“ภีม ภาคิน” ลูก “เจค ศตวรรษ” ปัดลุกขึ้นมาแฉพ่อไม่รับผิดชอบเพราะอยากดัง ยันแค่อยากเป็นไอดอลของวัยรุ่นที่เลี้ยงดูแม่ เผยเมื่อก่อนผมตนใช้เงินฟุ้งเฟ้อทำตัวโชว์พาวว่ารวย แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วเพราะต้องรับผิดชอบทุกอย่างแทนแม่ หลังจาก “ภีม ภาคิน บวรศิริลักษณ์” ลูกชายอดีตนางแบบชื่อดัง “แอน กัญญารัตน์ บ่อสันเที๊ยะ” และนักแสดงหนุ่ม “เจค ศตวรรษ ดุลยวิจิตร” ลุกขึ้นมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตตัวเองในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ซัดผู้เป็นพ่อว่าไม่รับผิดชอบและไม่เคยรับว่าตนเป็นลูก ทำให้ตนต้องเป็นเสาหลักของที่บ้าน เพราะแม่ป่วยเป็นวัณโรคกระดูก จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อายุ20 ปี ต้องดรอปเรียนและรับภาระดูแล แม่ น้อง ยาย และน้า ที่เป็นโรคประสาทอีก 2 คน ด้วยเงินรายได้จากการแสดงเพียงเดือนละ 20,000 บาท แต่กลับมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าเดือนละ 70,000 บาท ทำเอา เจค ศตวรรษ ดูเลวร้ายสุดๆ ซึ่งพอรายการออกอากาศไปก็เลยมีหลายกระแสออกมา บางคนก็ชื่นชม บางกระแสก็หาว่าแฉพ่อตัวเองเพราะอยากดัง
“หลังจากออกรายการวู้ดดี้กระแสตอบรับดีมาก มีทั้งแง่บวกและแง่ลบ แล้วก็ผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจแล้วก็แฟนคลับด้วยครับ ส่วนกระแสลบเขาก็หาว่าสร้างภาพที่ออกมาพูดแฉพ่อตัวเองเป็นการสร้างกระแสหรือเปล่า คือก็แล้วแต่คนมอง ผมก็ไม่ได้ออกมาแฉพ่อตัวเอง คือผมไม่ได้โชว์ครับ ผมอยากเป็นไอดอลของวัยรุ่นไทยที่ใส่ใจบุพการี”
“ผมไม่ได้ตั้งใจแฉเรื่องครอบครัวครับ คือในรายการพี่วู้ดดี้ถามว่าแม่เลิกกันเพราะอะไร ก็คือตั้งแต่รายการผมก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องพ่อ ส่วนพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะไม่ได้ติดต่อกัน คือเราแยกกันอยู่ เราก็ต่างคนต่างอยู่ครับ เขาก็มีครอบครัวใหม่ ก็มีลูกใหม่แล้ว คือพ่อผมก็มีส่วนดี แม่ผมก็มีส่วนที่ดี มันก็อยู่ที่แต่ละคนจะมอง ส่วนพ่อผมก็ไม่ได้มีความสำคัญ ทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้เรียกร้องให้มารับผิดชอบ”
ปัด อยากดังจนเอาเรื่องดราม่ามาพูด แต่ยอมรับว่าทุกวันนี้เป็นที่รู้จักของคนมากขึ้น
“ไม่ครับ คือผมเลี้ยงแม่ตั้งแต่ผมอยู่ ม.6 เขารู้จักผม ก็เลยซักประวัติผม แล้วน่าสนใจ เขาก็เลยเอามาออกรายการวู้ดดี้ ผมก็ไม่ได้สร้างกระแสอะไร คือพี่เขาอยากให้เป็นแบบอย่างของวัยรุ่น ตอนนี้ก็มีงานเพิ่มขึ้น เป็นที่รู้จักของคนมากขึ้น พอมีเงินผมก็ดูแลยายดูแลน้าดูแลหลาน ถึงโดนว่าแต่ผมไม่น้อยใจครับ คือผมก็จะทำต่อไป”
เผยเมื่อก่อนใช้เงินฟุ้งเฟ้อเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่ทุกวันนี้ชีวิตต้องทำทุกอย่าง
“พอมีเรื่องนี้ออกไป ก็มีเพื่อนๆ โทร.มาถามหลายคน มันเป็นเทรนมาก ถ้าใครดูแล้วไม่ร้องไห้เชย เพราะขนาดอาจารย์ที่โรงเรียนยืนคุยกับผมยังร้องไห้ เพราะเลี้ยงผมมาตั้งแต่อนุบาล ยังไม่คิดว่าผมจะเป็นแบบนี้ได้ เพราะเมื่อก่อนผมก็เป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไปใช้เงินฟุ้งเฟ้อโชว์พาวว่ารวย แต่ตอนนี้ทุกอย่างในบ้านมันต้องเปลี่ยน ผมก็ต้องทำทุกอย่างแทนแม่ ถ้าผมไม่ทำมันก็ไม่มีใครทำ”
ที่มา: manager.co.th
