ซัมซุงเริ่มเดินสายการผลิตแรม 4Gb LPDDR3 เป็นครั้งแรก ซัมซุง (Samsung) ในเกาหลีเริ่มเดินสายผลิตแรม 4Gb LPDDR3 เป็นครั้งแรกแล้ว คาดหวังเป็นแรมชนิดใหม่สำหรับคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือมือถือทดแทนแรมแบบเดิมในอนาคตอันใกล้ ด้วยคุณสมบัติการตอบสนองด้านมัลติมีเดียที่ฉับไว บนเทคโนโลยีการผลิตประสิทธิภาพสูงขนาด 20 นาโนเมตร ให้ความเร็วการส่งผ่านข้อมูลที่มากกว่าเดิม 3 เท่า แต่กินไฟน้อยกว่า 20% ซัมซุง อิเล็กทริก ผู้นำด้านการผลิตแรม (RAM) สัญชาติเกาหลี ประกาศเริ่มเดินสายการผลิตแรมแบบอัลตร้าไฮสปีด ขนาด 4 Gb ต่อพิน (4 Gigabit per pin) สำหรับอุปกรณ์พกพาทั้งหลาย ด้วยเทคโนโลยีการผลิตขนาด 20 นาโนเมตร เพื่อรองรับปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ในอนาคต โดยแรมดังกล่าวมีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลอยู่กว่า 2,133 Mbps ขณะที่แรมชนิดเดิม (DRAM) LPDDR2 ทำความเร็วได้แค่เพียง 800 Mbps เท่านั้น
การผลิตแรมด้วยเทคโนโลยี 20 นาโนเมตรดังกล่าว เมื่อทดลองเปิดวิดีโอความละเอียดสูง Full HD ขนาดรวมของไฟล์กว่า 17 GB บนมือถือสมาร์ทโฟนเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนที่ใช้แรม LPDDR3 เช่นกันแต่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 30 นาโนเมตร ผลที่ได้ซัมซุงอ้างว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า 30% และสิ้นเปลืองไฟฟ้าน้อยกว่า 20%
ทั้งนี้แม้ว่าขนาดของแรมจะมีแนวโน้มว่าบางลง หากแต่แบตเตอรี่กลับต้องมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น การนำแรมแบบใหม่ไปใช้จึงช่วยลดความหนาของตัวเครื่องอุปกรณ์ลงได้ ซึ่งหากจะทำแรมขนาด 2GB ด้วยชิปรุ่นใหม่นี้จะใช้ชิปเพียงแค่ 4 ตัวเรียงแบบชั้นเดียว ก็จะทำให้แรมที่ผลิตออกมามีความสูงอยู่เพียงแค่ 0.8 มิลลิเมตรเท่านั้น
LPDDR3 เริ่มออกสู่ตลาดครั้งแรกในราวเดือนพฤษภาคมปี 2555 โดยออกแบบให้เป็นแรมประสิทธิภาพสูงและรองรับข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม นับเป็นยุคใหม่ของแรมสำหรับอุปกรณ์พกพาในปัจจุบัน เช่นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อัลตร้าบุ๊ก หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ต้องการความเร็วและประสิทธิภาพสูงบนเครือข่าย 4G ในปัจจุบัน ซึ่ง LPDDR3 สามารถส่งผ่านข้อมูลในปริมาณมากๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเสถียรของคลื่นสัญญาณและอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าต่ำ แถมท้ายด้วยความสามารถของความจุข้อมูลที่มากกว่าแรมแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง หากแต่การผลิตในปัจจุบันเป็นรูปแบบการผลิตด้วยเทคโนโลยี 30 นาโนเมตรเท่านั้น ซึ่งครั้งนี้นับเป็นก้าวใหม่ของการผลิตที่ซัมซุงสามารถพัฒนาจนเริ่มการผลิตขนาด 20 นาโนเมตรได้เป็นครั้งแรก
ซัมซุงวางแผนที่จะผลักดันเทคโนโลยีการผลิตแรมแบบ 20 นาโนเมตรนี้อย่างจริงจังในราวปลายปี 2556 และหวังว่าจะยืนหยัดเป็นผู้นำด้านการผลิตแรมต่อไปด้วยความสามารถของแรมรุ่นใหม่นี้ ทั้งนี้บริษัทวิจัย การ์ดเนอร์ คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดแรมจะเติบโตต่อเนื่องกว่า 13 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละปี และเชื่อว่าในปี 2013 จะมีมูลค่าตลาดกว่า 29,600 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่าตลาด DRAM สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่นั้นจะมีไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านเหรียญ คิดเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาดรวม
Company Related Link :
SAMSUNG
ที่มา: manager.co.th