อินเทลเผยโครงสร้าง Core i7 ‘Haswell’ ใหม่ อวดด้านกราฟิกประสิทธิภาพดีกว่าเดิม 3 เท่า

[Nick]

ชิปอินเทลรุ่น 4 ที่รวมประสิทธิภาพที่หลากหลายบนแพลตฟอร์ม 'Haswell'


กราฟเปรียบเทียบประสิทธิภาพ


กราฟเปรียบเทียบประสิทธิภาพ


กราฟเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

  อินเทลเผยรายละเอียดโครงสร้างใหม่ของหน่วยประมวลผล Core i7 ยุคที่ 4 บนแพลตฟอร์มที่รู้จักกันดีในชื่อว่า ‘Haswell’ ซึ่งได้รวมความสามารถของชิปกราฟิกใหม่ในตระกูล ‘Iris’ เข้าไว้ในซีพียูด้วย โดยเชื่อว่าจะสามารถเร่งประสิทธิภาพของชิปด้านการแสดงผลกราฟิกให้ดีขึ้น 2-3 เท่าจากชิปรุ่นเดิม
       
       การพัฒนากราฟิกภายในซีพียูของอินเทลหลังจากที่ออก ‘Intel HD 4000’ ในรุ่น 3th มาแล้วมีการคาดการณ์ว่าจะเกิดรุ่น ‘Intel HD 5000’ เป็นรุ่นต่อไปแต่กาลกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่ออินเทลแนะนำ ‘Iris’ และ ‘Iris Pro’ ชิปกราฟฟิกตัวใหม่ที่ฝังอยู่ในซีพียู รุ่นที่ 4 บนแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า ‘Haswell’ โดยชิปกราฟิกใหม่นี้จะถูกพัฒนาให้มีความสามารถได้ถึง 3 แบบให้เลือกใช้ตามการใช้งานจริงสำหรับ Core i7 รุ่นใหม่ล่าสุดที่จะเริ่มการผลิต และคาดว่าบริษัทแอปเปิลจะเริ่มใช้ซีพียูรุ่นใหม่นี้หลังจากปรับผังการผลิตใหม่ในราวปลายปีนี้

       โดยปรกติทั่วไปการออกหน่วยประมวลผลใหม่แต่ละครั้งก็จะเป็นการเพิ่มความเร็วที่มากขึ้นให้กับซีพียูและสำหรับ Core i7 รุ่นที่ 4 นี้ก็เช่นเดียวกัน โดยอินเทลก็คาดหวังว่าด้วยความสามารถของชิปตัวใหม่นี้จะได้รับการบรรจุอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกประเภทและตอบสนองทุกความต้องการได้ โดยประสิทธิภาพชั้นแรกจะเริ่มจากชิปรุ่น U-series HD 5000 ซึ่งมีอัตราการใช้พลังงานอยู่ที่ 15W TDP (Thermal Design Power) และจะเริ่มขยับไปใช้พลังงานที่ระดับ 28W บนชิป Iris ใหม่ในรุ่น U-series silicon ในขณะที่รุ่น Iris Pro ในระดับ H-Series นั้นจะควบรวมความสามารถของ DRAM สำหรับหน่วยความจำของระบบเข้าไปด้วย โดยอินเทลอ้างว่าจะสามารถทำความเร็วได้อีกเท่าตัวสำหรับช่วงการกินไฟที่ 47-55W ซึ่งเหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กนั่นเอง และยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะหากต้องการความสามารถทางด้านการแสดงผล 3 มิติที่ดีกว่า ยังมีรุ่น R-Series ที่เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ซึ่งต้องแรกมาด้วยระดับของการกินพลังงานที่ 65-84W

       จากเอกสารของอินเทลนี้ยังบอกอีกว่า ‘Iris Pro’ จะเริ่มผลิตรุ่น M-Series สำหรับเครื่องโน้ตบุ๊กและ รุ่น K-Series สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก่อน โดย MacBook Air ขนาดหน้าจอ 11 และ13 นิ้วอาจจะเลือกใช้ชิปรุ่น U-Series แบบ dual-core ด้วยเทคโนโลยี Ivy Bridge ในตระกูล Core i5 ซึ่งมีอัตราการใช้พลังงานอยู่ที่ 17W สำหรับรุ่นมาตรฐาน และ Core i7 สำหรับเป็นทางเลือกให้ผู้ที่ต้องการความสามารถที่สูงขึ้นมา ขณะเดียวกันกับรุ่นที่มีการแสดงผลแบบ เรตินา (Retina) แอปเปิลอาจจะเลือกใช้ชิปรุ่น M-series สำหรับ MacBook Pro ในซีพียูแบบ Core i5 และ Core i7

       ฟีเจอร์ดังกล่าวของ ‘Haswell’ ยังคงรองรับ DirectX 11.1, OpenGL 4 และ OpenCL 1.2 ตามมาตรฐานปัจจุบัน แถมยังรองรับการแสดงผลแบบความละเอียดสูงระดับ 2K และ 4K โดยสามารถเลือกการแสดงผลได้แบบ 3 จออีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นความสามารถของชิปกราฟิกที่มากกว่าชิปที่อยู่ภายในซีพียูแบบเดิมๆอย่างแน่นอน ก็ไม่แน่ว่าการ์ดแสดงผลแบบแยกบางรุ่นที่ย้อมแมวออกมาขายอาจจะแพ้ประสิทธิภาพของชิปเซ็ตรุ่นนี้ก็เป็นได้ เชื่อว่าถ้า ‘Haswell’ เริ่มออกสู่ตลาดเมื่อไหร่ คอเกมทั้งหลายคงได้ประหยัดเงินค่าการ์ดจออยู่โขทีเดียว
       
       Company Related Link :
       Intel

ที่มา: manager.co.th