“ณเดชน์” โผล่เปิดตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ “ยูนิลีเวอร์” เหมือนเดิม บอกแค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้โดนแบน ยัน “บอย ปกรณ์” ไม่ได้มาแทนตน แต่เป็นคนละแคมเปญกัน ออกตัวไม่แน่ใจยูนิลีเวอร์แหกตาสร้างข่าวปลดเรียกกระแสหรือไม่? ส่วนข่าวลือหลุดพรีเซ็นเตอร์ที่คู่กับ “ญาญ่า” นั้น เจ้าตัวบอกให้ติดตามตอนต่อไป ย้ำยังอยู่กับ “เอ ศุภชัย” ทำเอามึนตึ้บ! หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า “ยูลินีเวอร์” ประกาศแบนพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” หลังไม่พอใจแม่ของพระเอกดังที่ทำตัวเรื่องมาก เมื่อครั้งบินไปถ่ายแบบที่ญี่ปุ่น จนทำให้มีปัญหากันตามที่มีข่าวออกไปแล้วนั้น แม้ว่าทุกฝ่ายจะออกมาปฏิเสธไปแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางยูนิลีเวอร์เองก็ได้เปิดตัว “บอย ปกรณ์” ในฐานะเป็นพรีเซ็นเตอร์ “เคลียร์ ไอซ์คูล เมนทอล” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกันกับที่ณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ ทางฟากของณเดชน์เองก็ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ตนเองนั้นโดนปลดจริงเพียงแต่ไม่ทราบว่ามีตัวไหนบ้าง
ล่าสุดวันนี้ (23 เม.ย.) ก็เล่นเอางงไปตามๆ กัน เมื่อมีการจัดงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ของ “เคลียร์ เมน แอนตี้ แฮร์ฟอล” ณ ลาน Infinicity Hall สยามพารากอน โดยมี ณเดชน์ นั่งแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์เหมือนเดิม งานนี้เลยมิวายถูกวิจารณ์ว่าข่าวการแบนพระเอกหนุ่มก่อนหน้านี้ เป็นเพียงการปั่นกระแสของทางยูนิลีเวอร์หรือไม่? ซึ่งณเดชน์ได้เผยว่า…
“ก็ยังร่วมงานกันอยู่ เป็นทางผู้ใหญ่คุยกันครับผม ผมไม่พูดถึงดีกว่า วันนี้ก็ชัดเจนล่ะ ยืนยันครับว่าไม่หลุดจากยูนิลีเวอร์ ก็วันนี้ก็ได้เห็นกันแล้ว ตอนนี้ก็สบายใจขึ้นครับ วันนี้ก็มีแฟนๆ มาให้กำลังใจเหมือนกัน ส่วนตัวใหม่ (พรีเซ็นเตอร์) อันนี้ก็ต้องผู้ใหญ่คุยกัน แต่ก็อยู่ในส่วนเคลียร์เมนเหมือนเดิม”
ส่วนที่คนมองว่าที่ปลด “ณเดชน์” เป็นการสร้างกระแสการตลาดของ “ยูนิลีเวอร์” นั้น พระเอกหนุ่มบอกสั้นๆ ว่า…
“ไม่แน่ใจครับ”
แล้วมี “บอย ปกรณ์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในส่วนของแชมพู?
“ของพี่บอยเป็นคนละแคมเปญกันครับ ไม่ได้แทนกันครับ ผมกับพี่บอยก็มีคุยกันโดยส่วนตัวแล้วตัวของนักแสดงไม่มีอะไรกัน สบายใจครับ”
พร้อมยันกับ “เอ ศุภชัย” ยังเหมือนเดิม แม้ “หมาก” จะชิงออกไปก่อนแล้ว
“กับพี่เอก็ยังปกติเหมือนเดิมครับ แต่สัญญากับพี่เอไหมก็ไม่มีเป็นลายลักษณ์อักษร เราทำงานด้วยความสบายใจมากกว่า ไม่เข้าใจอะไรก็ถามเป็นสัญญาใจครับผม กับพี่หมากส่วนมากผมก็ไม่ค่อยคุยกันนะ ไม่ค่อยคุยเรื่องงานกันเท่าไหร่ ผมรู้จักพี่หมาก มา 4 ปีได้ เป็นพี่น้องมากกว่า เราจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาคุยกัน (ตกใจไหมที่หมากออก)? อันนี้ขอไม่แสดงความคิดเห็น ผมอยู่กับพี่เอก็สบายใจดี แต่สัญญาแบบลายลักษณ์อักษร คงไม่มี อย่างที่บอก ทำงานอย่างนี้สบายใจกว่า ไม่มีอะไรยึดติด แล้วพี่เอก็พอใจในสัญญาใจเหมือนกัน”
กับกรณีที่หลายคนมองว่าทุกคนใช้ “เอ ศุภชัย” เป็นบันไดดัง แล้วก็ชิ่ง “ณเดชน์” วอนอย่ามองแบบนั้น
“ผมว่าอย่ามองแบบนั้นดีกว่า แล้วแต่คน ผมมีสัญญากับช่องอยู่ แล้วเราไม่มองว่าเป็นบันได เขาอาจเป็นบันไดส่ง แต่เขาก็อยู่เคียงข้างเราตลอดเวลาไม่ว่าเป็นเด็กคนไหนเขารักหมด ก็ยืนยันว่าอยู่กับพี่เอครับ”
นอกจากนี้แล้วยังมีข่าวว่าพรีเซ็นเตอร์ที่ “ณเดชน์” มีคู่ “ญาญ่า” จะหลุดด้วย
“พรีเซ็นเตอร์กับญาญ่า ก็มียำยำ ทรู เลย์ ครับ (เลย์จะจับแม่ณเดชน์กับญาญ่าเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่กัน?) อันนี้ไม่ทราบต้องลองติดตามดูละกัน ถ้าใช่ผมว่าก็เป็นเรื่องแปลกสำหรับวงการ (หัวเราะ) น่าจะเป็นอะไรที่น่ารักดี”
สัญญาทางช่อง 3 ก็ใกล้จะหมด?
“อันนี้ก็ต้องเป็นผู้ใหญ่คุยกันอีกทีหนึ่ง”
ปัดไม่รู้ “เอ ศุภชัย” ขายโฆษณา “ณเดชน์” กับ “ริชชี่” นางเอกคู่กรรมด้วย
“ไม่น่าจะมีครับ ไม่แน่ใจ อันนี้พี่เอคงคุยกับลูกค้า ผมไม่รู้เรื่องจนกว่าจะได้โฆษณามา
พร้อมออกตัวไม่รู้ข่าว “ริชชี่” ไปก่อกวนในแฟนเพจ ส่วนข่าวควงกันไปเชียงใหม่ เจ้าตัวปฏิเสธ แต่ยอมรับไปเที่ยวพัทยาด้วยกัน
“อันนี้ไม่แน่ใจครับเรื่องเฟซบุ๊กไม่รู้ เรื่องควงน้องไปเชียงใหม่ผมไม่แน่ใจข่าวมาได้ไง ไม่ได้ไปครับ สงกรานต์ผมไปพัทยาไปวันเดียวเองครับ ไปกับน้อง เอาจริงๆ ไม่ได้ไปกับน้องสองคน ไปกันหลายคน แม่ก็ไปด้วยครับ ไม่ได้ไปล่องเรือที่สัตหีบครับ จริงๆ ข่าวบิดเบือนเยอะเหมือนกันครับ ไปที่พัทยาครับ จริงๆ สงกรานต์ที่พัทยารถไม่ติดมาก เขารอเล่นวันไหล ก็ไปกับเพื่อนๆ สนุกดี แชร์กันออกก็เล่นน้ำทะเล ไม่ได้ไปเล่นสงกรานต์ครับ ยืนยันไม่ได้ไปเชียงใหม่แน่นอน”
ปฏิเสธที่ไปสงกรานต์ที่พัทยาเพราะบ้าน “ญาญ่า” อยู่ที่นั่น
“เปล่าครับ ไม่ได้ไปบ้านญาญ่าครับ ไม่เคยไป แต่ได้เจอกันครับ ก็เจอกันตอนไปล่องเรือครับ ไปกันหลายคนไปสองคนน่าจะแพงครับค่าเช่า (หัวเราะ) ที่ไปด้วยกันทั้ง 2 ครอบครัว เพราะแม่ก็กลัวไป 2 คนเดี๋ยวเป็นข่าวอีก แม่เลยไปด้วย ถึงแม้จะมีหลายคนจะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย”
สำหรับกระแสหนังคู่กรรมที่ค่อนข้างเงียบ “ณเดชน์” บอกว่า…
“ไม่รู้สิครับ ผมว่าข่าวอาจจะเงียบ แต่ก็มีคนโทร.มาบอก ไปดูมาแล้ว เล่นดี ส่วนเรื่องยอดยังไม่ได้โทร.ถามเลย แต่ก็มีคนไปดูเรื่อยๆ นะครับ เรื่องที่หลายคนเอารายได้ไปเปรียบพี่มากฯ (หัวเราะ) พูดยากนะพี่ หนังคนละแนว คนไทยชอบอะไรที่ไม่เครียดอยู่แล้ว มีสนุกเฮฮา แต่สาระหนังมันมีคนละแบบอยู่แล้ว ผมไม่ได้รู้สึกหวั่นใจครับ ผมว่าผมทำดีที่สุด ทุกคนทำดีที่สุดสำหรับคู่กรรมแค่มีคนตอบรับมา เราว่าเราดีใจแล้วครับ ผมว่าผมเล่นหนังเรื่องแรก มีเสียงชมจากคนอื่น ผมว่าผมดีใจแล้วครับ”
บอกให้กำลังใจ “ริชชี่” หลังโดนถล่มเยอะ
“ก็ให้กำลังใจครับ น้องไม่ค่อยคุยอยู่แล้ว เราเอ่ยปากไปเองมากกว่า (ถ้าไม่ใช่น้องแสดงล่ะ?) ผมว่า น้องเขาก็เล่นโอเคนะ แต่ไม่เข้าใจโดนว่า อย่างตอนที่เรารับส่งกัน ตอนนั้นผมว่าก็โอเค คนก็พูดบอกไปดูคู่กรรมมาแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจทำไมต้องว่าน้องริชชี่ เขาก็แสดงดีนี่ครับ คือมันแล้วแต่มุมมองครับการยึดติดมากกว่า ตอนนี้น้องก็เริ่มมีงานมีอะไรแล้ว เราก็ดีใจเป็นเหมือนบันไดไต่ไปเรื่อยๆ ครับ มีหนามบ้างเป็นธรรมดา ยังไงผมว่าไม่มีข่าวก็ไม่ดัง(หัวเราะ) ตอนนี้คนรู้จักเขาเยอะขึ้นนะ ที่ดูแลน้องดีเพราะผมเอ็นดูมากกว่า เพราะน้องเด็กมากๆ ใหม่มากๆ เราก็ให้คำแนะนำ สอนการอยู่ในวงการ”
เห็นทาง M39 ค่ายหนังที่สร้างคู่กรรม เขาบอกจะเอาคนอื่นแต่ “เอ ศุภชัย” ขายแพ็กคู่เอง
“คงไม่หรอกครับ ไม่รู้เหมือนกัน ผมว่าอยู่ที่ผู้กำกับด้วยว่าต้องการนักแสดงคนไหน”
ที่มา: manager.co.th
