เอซุสเล็งช่องตลาดแท็บเล็ต 7 นิ้ว โทร.ได้ ส่งโฟนแพด (FonePad) อุดช่องว่างราคา 7,900 บาท ตั้งเป้าขาย 15,000 เครื่องต่อเดือน พร้อมวางเป้าชิงผู้นำตลาดโน้ตบุ๊ก และรักษาอันดับ 2 ในตลาดแท็บเล็ตแอนดรอยด์ นายเร็กซ์ ลี ผู้อำนวยการฝ่ายขายภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มธุรกิจซิสเต็มส์ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอซุสเล็งเห็นถึงช่องว่างในตลาดแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว ที่ส่วนใหญ่แม้ว่าจะรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตแต่ไม่สามารถโทรศัพท์ได้ จึงได้เริ่มนำ 'โฟนแพด' เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
"ตอนนี้ตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เอซุสจึงตั้งเป้าจำหน่ายโฟนแพดในช่วงแรกไว้ที่ราว 1.2-1.5 หมื่นเครื่องต่อเดือน โดยปัจจุบันเริ่มวางจำหน่ายในช่องทางขายของไอทีและโน้ตบุ๊กเป็นหลัก ก่อนจะเตรียมขยายไปยังช่องทางโทรศัพท์มือถือในอนาคต"
ทั้งนี้ เอซุสกำลังอยู่ในช่วงหาทีมงานเพิ่มเติมสำหรับขยายช่องทางจำหน่ายไปยังกลุ่มโทรศัพท์มือถือให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการหารือกับทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในการจำหน่ายโฟนแพด พร้อมแพกเกจในอนาคตด้วย
ขณะที่ความคืบหน้าในการหากรรมการผู้จัดการประเทศไทยคนใหม่นั้น เร็กซ์ระบุว่ากำลังอยูในขั้นตอนการสรรหาผู้ที่มีประสบการณ์ และความสามารถที่เหมาะสมกับตำแหน่ง เพียงแต่ยังไม่สามารถแจ้งได้ว่าจะเร็วแค่ไหน ในระหว่างนี้ตนก็จะรักษาการตำแหน่งดังกล่าวไปก่อน
"แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง แต่ยืนยันว่าระบบการทำงาน และนโยบายภายในยังคงเดิม โดยยังคงรักษาเป้าหมายสำคัญไว้ที่การขึ้นเป็นผู้นำในตลาดโน้ตบุ๊กทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย รวมถึงตลาดแท็บเล็ตต่อไปในอนาคต"
ส่วนเป้าหมายในตลาดโลกตั้งเป้าว่าจะขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มโน้ตบุ๊กที่มีหน้าจอทัชสกรีน พร้อมรักษาอันดับ 2 ในตลาดโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต และอันดับ 2 ในตลาดแท็บเล็ตแอนดรอยด์
โดยข้อมูลล่าสุดที่ทางเอซุสเปิดเผยถึงภาพรวมในตลาดโน้ตบุ๊ก พบว่าไตรมาส 4 ปี 2555 มีส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทยอยู่ที่ 20.54% รองจากอันดับ 1 ที่มีส่วนแบ่งตลาด 22.79% หรือคิดเป็นจำนวนเครื่องจะอยู่ที่ 77,150 เครื่อง และ 85,581 เครื่อง ตามลำดับ
นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลเสริมถึงตลาดแท็บเล็ต และอุปกรณ์พกพาในช่วงต่อไปนี้ว่า จะเห็นการมาของแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่มีฟังก์ชันการโทรศัพท์จากแอนดรอยด์มากขึ้น ส่วนแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 จะค่อยเริ่มจากตลาดองค์กรก่อนขยายมายังตลาดคอนซูเมอร์
นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลถึงหน่วยประมวลผล อะตอมที่ใช้งานบนโฟนแพดว่าให้ประสิทธิภาพสูงกว่า และประหยัดพลังงานมากกว่าในแท็บเล็ตระดับราคาใกล้เคียงกัน โดยจากการทดสอบ เอซุส โฟนแพด สามารถใช้งานต่อเนื่องนานกว่า 9 ชั่วโมง (ทดลองจากเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียด 720p) รวมถึงประมวลผลภาพ 3 มิติ ได้รวดเร็วกว่าแท็บเล็ตทั่วไปในตลาดกว่าเท่าตัว
"ภายในปีนี้หน่วยประมวลผลอินเทล อะตอม จะมีรุ่นใหม่ออกทำตลาดอีก 2 รุ่นที่จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม 2 เท่าในแต่ละรุ่น โดยถ้าเทียบกับรุ่นปลายปีที่จะออกมาทำตลาดในชื่อโค้ดเนม Bay Trail จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นที่เป็น Octa Core ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน"
ทั้งนี้ จุดเด่นหลักของเอซุส โฟนแพด จะอยู่ที่เป็นแท็บเล็ตหน้าจอ IPS ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1,280x800 พิกเซล ใช้หน่วยประมวลผล Intel Atom Z2420 RAM 1 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 Jelly Bean กล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 3 ล้านพิกเซล พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง 8 GB สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มได้ 32 GB รองรับการเชื่อมต่อในระบบ 3G บนคลื่นความถี่หลัก 850 / 900 / 2100 MHz สามารถใช้เป็นโทรศัพท์ได้ น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 340 กรัม
Company Relate Link :
Asus
ที่มา: manager.co.th