เอชพีเผยผลสำรวจทั่วโลกพบกว่า 20% ของพนักงานในองค์กรต้องการใช้งานแท็บเล็ตในการทำงาน และ 50% เริ่มหันมาใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในออฟฟิศก่อให้เกิดการเชื่อมต่อมากขึ้น ชี้โอกาสเปิดกว้างส่ง ElitePad 900 บุกตลาดแท็บเล็ตเพื่อองค์กรธุรกิจ ชี้จุดเด่นทำงานได้ดีไม่แพ้พีซี แถมอึดและทนรองรับวินโดวส์ 8 และเสริมด้านความปลอดภัยเพียบ ด้านการตลาดมุ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดิมที่มีอยู่ให้ทดลองใช้งานก่อน พร้อมนำเสนอความต่างเพิ่มฟีเจอร์และฟังก์ชันได้ตามลูกค้าต้องการ นายฐิตพล บุญประสิทธิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจ กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันแท็บเล็ตเริ่มมีบทบาทในองค์กรต่างๆ เพิ่มมากขึ้น จากการสำรวจของเอชพีทั่วโลกพบว่า 20% ของพนักงานในองค์กรมีความต้องการใช้แท็บเล็ตในการทำงาน
ขณะเดียวกัน กว่า 50% ของพนักงานมีการใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในการทำงานในออฟฟิศทำให้เกิดการเชื่อมต่อและใช้ทรัพยากรของออฟฟิศมากขึ้น สอดคล้องกับผลการวิจัยของการ์ทเนอร์ที่ระบุกว่า 1 ใน 10 กลยุทธ์ไอทีขององค์กรทั่วโลก โมบายดีไวซ์มีความสำคัญเป็นอันดับหนี่งในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
เอชพีจึงได้ทำการเปิดตัวแท็บเล็ตสำหรับธุรกิจ HP ElitePad 900 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในองค์กรธุรกิจ มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้น รองรับการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 และระบบความปลอดภัยที่บรรจุมาให้อย่างเพียบพร้อม โดยผู้ใช้งานจะได้รับระบบการจัดการเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์พีซีในตระกูล HP Elite นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรงทนทาน กันน้ำ กันกระแทก รวมไปถึงกันฝุ่นละอองและทนต่ออุณหภูมิ รวมถึงระดับความสูงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“การทำตลาดแท็บเล็ตครั้งนี้เอชพีมั่นใจมาก เนื่องจากเรามองเห็นโอกาสที่มากขึ้น โดยเฉพาะความต้องการของลูกค้าในกลุ่มองค์กรที่สูงขึ้น สอดคล้องกับไลฟสไตล์ของพนักงานยุคใหม่ที่มีความต้องการใช้ทั้งการทำงานและความบันเทิงต่างๆ ในเวลาเดียวกัน เอชพีจึงนำเสนอสิ่งที่เพิ่มมากขึ้นเข้ามาให้ลูกค้าทั่วไปได้ใช้จากเดิมที่การใช้งานแท็บเล็ตส่วนใหญ่จะใช้ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว”
นายฐิตพลกล่าวต่อว่า เอชพีนำเสนอแท็บเล็ตเพื่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเชื่อมต่อกับการใช้งานที่มีอยู่แล้ว เอชพีมองว่า ElitePad ช่วยลดปัญหาในเรื่องการนำสินค้าส่วนตัวเข้ามาในองค์กรที่อาจมีความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีบริการด้านความปลอดภัยของ HP Client Security ที่ช่วยจัดเก็บและปกป้องข้อมูลจากการถูกเรียกค้นโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกใช้บริการด้านความปลอดภัยได้ตามต้องการ
“จุดเด่นของแท็บเล็ต ElitePad 900 อยู่ตรงที่การทำสเปกได้ตามที่ลูกค้าต้องการ โดยจะสามารถเพิ่มเติมตรงไหนหรือต้องการฟีเจอร์ใดๆ เอชพีก็จะสามารถใส่เพิ่มเติมเข้าไปได้ด้วย โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำคัญ เช่น สายการบิน เฮลท์แคร์ ซึ่งบางแห่งได้เริ่มมีการนำไปใช้งานกันแล้วไม่ว่าจะเป็นการเช็กอิน การถือไปใช้ในส่วนต่างๆ ของโรงพยาบาลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจรักษา นอกจากนี้ยังเหมาะกับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ หรือแม้กระทั่งกลุ่มแวร์เฮาส์ที่เช็กข้อมูลต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ ทุกที่ทุกเวลา”
นายฐิตพลกล่าวอีกว่า ปัจจุบันแม้จะไม่มีข้อมูลว่าเอ็นเตอร์ไพรซ์แท็บเล็ตมีจำนวนเท่าไร แต่เอชพีมองว่าน่าจะมีการใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยทางด้านการทำตลาดนั้นในเบื้องต้นจะโฟกัสในฐานลูกค้าของเอชพีก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าองค์กรที่จะได้มีการเชิญลูกค้าเข้ามาเปิดตัวทดลองใช้ ส่วนแผนการตลาดส่วนอื่นจะเป็นการทำร่วมกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เอชพีมีอยู่แล้วนำเสนอเป็นโซลูชันเข้าไป ซึ่งหลังจากการเปิดตัว HP ElitePad 900 ไปได้ไม่นานพบว่าผู้บริหารองค์กรส่วนใหญ่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี
Company Relate Link :
HP
ที่มา: manager.co.th
