นายพีระศักดิ์ ทองนรินทร์ ประธานกรรมการบริหาร แอสเซสเซอรี่ ภายใต้แบรนด์ VOX มั่นใจปีนี้ตลาดของแอสเซสเซอรี่โตขึ้น 100% มุ่งกลยุทธ์การตลาดแบบอัดแน่นทั้งเพิ่มลายสินค้าลิขสิทธิ์และเปิดบริการใหม่ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์แปะมือถือ พร้อมลดราคาสินค้าลง 25-50% เพื่อแข่งขันกับสินค้าจีน และอัดงบการตลาดอีก 30 ล้านบาท หวังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 20% และสร้างยอดขายทะลุ 1.000 ล้านบาท จับมือมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดโครงการ “VOX Design Showcase 2013” เฟ้นหาเด็กมีกึ๋นด้านการออกแบบมาร่วม Workshop
นายพีระศักดิ์ ทองนรินทร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีแมซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แอนด์ดิจิตอลแอสเซสเซอรี่ ภายใต้แบรนด์ VOX กล่าวว่า ซีแมซมั่นใจว่าในปีนี้ตลาดของแอสเซสเซอรี่จะเติบโตเพิ่มขึ้น 100% เนื่องจากคนใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตเริ่มมองว่าอุปกรณ์เสริมเหล่านี้เป็นแฟชั่นที่จะช่วยสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองจึงมีความใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดยซีแมซเองได้เตรียมการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมและสามารถตอบสนองต่อตลาดอย่างเต็มที่ ไม่ว่ะเป็นการเพิ่มไลเซ่นส์ลวดลายของแอสเซสเซอรี่เพิ่มอีก 8 แบบ โดยเมื่อรวมแล้วทำให้ VOX มีไลเซ่นส์ลวดลายลิขสิทธิ์ ทั้งสิ้น 25 ลาย ยังไม่นับรวมของ VOX และลวดลายของศิลปินที่ได้เข้าไปร่วมมือด้วย นอกจากนี้ยังได้ทำการเพิ่มธุรกิจบริการติดฟิล์มแฟชั่นขึ้นใหม่ เนื่องจากมองว่าฟิล์มกันรอยเป็นตลาดใหญ่ และผู้บริโภคมีความต้องการที่เป็นรูปแบบเฉพาะมากขึ้น ซึ่งบริการใหม่นี้ VOX จะทำให้เคสเดิมๆ สามารถมีลวดลายเป็นภาพต่างๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ อาทิ การถ่ายภาพลงบนฟิล์มแล้วทำการติดลงบนเคสมือถือของลูกค้าเอง ซึ่งคาดว่าจะใช้โมเดลธุรกิจในรูปแบบของคอนเนอร์ที่จะจับมือกับพันธมิตรทำร่วมกัน โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 300 แห่งทั่วประเทศ โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 75 ล้านบาท
“สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปีนี้นอกจากจะทำการเพิ่มในส่วนของการเพิ่มลายลิขสิทธิแล้ว VOX ยังได้ทำการลดราคาสินค้าลงประมาณ 25-50% เพื่อให้สามารถแข่งขันกับสินค้าแบรนด์จีนได้ ซึ่งการลดราคาในครั้งนี้ VOX มั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มส่วนของยอดขายและสร้างฐานลูกค้าได้มากขึ้น และตั้งงบการตลาดในปีนี้สำหรับแบรนด์ VOX ไว้ที่ 30 ล้านบาท”
นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันในตลาดแอสเซสเซอรี่นั้นแบ่งเป็นสองส่วนคือ แอสเซสเซอรี่สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต กับ แอสเซสเซอรี่สำหรับคอมพิวเตอร์ โดยแต่ละตลาดนั้นมีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท หรือเมื่อรวมทั้งสองตลาดแล้วจะมีมูลค่าสูงถึง 12,000 ล้านบาท โดยมีสินค้าจีนครองตลาดทั้งหมดอยู่ที่ 70% ส่วน VOX มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10-12% และในปีนี้จากกลยุทธ์ทางการตลาด คาด VOX ว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 20% เนื่องจากมีลายของสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีราคาขายที่แตกต่างจากสินค้าจีนไม่มากนัก ในขณะที่มีคุณภาพของสินค้าดีกว่า และมีการดีไซน์ที่สวยงามกว่า
VOX เป้าหมายยอดขายรวมในปีนี้ตั้งไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 800 ล้านบาท และต่างประเทศ 200 ล้านบาท ซึ่งการตั้งเป้าหมายในประเทศนั้นเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 50% เนื่องจาก VOX มั่นใจว่าหลังจากเปิดบริการเครือข่าย 3G แล้วจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตลาดสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น และจะทำให้ยอดขายของแอสเซสเซอรี่เติบโตตามไปด้วย โดยขณะนี้ VOX มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนทั้งสิ้น 10,000 ราย และในต่างประเทศผ่านตัวแทนจำหน่าย 20 ราย รวมไปถึงมีการทำตลาดผ่านช่องทางอื่นๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาเก็ต ตลอดจนการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ อีกด้วย
นายพีรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ ในปีนี้นั้น ทางบริษัทฯ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดโครงการ “VOX Design Showcase 2013” หรือการประกวดออกแบบผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และโมบายแอสเซสเซอรี่ขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Future Inspiration” เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นิสิต นักศึกษาได้นำความคิดสร้างสรรค์ออกมานำเสนอ และถือเป็นการพัฒนาทักษะด้านการออกแบบที่จะช่วยให้นักศึกษาได้นำความรู้ที่เรียนและความรู้รอบตัวออกมาบูรณาการเป็นชิ้นงานประกวด โดยผู้ที่ส่งผลงานเข้ารอบ 5 คนจะได้รับเงินรางวัล พร้อมสร้างแบบ Photo type จริงด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีการออกแบบที่ทันสมัย โดยนักศึกษาที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่
www.vox-itstyle.com/showcaseที่มา: manager.co.th