“ปิ๊บ” ควง “ดร.แพรว” ภรรยาสุดเลิฟออกงานสยบข่าวเตียงหัก ด้านฝ่ายหญิงลั่นไม่เชื่อข่าว เพราะรู้ดีว่าสามีเป็นคนยังไง บอกที่ผ่านมาต่างคนต่างยุ่งทำให้ไม่ได้คุยกันเรื่องข่าว เผยลูกๆ ไม่รู้ขนาดตนยังเพิ่งรู้เลย ก่อนเผยถอยคนละก้าวเพื่อประคองชีวิตคู่ หลังเมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวว่าทางด้านของนักแสดงมากฝีมือ “ปิ๊บ รวิชญ์ เทิดวงส์” ออกมาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ชื่อดังฉบับหนึ่ง ว่าได้ลดสถานะความสัมพันธ์กับภรรยา “แพรว ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์” ทายาทมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ว่าเหลือแค่เพื่อนเท่านั้น หลัง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีทัศนคติการใช้ชีวิตคู่ไม่ตรงกัน ทั้งที่พยายามปรับตัวแล้ว แต่ที่ยังอยู่บ้านเดียวกันเพราะต้องการทำหน้าที่พ่อให้กับลูกทั้ง 2 คน แต่อยู่ๆ ทางด้านของ ปิ๊บ รวิชญ์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งในงานงานหนึ่งว่ายังเป็นสามี-ภรรยากันเหมือนเดิม แต่ยอมรับว่าอีโก้สูงทั้งคู่ทำให้มีปัญหา แต่ตอนนี้เคลียร์กันแล้ว ทำเอามึนไปตามๆ กัน
ล่าสุดหนุ่มปิ๊บได้ควงภรรยาสาวมาร่วมงานเปิดตัวทูตสันถวไมตรี มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมถ์ เนื่องจากเจ้าตัวเป็นทูตสันถวไมตรีของมูลนิธิ ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ราชดำริ งานนี้จึงอดถามไม่ได้ว่าทำงานเพื่อสังคมเยอะแต่ก็ยังมิวายมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับครอบครัวออกมาบ่อยๆ
ปิ๊บ : “ก็เป็น ผอ.ไงครับ ผอ.แม้กระทั่งขายเฟอร์บียังโดนเลย ตอนนั้นผมเองยังไม่รู้จักมันเลยด้วยซ้ำ ก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้รู้ว่าความดังเวลาที่เราดังขึ้นไปอีกระดับนึงเราจะเจอกับอะไร ทั้งหมดทั้งมวลก็คงเป็นเรื่องของธุรกิจ ไม่เป็นไร เราเข้าใจครับ พอดีงานผมเองก็ยุ่งด้วย เลยไม่ค่อยมีเวลาได้มาวุ่นวายกับข่าว”
แพรว : “ไม่ค่อยได้ฟัง แต่ก็มีเพื่อนมาเล่าบ้าง แต่แพรวก็ไม่ได้คิดมากอะไร พี่ปิ๊บเองก็ชวนไปรับรางวัลกับเขา เราก็บอกไม่ไปดีกว่า เราไม่รู้จะตอบเรื่องที่ถูกต้องยังไงเพื่อที่มันจะได้ไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง แต่ไม่เชื่อตามข่าวค่ะ เรารู้อยู่ว่าเขาเป็นคนยังไง”
ปัดออกงานคู่กันครั้งนี้เป็นการสยบข่าวเตียงร้าว
ปิ๊บ : “ไม่ได้สยบอะไรครับ”
แพรว : “เราไม่ค่อยได้ออกงานคู่กันเพราะแพรวเองไม่ค่อยมีเวลา”
ปิ๊บ : “ต่างคนก็ต่างยุ่ง ผมเองก็มีงานหลากหลายไม่ใช่เฉพาะแต่บันเทิง”
แพรว : “กับข่าวพวกนี้แพรวเองมองว่าเขาคงไม่ค่อยสะทกสะท้านอะไรเท่าไหร่หรอกค่ะ เราเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันด้วย เลยมองเป็นเรื่องเฉยๆ”
ปิ๊บ : “ลูกคือภูมิคุ้มกันที่ดีครับ เราก็ต้องดูแลทุกอย่างเพื่อเขา”
แพรว : “คือเขายิ่งดัง ละครยิ่งดังก็ยิ่งต้องตอบคำถามลูกเยอะ บางทีเขาก็ถามว่าแม่ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมที่พ่อเขาไป.... ทำไมต้องมาตะโกนใส่ เราก็บอกใช่ๆ (หัวเราะ) พอถามเยอะๆ เขาก็บอกว่ามันละครลูก ต้องมาคอยตอบลูกทุกคำถาม”
ถึงจะโดนจับตามองเยอะ แต่เพราะงานยุ่งทำให้ไม่มีเวลาอ่านข่าวพวกนี้
ปิ๊บ : “คนที่อ่านสื่อทุกวันอาจจะโฟกัสเรื่องนี้กัน แต่สำหรับผมนั้นผมยุ่งจริงๆ ผมไม่มีเวลามาอ่านเรื่องพวกนี้ ผมออกไปทำงานเช้า กลับมาก็โคตรดึก วันเวลามันก็ผ่านไปโดยที่เราไม่ได้เสพสื่ออะไรเลย เพราะช่วงของงานมันยุ่งจริงๆ มันเลยเหมือนเราอยู่กันคนละโลก ถามว่าผมกดดันไหมผมไม่รู้จะตอบยังไง เพราะชีวิตผมไม่ได้อิงกับตรงนั้น บางทีมีข่าวใหญ่ๆระดับโลกผมเองยังไม่รู้เลย จะมารู้อีกทีก็ 2 วันเข้าไปแล้ว มันเป็นช่วงนึงของชีวิตที่เราต้องยุ่งวุ่นวายกับงาน”
“ถามว่ามีพูดคุยกันเรื่องข่าวมั้ย คือมีบางคนที่เขามากระซิบ มาบอกนะ แพรวเองเขาก็อยู่ในจุดที่เขางานยุ่งเหมือนกัน ไหนจะเรื่องของมหาวิทยาลัย เรื่องของธุรกิจ ผมเองก็ยุ่ง ต่างคนต่างยุ่ง แล้วเราก็ไม่ได้ทำงานด้วยกัน ก็เลยยุ่งกันคนละทางเลยไม่ค่อยได้คุยกันเรื่องพวกนี้เลย”
บอกลูกไม่รู้ข่าวพ่อแม่เตียงร้าวเพราะยังเด็ก
แพรว : “ลูกๆ ก็ซนค่ะ เขาไม่รู้เรื่อง จะรู้ก็แต่ในละคร เขายังเล็ก แต่ลูกเรียกพ่อว่าผอ.นะ เขาก็ติดมาจากในละครที่เขาดูพ่อเขาเล่น ลูกไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก แม่เองยังเพิ่งจะรู้เอง”
ปิ๊บ : “อีกคนนึง 7 ขวบ อีกคน 4 ขวบ ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอกครับ”
เผยถอยคนละก้าว คือวิธีประคับประคองชีวิตคู่ของคู่ตน
ปิ๊บ : “ก็ถอยคนละก้าว”
แพรว : “ถอยคนละก้าว แล้วเงื้อมือขึ้นมา(หัวเราะ)”
ปิ๊บ : “เขาเรียกว่าถอยไปตั้งการ์ด มันก็มีทุกคู่อยู่แล้วแหละครับ แต่เราเลือกใช้เหตุผล เราไม่ใช่อารมณ์ กับเรื่องทุกเรื่องเลยนะ ไม่ใช่เฉพาะกับชีวิตคู่ ถ้าเราใช้แต่อารมณ์ไม่มีอะไรเวิร์กอยู่แล้ว เราเป็นนายของลูกน้องเรา แล้วเราใช้อารมณ์กับลูกน้อง คิดว่ามันจะเวิร์กไหม ไม่มีพื้นที่ไหนใช้อารมณ์แล้วเวิร์คแน่นอน พอมันไม่มีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยว ผมว่าทุกอย่างมันก็คลี่คลายได้ง่าย”
ที่มา: manager.co.th