“อเล็กซ์” เลิกผลัดเกณฑ์ทหารโดดเข้าจับได้ใบดำ บอกรู้สึกโล่งเพราะจะได้จบเรื่องนี้และไม่กระทบเรื่องงาน แต่ถ้าได้ใบแดงก็ยินดีเป็นทหาร เผยพา “เต้ย จรินทร์พร” ไปเที่ยวญี่ปุ่นผู้ใหญ่ไม่ว่า อยากผันตัวทำงานเบื้องหลัง เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ผ่อนผันการเกณฑ์ทหารมาหลายปีสำหรับหนุ่ม “อเล็กซ์ เรนเดล” ที่ล่าสุดเจ้าตัวเลือกจับใบดำใบแดง และได้ใบดำมาเลยไม่ต้องเข้าไปเป็นทหาร ซึ่งอเล็กซ์เผยว่ารู้สึกโล่ง
“ก็ได้ไปทำหน้าที่แล้วตรงตามที่มีข่าวออกไป คือไปจับได้ใบดำครับ มันก็โล่งแหละครับ แต่ถ้าตามความเป็นจริงแล้วโอกาสที่จะได้มันน้อยครับ ก็เลยคิดว่าถ้าเกิดได้มาจริงๆ ก็คงต้องเป็นทหารแล้วแหละ ก็โล่งที่เรื่องนี้ได้จบลงไปแล้วทำให้สามารถที่จะเริ่มอะไรใหม่ๆ ได้ครับ”
“ถามว่าไปบนหรือเปล่าไม่ได้ไปบนเลยครับ เห็นคนอื่นเขาบนกันเยอะก็เลยคิดว่าถ้าเกิดเราไปพึ่งแล้วเราได้ขึ้นมาเราจะรู้สึกยังไง ถามว่าอยากเป็นไหมถ้าเป็นจริงๆ มันก็ต้องเป็นแหละครับ แต่มันก็จะมีปัญหาเรื่องงาน เพราะว่าตอนนี้งานก็มีอยู่สามเรื่อง ถ้าเกิดเราเป็นขึ้นมามันก็จะกระทบกับสามเรื่องนี้แน่นอน”
“ก็ได้กำลังใจดีครับ เต้ย (จรินทร์พร จุนเกียรติ) จริงๆ แล้วตอนที่ไปปรึกษาทุกๆ คนบอกให้ผลัดไปอีกปีหนึ่ง แต่ตัวเราอยากให้มันจบไปเลยให้รู้เรื่องไปเลยทีเดียวจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดล่วงหน้าว่าจะติดอะไรหรือเปล่า เต้ยเขาก็ลุ้นเหมือนกันเพราะเขารู้ว่าเราไม่อยากให้กระทบกับงาน”
เผยไปทำงานที่ญี่ปุ่น พร้อมไปเที่ยวกับหวานใจ “เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ”
“ผมไปญี่ปุ่นก็ไปทำงานครับ ก็ไปทำงานก่อน 7 วันหลังจากนั้นก็ไปเที่ยวอีก 3-4 วันครับเต้ยไปด้วย ไปเที่ยวมันก็ต้องมีลงรูปกันบ้างแหละครับอะไรที่เราสบายใจเราก็ทำ มันก็เหมือนคู่อื่นทั่วๆ ไปแหละว่าเขาก็อยากที่จะลงบ้าง อย่างน้อยๆ เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดต่อหน้าสื่อมวลชน อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ค่อยได้พูดถึงเท่าไร”
“ซึ่งจริงๆ แล้วผู้ใหญ่ก็ยังไม่ได้มีคนไหนเตือนหรือพูดไม่ดี ตอนนี้ก็มีแต่คนมองในแง่ดีเราเองก็เคยพูดกันถึงเรื่องนี้ก็คิดว่าเราโชคดีที่คนเขามองในแง่ดี ผมก็ไม่ได้อยากเอาเรื่องนี้มาใช้ในการทำมาหากินอยู่แล้วครับ มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่คนlv’คนมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และจริงๆ ที่เราไปด้วยกันเพราะว่าเราว่างตรงกันครับ คือที่ไปเที่ยวนี้เพราะผมต้องไปทำงานที่นั่น พอถ่ายเสร็จแล้วมีเวลาว่างก็เลยเที่ยว”
เผยยังคิดทำเบื้องหลังอยู่
“ยังคิดอยู่ครับ เมื่อเช้าก็เพิ่งจะได้คุยกับผู้ใหญ่ไปครับ ตอนนี้ก็เริ่มเขียนบทบ้างแล้วกำลังหาสปอนเซอร์ครับ ก็จะเป็นหนังแนวเฉพาะกลุ่มแต่ก็ไม่เชิงอินดี้นะครับ(หัวเราะ) อนาคตผมก็อยากเป็นเหมือนพี่อ๊อฟที่เล่นละครด้วยกำกับด้วย ตอนนี้ก็พยายามเรียนรู้จะดีหรือไม่ดีผมไม่ค่อยได้สนใจเท่าไรขอแค่ผมได้เรียนรู้ครับ แต่มันก็ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นว่าจะทำหรือไม่ทำ ยังไงผมก็ต้องเอาการแสดงไว้ก่อน ถ้าเกิดมีคิวละครเราก็ต้องแสดงไว้ก่อน มันก็เลยเป็นปัญหาในการทำเบื้องหลัง”
“เรื่องงบคงไม่เยอะหรอกครับ ต้องบอกก่อนว่าถ้าเราทำเราไม่ได้อะไรจากมันแน่ๆ ในเรื่องของรายได้ มันคือการเรียนรู้ครับ เราอยากจะรู้ว่าเราสามารถดึงศักยภาพออกมาได้ไหม เพราะบางทางเราถูกแคสติ้งเราก็อยากจะรู้ว่าถ้าหากเราทำอีกแบบหนึ่งมันจะดีกว่าไหม หรือถ้ากำกับเราจะทำแบบนี้ได้ไหม เพราะตอนเราแคสติ้งเราไม่สามารถทำได้เดี๋ยวมันจะกลายเป็นลองของกับผู้กำกับแทนครับ ของพวกนี้มันอยู่ที่รสนิยมในตัวเรา ผมก็อยากรู้ว่าตัวผมเองมันโอเคไหม (แต่จะได้เห็นแน่ใช่ไหม?) ไม่แน่นอนครับ รอดูผู้ใหญ่อีกที”
ที่มา: manager.co.th
