“ลาซาด้า” เผยการเติบโตของธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์ที่ผ่านมา 1 ปีในไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มียอดขายเพิ่มขึ้น 25-30% ติดต่อกัน 6 เดือน ชี้เกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยท่องเน็ตและมีการใช้งานคอมมูนิตีกันอย่างแพร่หลายจึงช่วยให้ชอปปิ้งออนไลน์เป็นเรื่องไม่ยาก ตั้งเป้าโต 1.5 พันล้านบาท ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก และการันตีด้วย Lazada Promise คืนสินค้าภายใน 15 วันหากไม่พึงพอใจ พร้อมขยายตลาดจาก B2C สู่ C2C เพื่อเพิ่มรายได้ในอนาคต นายแม็กซิมิลเลียน บิทเนอร์ ประธานกรรมการบริหารสูงสุด ลาซาด้าภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การเติบโตของลาซาด้าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาในประเทศไทยถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่มีความสนใจในการท่องอินเทอร์เน็ต มีการใช้งานคอมมูนิตีกันอย่างแพร่หลาย ทำให้การใช้งานด้านการชอปปิ้งออนไลน์เป็นเรื่องไม่ยาก และมียอดเข้าชมกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ที่ผ่านมามีการเติบโตของยอดขาย 25-30% ติดต่อกัน 6 เดือน
“ขณะนี้ตลาดรีเทลในประเทศไทยมีมูลค่าการซื้อขายถึง 50,000 ล้านบาท โดยเป็นในส่วนของอีคอมเมิร์ซอยู่ที่ประมาณ 1% และคาดว่าใน 5 ปีข้างหน้าการซื้อขายผ่านอีคอมเมิร์ซจะเพิ่มเป็น 4-5% โดยปัจจุบันลาซาด้ามีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ 4 ล้านคนต่อเดือน ในจำนวนนี้ 1.5 แสนคนเป็นลูกค้าที่ทำการซื้อขาย มีแฟนเพจในเฟซบุ๊กมากกว่า 600,000 Like และเป็น 1 ใน 30 เพจของเฟซบุ๊กที่มีการพูดถึงมากที่สุด”
นายแม็กซิมิลเลียนกล่าวว่า ดังนั้นในปีนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลาซาด้าจึงได้เตรียมจัดกิจกรรมทางการตลาดตลอดทั้งปี โดยคาดหวังว่าทั้งหมดนี้จะช่วยให้บรรลุยอดการขายที่ตั้งไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท โดยได้มีการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ 3 กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย การนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ประสบการณ์ใช้ช้อปปิ้งที่น่าประทับใจ และการบริการที่เป็นเลิศ
ทั้งนี้ โมเดลธุรกิจของลาซาด้าแตกต่างจากผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายอื่นที่ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนพลาซ่าให้คนนำของมาวางขาย ของเราเป็นการคอนโทรลซัพพลายเชนทั้งหมด โดยเราจะไม่ได้ขายของเฉพาะที่เป็นลักชัวรี หรือพรีเมียม แต่จะมีสินค้าข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันด้วย ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ภายในบ้าน ของเล่น และอุปกรณ์กีฬา และนำเสนอการซื้อสินค้าออนไลน์แบบไร้กังวลในกรณีที่ลูกคัาไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถซื้อได้ด้วยเงินสดซึ่งจ่ายโดยตรงตอนรับสินค้าหน้าบ้านคุณ (Cash on Delivery) จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้ลาซาด้าประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา
รวมกับกระแสความนิยมและการเติบโตที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องของสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตในประเทศไทย ลาซาด้าเองได้เตรียมปล่อยแอปพลิเคชันที่สามารถรองรับทั้งระบบแอนดรอยด์และ iOS เพื่อทำให้การช้อปปิ้งของลูกค้าสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม
“นอกเหนือไปจากการนำเสนอประสบการณ์ชอปปิ้งออนไลน์ที่รวดเร็วและสะดวกสบายแล้ว ลาซาด้ายังได้ทำการเปิดตัว Lazada Promise ที่มาพร้อมกับนโยบายนำเสนอบริการจัดส่งสินค้าภายใน 48-78 ชั่วโมง Best Price Guarantee ที่นำเสนอราคาที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าเมื่อเทียบกับผู้ขายรายอื่น และนโยบายคืนสินค้าภายใน 15 วันหากไม่พึงพอใจ ซึ่งจะเป็นการการันดีได้ว่านับจากนี้การซื้อสินค้าจะได้รับสินค้าที่ตรงความต้องการและถูกใจอย่างแน่นอน”
นายแม็กซิมิลเลียนกล่าวว่า ปัจจุบันตลาดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และลาซาด้าถือเป็นอันดับ 1 ในด้านของส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มของธุรกิจแบบ B2C โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 30% และมีเป้าหมายที่จะขยายเข้าสู่กลุ่ม C 2 C ซึ่งกำลังศึกษาแพลตฟอร์มที่จะทำตลาดทางด้านนี้อยู่ เพราะจะทำให้ลาซาด้ามีการขยายเข้าสู่ส่วนแบ่งการตลาด C2C เพื่อขยายยอดขายในส่วนนี้ในอนาคตอีกด้วย
Company Relate Link :
Lazada
ที่มา: manager.co.th