Author Topic: Death Note โดนต้านที่รัสเซีย - เผยสาเหตุฉบับฮอลลีวูดไม่คืบ  (Read 1403 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


กลุ่มผู้ปกครองในเขตอูราลของรัสเซีย ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” เพื่อขอให้แบนการ์ตูนยอดฮิตจากญี่ปุ่น Death Note ไม่ว่าจะฉบับหนังสือ, อนิเมะ หรือภาพยนตร์ ไม่ให้เข้ามาเผยแพร่ในรัสเซีย เพราะเชื่อว่าส่งเสริมพฤติกรรมที่ไม่ดีให้กับเด็ก
       
       Death Note การ์ตูนญี่ปุ่นของ Shonen Jump ที่ลงตีพิมพ์ระหว่างปี 2003-2006 เป็นผลงานซึ่งว่าด้วยเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เก็บสมุดของยมทูตได้ และหากเขาเขียนชื่อใครลงไปคนผู้นั้นก็จะเสียชีวิตลงทันที ถือเป็นงานแนวสืบสวน ผสมแฟนตาซี ที่ผู้เขียนเล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง จึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านทั่วโลก
       
       แต่ในเวลาเดียวกันก็เกิดปัญหาขึ้นในหลายๆ ประเทศที่ผลงานเรื่องนี้ได้ถูกนำไปเผยแพร่ เมื่อผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยสงสัยว่าการ์ตูนญี่ปุ่นเล่มนี้ ทำให้วัยรุ่นหมกมุ่นกับความตายมากขึ้น
       
       ล่าสุดแม้การ์ตูนจะจบไปถึง 7 ปีเต็มแล้ว แต่ปัญหาจาก Death Note ก็ยังคงไม่หมดลง หลังเด็กสาววัย 15 ปีใน เมืองเยกาเตอรินบูร์ก ในรัสเซีย ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ด้วยการกระโดดลงมาจากชั้นที่ 15 ของอพาร์ตเมนต์ โดยมีจดหมายลาตายที่เขียนไว้สั้นๆ ว่า “ฉันมีชีวิตอยู่ไม่ได้อีกแล้ว” นอกจากนั้นในห้องยังมีการ์ตูน Death Note อีก 4 เล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนถึงความเชื่อมโยงของการ์ตูนจากญี่ปุ่น และการตัดสินใจคิดสั้นของเด็กหญิงคนนี้อย่างที่ผู้ปกครองเชื่อหรือไม่
       
       โดยกลุ่มพ่อและแม่ของเด็กรัสเซียในท้องถิ่นดังกล่าวได้เริ่มเรียกร้องให้มีการ “กำจัด” Death Note ออกจากประเทศรัสเซีย เพราะเชื่อว่าผลงานจากญี่ปุ่นเรื่องนี้กำลังมีผลกับความคิดของเด็ก ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่ในประเทศหมกมุ่น และสนใจความตายจนส่งผลเสียตามมา
       
       นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Death Note โดนผู้ใหญ่ในประเทศต่างๆ มองว่าเป็นการ์ตูนอันตราย โดยเฉพาะกรณีที่เด็กๆ ในหลายประเทศทำสมุด Death Note ของตัวเองขึ้นมา และเขียนชื่อคนที่ตนเองเกลียดชัง ถึงขั้นอยากให้ตายลงไปในสมุดเล่มนั้น จนทำให้การ์ตูนโดนแบนในหลายเมือง
       
       ยังมีเหตุฆาตกรรมหั่นศพในเบลเยียมที่เจ้าหน้าที่พบความเชื่อมโยงของฆาตกรและการ์ตูน Death Note เพราะผู้ก่อเหตุได้ทิ้งจดหมายไว้กับชิ้นส่วนของมนุษย์ ซึ่งแปลออกมาได้ความหมายว่า “ผมคือคิระ” ที่หมายถึงตัวละครเอกในการ์ตูนยอดฮิตเรื่องนี้นั่นเอง

ฮอลลีวูดลังเลเปลี่ยนเนื้อเรื่อง “Death Note”
       
       แม้จะโดนกล่าวหาว่าส่งเสริมให้เด็กหมกมุ่นและสนใจความตายเกินขอบเขต แต่ Death Note ก็ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก นอกจากถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะ แล้วก็ยังถูกสร้างเป็นหนังถึง 2 ภาค นอกจากนั้นทางฮอลลีวูดยังซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปสร้างเป็นหนังอีกครั้งด้วย
       
       โดยมีข่าวมาตั้งแต่ 2 ปีก่อนว่าผู้กำกับดัง เชน แบล็ค ที่กำลังมีหนัง Iron Man 3 เข้าฉายในขณะนี้ จะเป็นผู้สร้าง Death Note ฉบับฮอลลีวูดโดย Warner. เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งล่าสุดทาง แบล็ค ก็ยังยืนยันว่าเขาคงคงพัฒนาโปรเจกต์นี้อยู่ ไม่ได้เลิกถอนตัวไปแล้วแต่อย่างใด แม้ดูเหมือนว่าระยะหลังโครงการสร้างหนังเรื่องนี้จะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ มาพักใหญ่
       
       ซึ่งมีข่าวระบุว่าเพื่อป้องกันปัญหา และโอกาสเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาอีกทาง Warner. อาจจะเปลี่ยนเนื้อเรื่องจากเดิมที่ในฉบับญี่ปุ่นว่าด้วยเด็กหนุ่มวัยรุ่น ยางามิ ไลท์ หรือ “คิระ” ที่หวังใช้ Death Note สร้างความยุติธรรมให้กับสังคม สังหารคนผิดที่ไม่ได้รับโทษตามกระบวนการของกฎหมาย เพื่อสร้างสังคมในอุดมคติขึ้นมา ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ถูกถกเถียงอย่างกว้างขวาง ให้เป็นการใช้ Death Note เพื่อการแก้แค้นแทนเพื่อนที่โดนฆ่าตั้งแต่ยังเด็กแทน
       
       ข่าวระบุว่าเนื้อเรื่องใหม่ถูกสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาตัวละคร “ยางามิ ไลท์” ให้เป็นตัวร้ายเต็มตัว แทนที่จะเป็นตัวละครประเภทก้ำกึ่ง “ดี-เลว” จนเป็น “แอนตี้ฮีโร่” ซึ่งมีวัยรุ่นส่วนหนึ่งชื่นชอบเป็นอย่างมากอย่างในฉบับญี่ปุ่น นอกจากนั้นอาจจะยังมีการตัดตัวละคร “ยมทูต” ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในต้นฉบับออกไปด้วย
       
       ซึ่งเรื่องนี้ผู้กำกับ เชน เบล็ค ค่อนข้างจะไม่เห็นด้วย และทำให้ Death Note ฉบับฮอลลีวูดยังไม่สามารถคืบหน้าไปได้เสียที

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
19 Replies
8966 Views
Last post March 08, 2009, 12:55:57 PM
by IT
0 Replies
4412 Views
Last post October 31, 2010, 03:41:17 AM
by Nick
0 Replies
5768 Views
Last post November 10, 2010, 10:40:28 PM
by Nick
0 Replies
2822 Views
Last post July 06, 2011, 03:16:59 PM
by Nick
0 Replies
1988 Views
Last post July 29, 2012, 02:52:06 PM
by Nick
0 Replies
2083 Views
Last post July 29, 2012, 03:01:59 PM
by Nick
0 Replies
1689 Views
Last post January 03, 2013, 08:08:56 PM
by Nick
0 Replies
1630 Views
Last post June 04, 2013, 03:58:44 PM
by Nick
0 Replies
7908 Views
Last post March 15, 2021, 05:05:33 PM
by Nick
0 Replies
38 Views
Last post December 17, 2024, 04:28:17 PM
by rezrezmore