“บอย ปกรณ์” สุดนอยด์หลังออกงานอีเวนต์โชว์อาบน้ำย่านอนุสาวรีย์ทำคนเดือดร้อนหวิดชุลมุนจนงานล่ม บอกไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำว่าขอโทษ ก่อนรับบ.ยักษ์ใหญ่ที่ตกเป็นข่าวกับ “ณเดชน์” ทาบเป็นพรีเซ็นเตอร์ ขำกันไม่ออกกันเลยทีเดียวในส่วนของนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดีอย่าง “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” หลังเจ้าตัวไปร่วมงานอีเวนต์ให้กับผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่งด้วยการโชว์อาบน้ำบนเวทีบริเวณริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นเหตุให้ผู้ที่สัญจรไปมาในบริเวณนั้นซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยได้รับความเเดือดร้อนกันทั่วหน้ากระทั่งเกิดมีปากเสียงกับทีมงานจนผู้จัดงานต้องสั่งยุติงานดังกล่าวลงกลางคัน
โดยหลังจากเกิดเรื่องขึ้นนักแสดงหนุ่มก็ได้ไปโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมของตนเองโดยขอโทษกับสิ่งที่ทั้งทีมงานและตนได้ทำไปที่ได้ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ก่อนที่เจ้าตัวจะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่าไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งตนรู้สึกตกใจมากและไม่มีอะไรจะบอกนอกจากคำว่าขอโทษ
“บอกตรงๆ ตอนผมอยู่บนเวทีเนี่ย หลายๆ อย่างมันเร็วด้วย ผมก็ไม่รู้ว่าทีมงานกำลังควบคุมสถานกาณ์อยู่ ผมก็ทำหน้าที่ของตนเองไปในตรงนั้น ผมไม่เห็นเลยว่าเหตุการณ์นี่มันรุนแรงแค่ไหน จนแบบรู้สึกว่าเออ เขาให้เราลงแล้วนะ เราก็เฮ้ย เหตุการณ์เริ่มชุลมุนแล้ว เราก็เออรีบลงดีกว่า”
“แล้วยิ่งแบบกลับมาเห็นคลิปยิ่งเห็นว่าเออ ข้างล่างเนี่ยประชาชนที่เขาสัญจรไปมาเขาเดือดร้อนจริงๆ ผมก็ตกใจนะ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แล้วก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ตกใจมากครับนอยด์ครับ นอยด์มากครับ...คือทุกคนก็รู้นะครับว่ามันเกิดความผิดพลาดขึ้นมา ผมก็ไม่อยากพูดอะไร ตัวผมเองรู้สึกผิดมาก”
“เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย...ก็ขอโทษเลยครับ ขอโทษกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเราก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์ช่นนี้เกิดขึ้น แล้วตอนที่เกิดเหตุการณ์พวกเราก็พยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้...ก็ไม่รู้จะพูดคำไหนนอกจากคำว่าขอโทษครับ...ผมว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ใใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกครับ”
พร้อมออกปากยอมรับบริษัทษ์ยักษ์ใหญ่เจ้าของผลิตภัณฑ์ดังหลายยี่ห้อที่มีข่าวออกมาว่ามีปัญหากับนักแสดงหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ทาบรับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์จริง เชื่อไม่มีปัญหากับอีกฝ่าย...“ก็ได้ยินข่าวมาบ้างครับ ส่วนตัวก็เข้าไปถามทางช่องบ้าง ทางช่องก็บอกว่ามียูนิลีเวอร์ติดต่อเข้ามาจริง แต่ตัวผมเองไม่ทราบถึงเรื่องสินค้าว่าคืออะไร เพราะผมเป็นเด็กช่อง 3 ฉะนั้นเวลารับงานไม่ว่าจะเป็นอีเว้นต์หรือโฆษณาก็จะติดต่อมาที่ช่องครับ ผมก็จะไม่ทราบว่างานเป็นไงบ้าง เพราะว่ายิ่งเป็นงานพรีเซ็นเตอร์ที่ต้องใช้รายละเอียดเยอะ”
“ผมไม่ได้กังวลว่าจะมีปัญหาอะไรเลย ผมทำงานก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแค่นั้นเองครับ ส่วนความสัมพันธ์ในความเป็นพี่เป็นน้องก็ยังเหมือนเดิมครับ ถ้าเจอก็คุยกันตามปกติ มันไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญ...คิดว่าแฟนคลับเขาเข้าใจเรื่องการทำงาน อย่างตัวผมเองได้รับงานมาก็ทำหน้าที่ของผมเต็มที่ครับ แฟนคลับก็เข้าใจครับ...”
ที่มา: manager.co.th