ยังไม่ทันเปิดตัว “พิ้งกี้” เลิกเศรษฐีหมื่นล้านแล้ว เหตุคบแล้วไม่ใช่เพราะต่างกันเกินไปจึงไม่อยากฝืน ยันไม่เจ็บเพราะยังไม่ได้เป็นแฟนกัน เผยแม่บอกให้หาคนที่เหมาะกับเรา ลั่นจบสวย ตอนนี้มีหนุ่มใหม่เข้ามาจีบบ้าง ตกเป็นข่าวใหญ่โตเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่า นางเอกตาคม “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” เตรียมเข้าพิธีวิวาห์ฟ้าแลบกับหนุ่มฮ่องวัย 30 ทายาทเจ้าของธุรกิจโรงแรมหมื่นล้าน นามว่า “เจสัน” แต่เจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธว่ายังไม่มีข่าวดี แต่ยอมรับว่ากำลังปลูกต้นรักกับเศรษฐีคนดังกล่าวจริงๆ แถมความสัมพันธ์ยังดูจะไปโลด เพราะเมื่อเดือนที่แล้วพิ้งกี้เองก็เพิ่งจะออกมาแง้มว่า ฝ่ายชายเตรียมจะบินมาหาที่เมืองไทยเร็วๆ นี้ ผ่านไปยังไม่ถึงเดือนดี ล่าสุด วานนี้ (30 เม.ย.) พิ้งกี้ก็ได้เปิดอกในงานแถลงข่าวเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ “ซัลโว” ว่าได้เลิกกับฝ่ายชายแล้วเรียบร้อยโรงเรียนรักคุด
“เราไม่ค่อยคุยกันแล้วค่ะ คือห่างกันสักพักค่ะ คือเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ถ้ามันไม่ใช่เราก็บอกอยู่แล้วว่าเพื่อนกันแต่แรก ก็เป็นเพื่อนดีกว่า เขาก็โอเค เพราะมันยังไม่ได้เจอกันแบบคู่รัก เริ่มรู้สึกก็หลายอาทิตย์อยู่ การที่เราไม่ชัวร์ในสิ่งนั้นเราก็ไม่อยากเปิดเผย และคือถ้ามันไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ค่ะ ก็ไม่พยายามที่จะฝืน และดึงเข้ามา มันเป็นธรรมดาของการเรียนรู้กันค่ะ”
“การเรียนรู้ใช่ว่าจะต้องเปิดเผย มันไม่จำเป็นที่คนเราคุยกันแล้วต้องเป็นแฟนกันแต่แรก มันมีความแตกต่างกันหลากหลายมาก เราก็แบบชิลล์ๆ มันไม่ใช่ก็ไม่ต้องฝืนอ่ะ มันไม่มีปัญหานะคะ คือ มันไม่ใช่ก็ไม่รู้จะบอกเหตุผลยังไง ทุกคนก็คงเคยเป็น กี้ว่ามันเป็นความไม่เหมือนกันหลายๆ อย่างตั้งแต่แรก เราก็บอกว่า เราก็เป็นเพื่อนอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้จะรู้สึกอะไร เฮิร์ตอะไรเพราะเรายังไม่ใช่แฟนกัน เป็นการคุยกันมากกว่า คุณแม่ก็บอกอยู่กับสิ่งที่เรามีความสุขดีกว่า มันไม่ใช่ก็ต่างคนต่างไปต่างหาคนที่เหมาะกับเรา”
“เขาเศร้าหรือเปล่าไม่ทราบค่ะ ก็ตอนนี้ก็ไม่ได้คุยเลย ไม่คุยเพราะมันก็ไกลกันเนอะ ก็ไม่รู้จะคุยอะไร ทุกวันนี้หนูก็ทำงานเล่นกีฬาค่ะ ไม่อยากใส่ใจถ้ามันไม่ใช่ แต่จบดีค่ะ เราก็เข้าใจใช้เหตุผลการคุย มันไม่ใช่นะ จริงๆ แล้วก็แล้วแต่คนคิดค่ะ หนูก็เรียนรู้ทุกอย่างตามสเต็ปทุกอย่าง หนูไม่ได้แบบรีบร้อน มันมีเรื่องรายละเอียดเล็กๆ ในชีวิต เราอยากได้อย่างนี้อย่างนั้นมันไม่เหมือนกันเลย”
เลี่ยงทันทีเมื่อเจอถามว่าตอนนี้เป็นพี่น้องหรือเปล่า?
“ไม่คุยดีกว่าค่ะ เราไม่ได้คุยก็คือไม่คุยค่ะ (เปิดใจให้คนอื่น?) ก็มีบ้างค่ะ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครค่ะ ก็ไม่ปิด ที่เลิกคุยก็ไม่ใช่เพราะมีคนอื่นค่ะ ต้องเข้าใจว่าต้องทีละคนค่ะ การคุยนี่มันอธิบายให้ใครเข้าใจไม่ได้”
เคลียร์ข่าวแตกคอ “หยาดทิพย์”
“เจอหยาดแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้ถ่ายรูปคู่กัน วันนั้นก็เจอหยาดไปงานด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้มีอะไร ที่หยาดบอกว่าไม่สนิทเหมือนเดิมกี้ไม่น้อยใจเลย ก็คุยกัน ก็เคลียร์แล้ว หยาดก็เข้ามาคุยกับกี้ว่าหยาดไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น มันเป็นการสัมภาษณ์ หยาดไม่รู้อะไร เขาไม่อยากให้เราเข้าใจผิด หยาดอธิบายว่าก็ไม่ได้สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน ความเป็นเพื่อนบางทีก็ไม่ต้องคุยกัน เพื่อนสิบยี่สิบปีก็ยังเป็นเพื่อนกัน ยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ต่างคนต่างทำงาน ต่างคนต่างไปคนละทาง ไม่มีปัญหากัน ไม่มีเกาเหลาค่ะ ตอนนี้แฮปปี้ค่ะ หยาดกับกี้ก็อย่างที่บอกในอินสตาแกรมชัดเจน”
“กี้ไม่เข้าใจผิด กี้ว่าคนที่บอกข่าวมากกว่า การส่งภาษาคำพูดก็ไม่เหมือนกันแล้ว บางทีเราก็ฟังแต่ไม่รู้มันคืออะไร บางทีเราก็งง การตอบหยาดเราก็ไม่ได้เจอกัน เป็นกี้ กี้ก็ตอบแบบนั้น ไม่ได้สนิทเหมือนเดิม หยาดไม่ได้รู้เรื่องกี้ทุกเรื่อง”
ที่มา: manager.co.th