“เสี่ยเจียง” โว “ต้มยำกุ้ง 2” ขายได้แล้วกว่าครึ่งโลก เผยเรื่องใหม่ “ไอ้หนุ่มกังนัม” เปลี่ยนตัวจาก “ฌอง คอส แวนแดม” เป็น “ร็อบ แวน แดม” หวังพึ่งชื่อเสียงของอีกฝ่ายดัน “จา พนม” ไปสู่ระดับโลก ฝันถ้าเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอาจดึง “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์” ร่วมงาน ส่วน “เหนือเมฆ 3” ที่ “อุ๋ย นนทรีย์” เสนอโปรเจกต์มา ยังไม่อนุมัติ เหตุเพราะตนไม่อยากทำหนังที่ไปว่ากระทบใคร จัดงานฉลองความสำเร็จไปเมื่อวันก่อน สำหรับบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อขอบคุณนักแสดงและผู้กำกับที่ได้รับรางวัลจากทุกสถาบันในปีที่ผ่านมา โดยผู้บริหารสูดสุด “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” ได้เปิดเผยรายชื่อภาพยนตร์ในที่จะเข้าฉายในปี 2556 นี้หลายเรื่อง และที่สำคัญกับเรื่องต้มยำกุ้ง 2 ที่ตอนนี้นำไปขายต่างประเทศได้แล้วกว่าครึ่งโลก
“ก็ดีใจที่ปีที่ผ่านมาหนังเราได้รางวัลเยอะมาก เป็นบริษัทใหญ่ที่ผลิตงานให้คนเชื่อถือ ปีนี้ก็มีหนังดีๆ อีกมากมาย อย่าง ต้มยำกุ้ง นเรศวร นางฟ้า เลวทะลุเลว ฤดูที่ฉันเหงา แต่ละเรื่องก็ทุนสร้างมหาศาล แล้วก็จะมีเรื่องไอ้หนุ่มกังนัมที่จะถ่ายในวันที่ 7 นี้ ต้มยำกุ้ง 2 นี่ถ่ายเสร็จไปเรียบร้อย หนังขายไปมากกว่าครึ่งโลกแล้ว เขาสนใจตั้งแต่จา (พนม ยีรัมย์)ภาคแรกแล้ว เอาไปฉายแล้วเขาได้เงินกัน พอมีภาคนี้เขาก็เลยสนใจกันเยอะ ก็เร่งตัดกันเพื่อเอาไปฉายโชว์ในเทศกาลเมืองคานส์เผื่อเขาจะมาซื้อกันเยอะกว่านี้ หนังเราสู้ระดับโลกได้แน่นอน เรื่องนี้เป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ผมกล้าบอกเลยว่าเราใช้กล้อง 3 มิติอย่างแท้จริง ผมได้ดูตัวอย่างแล้ว เยี่ยมเลย
“นเรศวรมันมีปัญหาเรื่องของซีจีมันเลยช้า ในฉากชนช้างท่านมุ้ย (ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล) เขาไม่ยอมปล่อย ท่านอยากจะแก้ไขด้วยตัวท่านเอง มันก็เลยมาช้าตรงนี้ ปีนี้ได้ดูแน่นอน ก็คงได้ดูไล่ๆ กับต้มยำกุ้ง ต้มยำกุ้งตอนนี้รอเมืองจีนก่อน เราต้องฉายพร้อมเมืองจีน เราฉายหลังเขาไม่ได้ ถ้าเราฉายหลังเขาเมืองจีนฉายก่อนแผ่นผีจะมาทันที เราฉายก่อนเมืองจีนฉายทีหลังแผ่นผีก็ไป จีนนี่เราก็หวังไว้เยอะนะ คิดว่าคงขายได้เป็นพันโรง เราหวังว่าจะเอาหนังไปฉายแบ่งกับเขา ไม่ได้เอาไปขายขาด ส่วนยุโรป อเมริกานี่ซื้อไปแล้วเรียบร้อย”
เผยหนังฟอร์มยักษ์เรื่อง “ไอ้หนุ่มกังนัม” เปลี่ยนตัวจากนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง “ฌอง คอส แวนแดม” เป็น “ร็อบ แวนแดม” ด้วยอีกฝ่ายมีปัญหาที่ขาทำให้ไม่สามารถเตะได้
“ตอนนี้เปลี่ยนตัวจาก ฌอง คอส แวนแดม เป็น ร็อบ แวน แดม ด้วยปัญหาของ ฌอง คอส แวนแดม คือเขามีปัญหาที่ขา เขาเตะไม่ออก ก็เลยต้องเปลี่ยนตัว ตัวนี้ถูกกว่าด้วยตอนนี้จามันก็ฝึกท่ากังนัมอยู่ เพื่อให้ท่ามันไปสู้กับเขาได้ ฝรั่งตัวมันใหญ่ก็ถูกจาเตะ คงจะเป็นครั้งแรกที่จามันได้เล่นหนังกับดาราอเมริกาที่มีชื่อเสียง เราก็ค่อยๆ ทำไอ้จาให้มันขึ้นมา ต่อไปอาจจะให้มันไปเล่นกับคนอื่นอีกที่ดังกว่า เอาฝรั่งมาก็ทำให้หนังไทยสามารถก้าวไปสู่ความน่าเชื่อถือได้ แต่เราจะไปเอา อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ หรือ ซิลเวสเตอร์ สตอลโล เราก็เหนื่อย เอาแค่นี้ก่อน แค่ค่าตัวตอนนี้เราก็ล้มทั้งยืนแล้ว เราเอาเท่าที่เราทำได้ แล้วก็ไต่เต้าไป ถ้าหนังเรื่องนี้ทำแล้วได้ผลเรื่องหน้าอาจจะเป็นอาร์โนลด์ก็ได้ ก็หวังให้จามันไปสู่ตลาดโลกกับเรื่องนี้”
ส่วนพอร์ตเรื่อง “เหนือเมฆ 3” ที่ผู้กำกับ “อุ๋ย นนทรี นิมิบุตร” จะเอามาเสนอเพื่อทำเป็นภาพยนตร์ต่อจากภาค 2 ที่เป็นละครนั้น เจ้าตัวบอกยังไม่อนุมัติ โดยเผยว่าตนไม่อยากทำหนังที่ไปว่ากล่าวหรือกระทบใคร ลั่นไม่อยากเอาชื่อเสียงที่สร้างมาไปแลก
“ก็มีคุยกันแต่ยังไม่เคลียร์อะไร ยังไม่ได้อนุมัติ ให้เขาไปคุยกันให้จบก่อน คนนำพาเขาต้องไปเคลียร์กันให้จบว่าจะได้ตามที่เราเสนอไปไหม ยังไง หนังเราไม่โดนแบนอยู่แล้ว ไม่มีใครมีสิทธิ์มาแบนเรา เราเลยไม่ได้กลัวว่าทำไปแล้วเราจะโดนแบน แต่เราไม่อยากทำอะไรที่ทำแล้วไปทำร้ายใคร เราไม่อยากสร้างหนังแล้วไปเป็นศัตรูกับใคร เราอยากอยู่อย่างสบายๆ ไปไหน ทำอะไรก็ได้”
“โธ่…มีหนังให้ทำอีกตั้งเยอะแยะ เราเองก็คุยกันเยอะ ไม่ง่ายนะ บริษัทเราไม่ปล่อยง่ายๆ ต้องดูกันละเอียด อย่างที่บอกว่าเราไม่อยากให้ทำหนังเพื่อไปสร้างศัตรูกับใครหรือทำให้ใครเสียหาย เราอยู่ด้วยความถูกต้อง สหฯโตมาถึงทุกวันนี้ไม่เคยสร้างศัตรูกับใครเลย เราอย่าไปทำชื่อเสียงให้มันเสียไปเลย เอาไว้คุยให้จบรู้เรื่องแล้วค่อยว่ากัน ให้เขาไปเคลียร์กันก่อน ซึ่งผมก็ชัดเจนว่าผมจะไม่ทำให้ที่ไปสร้างความเสียหายให้กับใคร ไปด่า หรือไปยุ่งเกี่ยวกับใคร”
ที่มา: manager.co.th