“โก๊ะตี๋” ไม่แคร์คนรุมด่าขายข้าวมันไก่แพง ชุดละ 91 บาท แจงถ้าร้านในห้างค่าเช่าแพงก็เลยต้องเพิ่มราคา แต่ถ้ากินตามร้านข้างนอกก็ยังราคาเดิม เผยตอนนี้ปิดไปหลายสาขา เพราะพนักงานไม่ดี ลูกค้าไม่มีที่จอดรถ เตรียมไปเปิดสาขาที่ออสเตรเลีย กำลังเป็นกระแสวิจารณ์ในโลกไซเบอร์กับราคาข้าวมันไก่โก๊ะตี๋ ของพิธีกรตลก “โก๊ะตี๋ อารามบอย” ว่าขายแพง ราคาถึงชุดละ 91 บาท งานหนุ่มพิธีกรตลกก็ชี้แจงถึงสาเหตุที่ราคาข้าวมันไก่แพงนั้นเป็นเพราะขายในห้าง ซึ่งต้องบวกค่าเช่าที่และหลายๆ อย่างรวมไปด้วย
“เรื่องนี้ไม่ได้แคร์อยู่แล้ว พวกนี้นักเลงคีย์บอร์ด อย่าว่าแต่ร้านเราเลย บ้านเมืองยังมี 2 ฝ่าย ก็ต้องมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ แต่เราเลือกที่จะไม่แคร์ เพราะเราต้องการพัฒนาธุรกิจของเราให้ต่อเนื่อง ที่มาต่อว่าก็จะมาด่าว่าแพงบ้าง เรื่องไม่อร่อยนี่คนด่าน้อย เพราะเรามั่นใจว่าข้าวมันไก่เราอร่อย แต่ก็อย่างว่าแหละ คนก็จะมีพวกช่างติ ช่างด่า มันก็ต้องหาเรื่องตามมาด่าเราจนได้แหละ ส่วนเรื่องแพง คือถ้าคุณไปกินในห้างมันก็จะแพงตามที่ข่าวออก คุณลองคิดสิว่าคุณกินก๋วยเตี๋ยวในห้างชามละไหร่ล่ะ ตามฟู้ดอ่ะ”
“แล้วถ้าเป็นร้านที่มียี่ห้อ 40-50 บาท มีเหรอ ถามหน่อย มันก็ราคา 80-90 ราคานี้ทั้งนั้นแหละ คนที่บอกว่ามันแพงไปคุณต้องคำนึงนะค่าเช่าที่ในห้างมันเท่าไหร่ เดือนละ 1.4-1.6 แสนนะครับ ถ้าผมมาขายชามละ 30 บาท ผมจะเอาอะไรไปจ่ายเขาล่ะ ก็ต้องเข้าใจจุดนี้ด้วย ว่าหนึ่งมันอยู่ในห้าง มันติดแอร์ สองแพกเกจจิ้งที่เราทำมันก็อย่างว่า…ถ้ามันอยู่ในห้างร้านเราก็จะต้องปรับให้มีระดับที่หรูขึ้นไป แต่ถ้าคุณไปกินข้างนอกที่ไม่ใช่ห้าง ที่เป็นร้านของเราอย่างที่เมืองทอง มันก็ยังราคาเดิม 40 บาท พิเศษก็ 50 บาท ข้าวมันไก่เยอะก็ 70 บาท ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เปรียบเทียบก็เหมือนกับร้านเอ็มเค กับเอ็มเคโกลด์ คุณเลือกทานเอ็มเคโกลด์คุณก็จะต้องบ่นว่ามันแพง ซึ่งคุณต้องดูแล้วว่าสถานที่มันคือตรงไหน”
เผยตอนนี้ปิดไปหลายสาขาแต่ไม่เกี่ยวเรื่องของราคาอาหารที่แพง โวเตรียมต่อยอดข้าวมันไก่ไปเปิดสาขาที่ออสเตรเลีย
“ตอนนี้มีกี่สาขาจำไม่ได้เหมือนกันครับ เราเองไม่ได้ขายแฟรนไชส์ให้ใครนะ เราทำเองทุกสาขา แต่ในส่วนที่หนูหุ้นกับบริษัท พระนครฟิล์ม มันก็จะอยู่ในห้าง ซึ่งเอาจริงๆ มันก็มีไม่กี่สาขา เพราะเราเองก็เปิดบริษัทเพื่อธุรกิจนี้โดยเฉพาะ และพยายามควบคุมให้มันดี จริงๆ ที่ผ่านมาเราก็ปิดไปหลายสาขาเหมือนกันนะ เพราะมีปัญหาในเรื่องของคนที่มาดูแลแทนเรา มันใช้ไม่ได้ไง ในแง่ของผู้จัดการที่มาดูแลสาขา มันจะมีเสียงวิจารณ์ อาทิ ข้าวมันไก่อร่อย แต่ผู้จัดการบริการหมาไม่แดก จอดรถลำบากบ้าง ลูกค้าจอดรถมาซื้อแล้วโดนเขียนใบสั่ง เราก็โอเครับฟัง ตักเตือน ก็ดูแลไป แต่พอมันควบคุมลำบากเราก็เลือกที่จะตัดดีกว่า เอาที่เราควบคุมได้ทั่วถึง”
“ซึ่งร้านข้าวมันไก่นี่ถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการเลี้ยงครอบครัวหนูเลย ที่หนูทำ หนูไม่ได้ต้องการทำเพื่อเอากำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง เราทำเพื่อดูแลครอบครัว ให้พี่น้องหนูสามารถดูแลกันเองได้ เป็นห่วงโซ่โยงใย ภาระทั้งหมดที่หนูเลยแบกรับครอบครัวมา หนูโยนให้มันไปอยู่ในข้าวมันไก่ แต่ส่วนตัวหนูแล้วรายได้หลักไม่ได้มาจากข้าวมันไก่เลย รายได้หลักของหนูยังมาจากการเป็นพิธีกร ถ่ายหนัง ถ่ายละคร แต่เราเองก็ยังต้องควบคุมดูแลเองทั้งหมดเนื่องจากมันเป็นชื่อของเรา”
“ซึ่งมันก็ถือว่าประสบความสำเร็จนะ ตอนนี้วางไว้ว่าจะไปต่างประเทศ เพราะหลานใกล้จะเรียนจบแล้ว ตั้งใจไว้ว่าจะให้หลานไปเปิดร้านข้าวมันไก่ที่ออสเตรเลีย ย่านไทยทาวน์ หนูเองพยายามเคี่ยวเข็ญมันอย่างเต็มที่ จริงๆ สาขาไหนที่ไม่ดีก็ตัดทิ้งไป ตอนนี้อุปกรณ์กองอยู่เต็มบ้านเลย แต่หนูก็ไม่แคร์นะ เพราะรู้สึกว่าชื่อเสียงของหนูสำคัญกว่าเงิน เราอยู่ในวงการนี้มานานแล้ว เราก็ตั้งใจจะอยู่ไปอีกนาน หนูไม่เอาชื่อเสียงของหนูตรงนี้มาแลกกับเรื่องแบบนี้หรอก”
ที่มา: manager.co.th
