พลันที่สถานการณ์ความรุนแรงจากวิกฤตการเมืองเริ่มคลี่คลาย หลังจากที่ตลาดซบเซา กำลังซื้อหดหาย ขณะที่อารมณ์การจับจ่ายซื้อสินค้าของผู้บริโภคยังไม่กลับมาเหมือนเดิม จึงถือเป็นโจทย์ใหญ่ของผู้ประกอบการที่จะต้องสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดกระตุ้นกำลังซื้อ ปัจจุบันจึงพบว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ร้านค้าปลีก หรือศูนย์ไอที ต่างทุ่มจัดโปรโมชั่น พร้อมหามาตรการช่วยเหลือคู่ค้ากันอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมา
รวมถึงเป็นการระบายสต๊อกที่ติดค้างในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงที่พันธุ์ทิพย์พลาซาต้องปิดให้บริการไปนานถึง 10 วัน
ดังนั้น เพื่อดึงคนกลับเข้าศูนย์ ล่าสุด "พันธุ์ทิพย์พลาซา" สาขาประตูน้ำ ได้ร่วมมือกับเจ้าของสินค้าจัดแคมเปญถล่มราคา "Pantip Unity Sale" ตั้งแต่ 26 พฤษภาคม ถึง 6 มิถุนายนศกนี้ โดย นายวิษณุ หวังวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพย์พัฒนอาเขต จำกัด กล่าวว่า Pantip Unity Sale เป็นแคมเปญที่มีผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ผ่านมา ภายในศูนย์มีร้านค้ากว่า 800 ร้านค้า จากการปิดศูนย์ ทำให้มีผลกระทบต่อรายได้โดยรวม โดยบริษัทได้ให้ความช่วยเหลือร้านค้าในการลดค่าเช่าในเดือนเมษายน 30% ส่วนเดือนพฤษภาคมอยู่ในช่วงพิจารณา ซึ่งจะลดไม่น้อยกว่า 30%
ภายในงานจะมีโปรโมชั่นพิเศษ อาทิ เน็ตบุ๊กเอเซอร์ ราคา 8,990 บาท โน้ตบุ๊ก Intel Core i5 ลด 5,000 บาท จากปกติ 29,900 บาท เหลือเพียง 24,900 บาท และสินค้าล้างสต๊อกลดสูงสุดถึง 50% เป็นต้น
ขณะที่ "ชัยวัฒน์ เอมวงศ์" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ไอทีมอลล์ เล่าว่า แม้ช่วงที่มีการชุมนุมจะทำให้ร้านค้าในไอทีมอลล์มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 30% แต่เมื่อเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ คาดว่ายอดขายจะกลับมาเท่าเดิม ดังนั้น ต้นเดือน มิ.ย.ไอทีมอลล์ จะจัดงาน "ไอทีมอลล์ฮาร์ดเซล" เพื่อ ช่วยเหลือดีลเลอร์และดิสทริบิวเตอร์ไอทีรายใหญ่ให้มีที่ระบายสินค้าด้วย
ด้านผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ต่าง ๆ ก็โดดลงมาให้ความช่วยเหลือผู้ค้า เพื่อระบาย สต๊อก เพราะทราบดีว่า ถ้าผู้ค้ามีปัญหา สินค้าค้างสต๊อก ก็จะมีปัญหาเรื่อง สภาพคล่อง การชำระหนี้ ไปจนถึงการไม่มีเงินทุนหมุนเวียนที่จะสั่งซื้อสินค้าใหม่
เริ่มจากยักษ์คอมพิวเตอร์ "เอเซอร์" เตรียมจัดกิจกรรมโปรโมชั่นครั้งใหญ่ตามหน้าร้านทั่วประเทศ ต่อ
จากแคมเปญมิดเยียร์เซลที่จะสิ้นสุด 6 มิ.ย.นี้ "นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ" ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า โปรโมชั่นจะมีกลิ่นอายโปรโมชั่นเดียวกับคอมมาร์ต และจะเป็นสินค้าโมเดลเดียวกับที่จะวางจำหน่ายในคอมมาร์ต รวมถึงการลดราคาล้างสต๊อก 20-25% ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนช่วยเหลือคู่ค้า เช่น การยืดหนี้ รวมถึงเรื่องการประกันสินค้า
"การที่พันธุ์ทิพย์ประตูน้ำปิดให้บริการ ส่งผลให้บางร้านค้ามีสินค้าค้างสต๊อกติดอยู่ในห้าง และร้านค้าบางแห่งใช้พันธุ์ทิพย์เป็นเสมือนคลังสินค้า ก่อนกระจายสินค้าไปยังสาขาต่าง ๆ ทำให้มีสินค้าค้างอยู่ เอเซอร์จึงมีการช่วยทำโปรโมชั่น เพื่อเคลียร์สต๊อก และดึงคนมาที่ร้านค้าด้วย"
ขณะที่ค่ายโตชิบามีมาตรการช่วยเหลือ คู่ค้าเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการยืดเครดิตให้แก่คู่ค้าเพิ่ม 15 วัน และการดูแลเรื่องสต๊อก พร้อมกันนี้จะเน้นการทำโปรโมชั่นหน้าร้าน โดยเฉพาะการทำแคมเปญผ่อน 0% และการปรับลดราคาสินค้า เช่น รุ่นไฮเอนด์ปรับราคาลงกว่า 1 หมื่นบาท
ขณะที่ร้านค้าปลีกไอทีรายใหญ่อย่าง "ฮาร์ดแวร์เฮาส์" ที่มีร้านค้าอยู่ในพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำกว่า 12 ร้านค้า ซึ่งเป็นแหล่งสร้างยอดขายกว่า 40% ของบริษัทได้รับผลกระทบเต็ม ๆ โดย "ชาติชาย วิทยธรรมโสภณ" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ฮาร์ดแวร์เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงจน พันธุ์ทิพย์ปิดให้บริการประมาณ 10 วันนั้น ฮาร์ดแวร์เฮาส์ได้รับผลกระทบอย่างมาก สูญรายได้ประมาณร้อยล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายของผู้ซื้อ บริษัทได้จัดแคมเปญ "โก โกล์ !!! ฮาร์ดแวร์ เฮ้าส์ เมก้า เซล" เริ่ม 1 มิ.ย.-20 ก.ค. ซื้อสินค้าครบ 2,000 บาท มีสิทธิ์ลุ้นชิงรถยนต์ "ซูซูกิ สวิฟท์" ที่ร้านฮาร์ดแวร์เฮาส์ทุกสาขา รวมถึงการเข้าร่วมงานคอมมาร์ตที่บริษัทได้ทุ่มงบฯการตลาดเพิ่มขึ้น 25% เพื่อทุ่มกิจกรรมภายในงานเต็มที่ หลังจากที่อั้นมานาน
ขณะที่ 24-27 มิ.ย. 2553 งานคอมมาร์ตเอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2010 ระเบิดฉากขึ้น ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าจะเป็นบิ๊กอีเวนต์ที่เข้ามากระตุ้นตลาดไอทีกลางปีให้กลับมาเติบโต ซึ่งทางผู้จัดงานคอมมาร์ตครั้งนี้จะขอเปลี่ยนภาพเดิมจากไฮไลต์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับซื้อขาย โปรโมชั่น กิจกรรมการตลาดอย่างเต็มที่ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ผู้บริโภคให้กลับคืนอีกครั้ง
ที่มา: prachachat.net