ผู้จัด “คอมมาร์ต” ชี้เทรนด์ของตลาดเริ่มหันมาสนใจสมาร์ทโฟนกับแท็บแล็ตมากขึ้น เห็นได้จากส่วนแบ่งพื้นที่การขายในงานที่เพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิมที่มีอยู่เพียง 10% คาดรายได้ตลอดงาน 3,000 ล้านบาท โดยคาดว่าแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนจะมียอดขายเป็นอันดับ 1 เป็นครั้งแรก เผยเทรนด์ไอทีไทยกำลังมุ่งเข้าสู่กระแส 4 จอ ใน 4 ผลิตภัณฑ์ ทั้งโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และทีวีดิจิตอล ส่วนตลาดไอทีน่าจะได้รับอานิสงส์จากวินโดวส์ 8 แต่น่าจะฟื้นตัวไตรมาส 2 นายปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีภายใต้ชื่อ “คอมมาร์ต” กล่าวว่า แนวโน้มการทำตลาดของเวนเดอร์ในงานคอมมาร์ตเริ่มมีการเพิ่มพื้นที่ให้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากขึ้น โดยมีการจับจองพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของงาน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนโฉมตลาดไอทีไทย และเป็นแนวโน้มของการทำธุรกิจของโลกในยุคปัจจุบัน เนื่องจากเทรนด์ของตลาดกำลังไปทางอุปกรณ์เหล่านี้ แต่ทั้งนี้คาดว่าแม้ตลาดไอทีจะไม่เติบโตแต่ก็จะไม่ลดลง น่าจะอยู่ในระดับ 10% ขึ้นไป โดยจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 2 เนื่องจากความพร้อมของตลาดในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
“พื้นที่ภายในงานของสมาร์ทโฟนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากเดิมที่มีพื้นที่เพียง 10% ถือเป็นการแสดงให้เห็นเทรนด์ของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เวนเดอร์ต้องเพิ่มพื้นที่ส่วนนี้มากขึ้นและจะเน้นขายผลิตภัณฑ์ไอทีอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป”
โดยคาดว่ายอดขายในงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2013 นี้จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนจำนวนคนเข้าชมงานจะเท่าๆ กับการจัดงานครั้งที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 8 แสนคน ซึ่งสมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตจะมียอดขายรวมสูงสุดเป็นครั้งแรกจากเดิมที่ยอดขายโน้ตบุ๊กจะเติบโตเป็นอันดับหนึ่ง
สำหรับงานในครั้งนี้ผู้บริโภคจะได้เห็นแท็บเล็ตที่มีให้เลือกทุกระดับราคาตั้งแต่ราคาพันกว่าบาทขึ้นไปกว่า 60 ยี่ห้อ โน้ตบุ๊กในระบบปฏิบัติการณ์วินโดวส์ 8 ในราคาที่ต่ำลงกว่าครึ่ง รวมไปถึงโน้ตบุ๊กทัชสกรีนที่มีความเพียบพร้อมในราคาไม่ถึง 20,000 บาท
รวมไปถึงผลิตภัณฑ์สินค้าไอทีสำหรับผู้บริโภคทุกระดับทุกราคา ทั้งโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ทีวีดิจิตอล ที่กำลังเป็นกระแส 4 จอ ในวงการไอทีไทย ส่วนทีวีดิจิตอลจะมาเปิดตัวพร้อมโชว์ที่งานคอมมาร์ตเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีสินค้าใหม่ๆ อย่าง แฟ็บเล็ต หรือแท็บเล็ตผสมสมาร์ทโฟนสามารถใช้โทร.ได้ด้วย ซึ่งจะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลายมากขึ้นด้วย
นายปฐมกล่าวต่อว่า การที่โน้ตบุ๊คทัชสกรีนวินโดวส์ 8 ที่ปรับลดราคาถึงครึ่งต่อครึ่งนั้น นอกจากจะเป็นการกระตุ้นยอดขายและสร้างสีสันตลาดไอทีในช่วงต้นปีแล้ว ยังถือเป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับให้ผู้บริโภคที่จะช่วยทำให้ยอดขายโน้ตบุ๊กดีขึ้นได้บ้าง แม้ในไตรมาสแรกนี้ยอดขายไม่เพิ่มขึ้นมากนักแต่เชื่อว่าจากการลดราคาภายในงานดังกล่าวจะเป็นตัวชี้วัดตลาดไอทีของปีนี้ว่าจะไปในทิศทางไหน และเวนเดอร์ต้องปรับตัวอย่างไร โดยการแข่งขันภายในงานส่วนใหญ่จะยังอยู่ที่การทำโปรโมชันของทั้งเวนเดอร์และสถาบันการเงิน
Company Relate Link :
Commart
ที่มา: manager.co.th
