักร้องและพระเอกคนดัง “บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว” ทั้งประเด็นที่ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ “Superบันเทิง” ได้เปิดประเด็นมีเกย์รายหนึ่งที่ชื่อ “ตาต้า” เที่ยวเดินสายพบนักข่าว เพราะอยากจะทำพ็อกเกตบุ๊กเล่าเรื่องราวชีวิตของตนกับหนุ่ม บี้ ว่าครั้งหนึ่งเคยรักหวังดีและดูแลกันมาตั้งแต่สมัยอยู่เชียงใหม่ และเป็นคนส่งบี้เข้าประกวดเดอะสตาร์ แต่พอดังแล้วบี้หายจ้อยไม่ยอมติดต่อเหมือนคนไม่รู้จักกัน แถมยังเผยด้วยว่าตนเองนั้นติดเชื้อเอชไอวี จึงอยากเจอบี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย
       
       ยังไม่ทันได้เคลียร์ข่าวฉาวแรก ล่าสุดก็มีข่าวออกมาอีกว่าแฟนคลับส่งของขวัญที่มีคุณไสยมาให้หนุ่มบี้ แต่ผู้จัดการของเจ้าตัวเป็นคนรับของขวัญนั้นให้ ทำเอาเจ้าตัวกลัวถึงขั้นต้องให้ผู้จัดการส่วนตัวพาไปหาพระเพื่อแก้ของ ทันทีที่ได้เจอตัวบี้ในงานเปิดตัวละครเวที “THE Phantom of the Opera” (เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า) รอบกาล่า ที่เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ก็เลยต้องให้เจ้าตัวเคลียร์ประเด็นร้อนซะเลย เริ่มที่เรื่องโดนของก่อน
       
       “ไม่มีครับ ไม่มี แล้วที่บอกว่าคนใกล้ตัวรับไปแทน หมายถึงผู้จัดการเหรอครับ ผู้จัดการไม่มีครับ วันนี้มาก็ยังใส่ชุดสวยงามในชุดที่รุนแรงกว่าผมอีกครับ เห็นข่าวแล้วทราบข่าวแล้วครับ ก็มันดี เป็นไปไม่ได้หรอกครับที่แฟนคลับจะมาทำคุณไสยใส่ เพราะคำว่าแฟนคลับต้องรักกัน เรารักเขาเขารักเรา แล้วจะมาทำแบบนี้ผมคิดว่าไม่ครับ แล้วยิ่งตอนนี้ 2013 แล้ว จะมาคุณไสยผมว่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ของแปลกไม่เคยได้เลยครับ แปลกที่สุดคงเป็นกางเกงในมั้ง (หัวเราะ) มันแปลกสุดแล้ว แต่ก็ไม่แปลกหรอก ได้ก็เอามาใช้ เพราะว่าไซส์มันพอดี ใส่ได้พอดี”
       
       “ถ้าถามว่าผมเชื่อเรื่องนี้หรือเปล่า คือผมเชื่อเรื่องกรรมเรื่องความดี ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าของพระพุทธศาสนา ผมเชื่อเรื่องทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เพราะว่าตัวผมเองก็ทำบุญสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่ตลอด แล้วเรื่องของกินที่บอกว่าผมขยาดไม่กล้ากินของของแฟนคลับอันนี้คือ ผมโอเคนะ ผมโอเคครับ แต่ถ้าผมไม่มั่นใจในสิ่งของไหน ผมก็นึกพุทโธนึกถึงพระพุทธเจ้าแค่นั้นเองครับ แล้วผมคิดว่าเรื่องคุณไสยต่างๆ ก็จะไม่สามารเข้าเราได้ แต่จริงๆ ผมไม่ค่อยจะระวังตัวอะไรหรอกครับ อยากทำอะไรก็ทำ อยากกินก็กิน”
       
       บอกไม่ได้เป็นคนกลัวเรื่องไสยศาสตร์
       “ผมไม่ได้กลัวครับ เรื่องพวกนี้ผมไม่ค่อยกลัวเรื่องผี เพราะตอนบวชพระท่านก็สอนว่าถ้าเกิดเราเห็นพวกนี้ก็หมายความว่า เป็นคนมีบุญ เขาจะมาขอบุญ เราก็อุทิศบุญให้เขาไป เขาไม่ได้มาหลอกมาหลอนอะไร เขาต้องการบุญต้องการกุศลเพื่อจะได้ไปผุดไปเกิดในทางที่ดี เพราะว่าถ้าเขามาก็มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา ก็คือบุญ (ข่าวว่าพระแก้ของให้?) ไม่มีครับ ไม่มี นี่ยังหน้าตาสดใส อ้วนท้วนสมบูรณ์เหมือนเดิม สนุกสนานเหมือนเดิมไม่มีอะไร”
       
       พร้อมกันนี้ซุป’ตาคนดังยังได้เปิดใจถึงประเด็นร้อนในตอนนี้ กรณีที่มีดีเจกะเทย “ตาต้า” ออกมาอ้างว่าเป็นคนพาหนุ่มบี้เข้าวงการ และเป็นคนดันให้เจ้าตัวประกวดเดอะสตาร์ ที่สำคัญเคยดูแลและรักหวังดีกับบี้มากตั้งแต่สมัยยังอยู่เชียงใหม่ แต่พอดังบี้ก็ถีบหัวส่งตัดขาดความสัมพันธ์ อีกทั้งตอนนี้ดีเจคนดังกล่าวติดเชื้อเอชไอวี ทั้งยังอยากออกพ็อกเกตบุ๊กแฉเรื่องราวที่ผ่านมา
       
       “ก็ดีครับ สนุกสนานดีเฮฮา สบายๆ ครับ ไม่มีอะไร ตอนนี้ผมก็ไม่ค่อยมีข่าวอะไร ซึ่งเขาก็ไม่ได้ติดต่อเรามา แต่อย่างไร คือผมไม่ได้ติดต่อกันมานานมากแล้ว ถ้าให้ผมเดานะครับ ตอนที่ผมเข้าวงการในรายการเดอะสตาร์ ก็มีพี่ดีเจคนหนึ่งชักชวนให้มาประกวดรายการเดอะสตาร์ ผมก็บอกดีๆๆ ผมก็ให้เกียรติเขาสัมภาษณ์เลยในรายการเดอะสตาร์ ก็ออกในรายการเดอะสตาร์ก็ปกติครับ ผมเคยรู้จักครับ ใครที่ผมเคยรู้จัก ใครที่มีบุญคุณกับเรา เรารู้จักกันเยอะครับ เรารู้จักคนเยอะ”
       
       “เรื่องที่เขาติดเชื้อเอดส์นั้น อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ ผมไม่ทราบจริงๆ สิ่งที่ผมพอจะทำได้ตามศาสนาพุทธนะ ก็ให้บุญให้กุศลกันไป เพราะผมเชื่อว่าโรคต่างๆ โรคเอดส์ โรคมะเร็ง การบาดเจ็บต่างๆ หรืออะไรก็ตามมันคือบุญที่เราเคยทำมา สิ่งที่เราพอจะทำได้คืออุทิศบุญและกุศลที่เราพอจะทำได้ให้กับทุกๆ คน”
       
       ส่วนที่ดีเจตาต้าจะออกมาแฉนั้น “บี้” บอกว่า…
       “อย่างที่ผมบอก ว่าเราจะใส่ใจกับคนที่เรารักและคนที่รักเราเท่านั้นแหละครับ ใครจะอะไรก็ช่างเขา ไม่เป็นไรครับ เรานอนอยู่บ้านดีๆ ก็เป็นข่าว เราไม่ได้ทำร้ายใคร ใครอ่านก็โอเคเฮฮา เพราะว่าจริงๆ อดีต ผมไม่ได้ทำอะไร เราไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีอยู่แล้ว ยังไงเราก็เป็นคนเคยรู้จักอะไรกันอยู่แล้ว จริงๆ ก็ได้นะ ผมไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว นัดเคลียร์นัดคุยคงไม่มีครับ เราก็ใช้ชีวิตอยู่ของเราสนุกสนานปาจิงโก๊ะ (เขาจะทำเป็นพ็อกเกตบุ๊ก?) ทำได้ๆ เฮฮาๆ เอาข้อมูลจากผมไปเพิ่มก็ได้ เออจะได้ดูจริงจังหน่อย”
       
       ยันไม่มีการฟ้องร้อง
       “ไม่มีครับ ไม่มีเรื่องเสียชื่อเสียงครับ เพราะว่าชื่อเสียงกับผมมันอยู่ไกลกันมาก เพราะว่าผมเป็นคนรักในการทำงานกับการร้องเพลงแค่นั้นครับ ชื่อเสียงก็เอาวางไว้ แต่ชื่อเสียงก็เป็นอะไรที่คนมอบให้เราก็วางเอาไว้ พอกลับบ้านไปกอดพ่อกอดแม่ก็เป็นลูกคนหนึ่งแล้วครับ”
       
       และกับคำสัมภาษณ์ที่เกย์คนนี้เล่าว่า เป็นคนหลอกพาไปถ่ายแบบแนวเซ็กซี่ที่เคยมีภาพหลุดออกมาในช่วงออกจากเดอะสตาร์ใหม่ๆ นั้น เผยว่า...
        “ใช่ครับ เขาพาไปครับ แต่เขาไม่ได้หลอกผมนะครับ นั่นคือการตัดสินใจของผม เป็นการตัดสินใจที่มีสติแล้ว คือเราอยากทำสิ่งนี้ก็ขอนอกคอกหน่อย ไม่มีครับ ไม่มีการหลอก เป็นการตัดสินใจของผมครับ ซึ่งถ้าย้อนกลับไปได้ผมจะไม่แก้ไขอะไรทั้งนั้นเลย เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่ดี ถ้าแก้ไขแล้วผมลืมสิ่งที่ผมทำไป อนาคตผมก็ต้องทำอีกเพราะผมไม่รู้ว่าผมเคยทำอะไรมาก่อนครับ”
       
       ยันตนไม่เคยลืมบุญคุณ
       “เรื่องบุญคุณไม่เคยลืมครับ ผมเป็นคนไม่ลืมบุญคุณคน แต่ลืมชื่อมีบ้าง เราจำหน้าได้ แต่ชื่ออะไรนะบางคนก็จำไม่ได้แต่เราจำสิ่งที่เขาทำให้เราได้เพราะผู้มีพระคุณกับผมมีเยอะมากในชีวิตนี้ เป็นร้อยคนน่าจะได้ครับ (อยากไปเยี่ยมเขาหรือเปล่า?) ถ้ามีโอกาสไปก็ดีครับ เพราะอย่างไรเราก็ยินดีอยู่แล้ว ผมจะไปเยี่ยมตลอดครับ ผมไม่ได้ติดต่อเขานานแล้ว เบอร์โทร.ก็ไม่มีแล้วครับ แต่ถ้าเขาอยากทำพ็อกเกตบุ๊กก็บอกเราได้ มาขอข้อมูลเราได้เราก็ยินดี อะไรที่เราพอจะช่วยเหลือเขาได้ก็ยินดีครับ”
       
       เผยยังไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่ เพราะตนไม่ซีเรียส
       “ผมไม่ค่อยคุยครับ เพราะว่าผมไม่ค่อยซีเรียสอะไรในชีวิต ก็ซีเรียสกับเรื่องงานครอบครัว ซีเรียสเรื่องใครรักเรา เราก็รักเขา”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)