"Doom 4" รีบูทใหม่ย้ายลงเน็กซ์เจน

[Nick]

     Bethesda Softworks ออกมายืนยันถึงแผนคิดใหม่ทำใหม่สำหรับโปรเจกต์ภาคต่อของซีรีส์เกม FPS ระดับตำนานที่ทุกคนเฝ้ารอคอย เพื่อสอดรับการเปลี่ยนยุคของเครื่องคอนโซล พร้อมแว่วข่าวเรื่องการล้มเลิกพัฒนา Rage 2
       
       หลังปล่อยให้ดีใจกันเก้อกับคำสัญญาเพียงลมปากที่ทางสตูดิโอ id Software ให้ไว้กับแฟนๆว่าจะส่งเกม "Doom 4" ออกตามมาหลังเสร็จสิ้นการวางจำหน่ายเกม "Rage" แต่คงเป็นเพราะตัวเลขยอดขายของเกม "Rage" ที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ที่ทำให้เกมอื่นๆในสังกัดได้รับผลกระทบไปด้วย
       
       ล่าสุด "พีท ไฮนส์"(Pete Hines) รองประธานฝ่ายการตลาดของบริษัท Bethesda ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าตัวโปรเจกต์เกม "Doom 4" นั้นมันยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาของทางบริษัท แถมตัวเกมยังถูกพัฒนาให้ดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนในเวอร์ชันรูปโฉมใหม่สำหรับเครื่องเน็กซ์เจน
       
       "ตัวเกม Doom 4 ในเวอร์ชันก่อนหน้านี้ มันไม่สามารถแสดงศักยภาพและความน่าตื่นตาตื่นใจได้ตามเป้าที่ทางเราตั้งใจจะนำเสนอ และไม่ได้ดีอย่างที่แฟนๆซีรีส์นี้คาดหวัง ซึ่งเป็นเหตุผลให้ทางทีมงาน id ต้องพยายามกันอีกครั้งเพื่อสร้างตัวเกม Doom 4 ในเวอร์ชันใหม่ที่มีคุณภาพสมกับที่เหล่าแฟนๆคาดหวังเอาไว้กับซีรีส์นี้ โดยทางเราจะมาบอกให้ทุกคนได้รับทราบกันเมื่อเราพร้อมที่จะเปิดเผยถึงสิ่งที่เรากำลังทำอยู่" ไฮนส์ กล่าว
       
       สำหรับเวอร์ชันต้นฉบับของเกม "Doom 4" ได้เริ่มมีข่าวหลุดออกมาตั้งแต่ปี 2011 หลังจากค่าย id Software ได้เสร็จสิ้นการพัฒนาเกม "Rage" โดยถูกเรียกขนานกันในนาม "Call of Doom" เนื่องจากตัวเกมได้หยิบยืมเอาความคิดสร้างสรรค์และองค์ประกอบมาจากเกมยิงยอดนิยมในสมัยนั้นอย่างคอลออฟดิวตี้ ที่ใส่การเล่นตามบทสคริปต์ราวกับชมภาพยนตร์เอาไว้เกือบทุกส่วนภายในเกม
       
       นอกจากนี้แหล่งข่าวอีกราย ระบุเพิ่มเติมว่าทาง Bethesda ได้สั่งล้มเลิกแผนการพัฒนาเกม Rage ภาคสอง สืบเนื่องมาจากตัวเกมภาคแรกที่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของยอดขายและความคาดหวังของคอเกม โดยทาง Bethesda ได้ตัดสินใจขยับทีมงานภายใน id ให้มาช่วยทำเกม Doom 4 กันหมด โดยหนึ่งในผู้บริหารได้สั่งกำชับกับหัวหน้าผู้ควบคุมดูแลโปรเจกต์ว่าตัวเกม Doom 4 จะต้องประสบความสำเร็จให้ได้ในระดับเดียวกับเกม The Elder Scrolls V: Skyrim
       
       ข้อมูลและภาพประกอบจาก   
       gamespot
       ign
       joystiq
       kotaku   

ที่มา: manager.co.th