Author Topic: EA ครองแชมป์บริษัทยอดแย่ในอเมริกา 2 สมัยซ้อน  (Read 719 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


     ผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่ในอเมริกา ถูกกลุ่มผู้บริโภคโหวตให้ติดอันดับหนึ่งบริษัทที่แย่ที่สุดติดต่อกันเป็นปีที่สอง ด้วยผลโหวตท่วมท้นเกือบ 78 เปอร์เซนต์แซงหน้าแบงค์สหรัฐฯไปอย่างขาดลอย
       
       ยังคงรักษาความแย่ได้อย่างต่อเนื่องกับบริษัทอิเล็กทรอนิก อาร์ตส์ หรืออีเอ ที่ไม่เคยปรับปรุงตัวแม้จะโดนเสียงต่อว่าจากทั้งแฟนเกมและสื่อมวลชน นับตั้งแต่เมื่อปีก่อนที่ถูกโหวตให้ติดอันดับหนึ่งในการจัดอันดับ "บริษัทยอดแย่ในอเมริกา" (Worst Company in America) จนกระทั่งมาถึงปีล่าสุด ทางอีเอก็นอนมาเป็นที่หนึ่งเช่นเคย พร้อมรับรางวัลอันน่าอัปยศอย่าง 'อุนจิทองคำ' (Golden Poo) ไปนอนกอดอีกหนึ่งสมัย
       
       สำหรับปีนี้ อีเอ สามารถทะลุผ่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศด้วยการเอาชนะทั้ง AB InBev, Facebook, AT&T และ Ticketmaster ส่วนบริษัทที่ได้อันดับสองอย่าง Bank of America ก็สามารถผ่านได้ทั้ง Capital One, Chase, Wal-Mart และ Comcast จนมาได้ถึงรอบตัดสินดวลกับอีเอ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ไปแบบไม่ต้องลุ้นเมื่อ 77.5 เปอร์เซนต์ของกลุ่มผู้บริโภคทั้งหมดโหวตให้อีเอ คว้าอันดับหนึ่งบริษัทยอดแย่ในอเมริกาไปครอง
       
       โดยกลุ่มผู้บริโภคให้ความเห็นไปในแนวเดียวกันว่า ทางอีเอ ได้ล้มเหลวและขาดองค์ประกอบหลักที่สำคัญ 3 ประการในการบริหารบริษัทให้เป็นมิตรกับลูกค้า อันประกอบไปด้วย การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าชอบและต้องการ, ขายผลิตภัณฑ์ในราคาที่สมเหตุสมผล และการสนับสนุนส่งเสริมผลิตภัณฑ์หลังการขาย
       
       และอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้อีเอ สามารถครองแชมป์ได้อีกสมัย น่าจะมาจากบรรดาเกมภาคต่อซีรีส์ดังที่ทำออกมาได้อย่างน่าผิดหวังไล่ตั้งแต่ "Medal of Honor: Warfighter" ที่ขายไม่ดีจนถึงขนาดต้องประกาศขอหยุดพักแฟรนไชส์, "SimCity" ภาคใหม่ที่เซิร์ฟล่มตั้งแต่วันแรกจนต้องแจกเกมฟรี, ไม่เว้นแม้แต่เกมบนมือถืออย่าง "Real Racing 3" ที่หันมาเปิดให้เล่นฟรีแต่กลับดูดตังค์ผู้เล่นมากกว่าเก่า และล่าสุดกับ "Army of Two: The Devil's Cartel" ที่ได้คะแนนต่ำเตี้ยแทบติดดิน
       
       ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าทางค่ายอีเอ มีนโยบายที่คิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของธุรกิจ เน้นทำเกมตลาดขอแค่ขายได้อย่างเดียวโดยไม่สนความต้องการของผู้เล่น และถึงแม้ตัวเกมจะเล่นไม่สนุกแต่เมื่อปล่อยออกมาก็ต้องมีคนซื้อ ถ้าเปรียบเทียบในวงการหนัง ก็คงเหมือนกับภาพยนตร์เรื่อง "เรสซิเดนท์ อีวิล" ที่กอบโกยรายได้จนมีภาคต่อออกมาไม่หยุดหย่อน แต่ถ้าพูดถึงด้านคุณภาพแล้วกลับสวนทางกันยิ่งทำยิ่งแย่ลงทุกภาค

       จนล่าสุด "ปีเตอร์ มัวร์" ซีโอโอคนปัจจุบันของบริษัทอีเอ ต้องออกมากล่าวยอมรับพร้อมกับชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า "ที่ผ่านมาเราได้ทำสิ่งผิดพลาดลงไปหลายอย่าง ทั้งการปิดเซิฟเวอร์เกมก่อนกำหนด ทำเกมออกมาไม่ได้ตามที่ผู้เล่นคาดหวัง พลาดในการเลือกใช้โมเดลธุรกิจแบบใหม่ และล่าสุดกับการเปิดวางจำหน่ายเกมซิมซิตี้ เราเป็นหนี้คอเกมที่พวกเขาควรได้รับการบริการที่ดีกว่านี้ ซึ่งคนที่ออกมาบ่นล้วนเป็นลูกค้าที่ซื้อแผ่นลิขสิทธิ์ และเราก็เหมือนบริษัทใหญ่ๆทั่วไปที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ"
       
          "ตอนนี้มีคนกว่า 10 ล้านคนที่กำลังเล่นและหลงรักในเกมของเรา หากนั่นทำให้เรากลายเป็นบริษัทยอดแย่ในอเมริกาก็เชิญเลยไม่ว่ากัน เพราะเราจะไม่ยอมแพ้เพียงเพราะเรื่องแค่นี้ ในขณะเดียวกันเราก็จะพยายามปรับปรุงแก้ไขในสิ่งข้อผิดพลาด เราสามารถทำได้ดีกว่านี้ และเราจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม (หวังว่าคงไม่ใช่บริษัทยอดแย่สามปีติด)" มัวร์ กล่าว
       
       ข้อมูลและภาพประกอบจาก   
       gamespot

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)