นอกจากสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ซัมซุง (Samsung) และแอปเปิล (Apple) กำลังส่อแววว่าจะเป็นคู่แข่งกันในตลาดนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะด้วย เนื่องจากซัมซุงยืนยันแล้วว่ากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนานาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ (smartwatch) โดยนาฬิกานี้จะใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ลี ยุง ฮี (Lee Young Hee) รองประธานบริหารฝ่ายธุรกิจโมบายล์ของซัมซุงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่กรุงโซล เกาหลีใต้ จนเป็นข่าวตีพิมพ์เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าซัมซุงเตรียมพัฒนาสินค้ากลุ่มนาฬิการัดข้อมือมานานแล้ว และขณะนี้บริษัทกำลังเร่งมือเพื่อให้ผลิตภัณฑ์พร้อมวางตลาด
ผู้บริหารซัมซุงระบุว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายกลุ่ม และนาฬิกาเป็นหนึ่งในนั้น อย่างไรก็ตาม ซัมซุงยังไม่เปิดเผยว่านาฬิกาอัจฉริยะจะสามารถวางตลาดเมื่อใด รวมถึงกำหนดราคานาฬิกาข้อมือที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นเบื้องหลังอุปกรณ์ตระกูล Galaxy ที่ทำให้ซัมซุงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
ที่ผ่านมา ซัมซุงและแอปเปิลนั้นแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมาตลอด การยืนยันครั้งนี้แสดงว่าซัมซุงและแอปเปิลกำลังนับถอยหลังแข่งขันกันในตลาดนาฬิกาข้อมือเพิ่มอีก 1 พื้นที่ นอกจากนี้ ข่าวลือที่ว่าแอปเปิลกำลังซุ่มพัฒนาโทรทัศน์อัจฉริยะ ก็มีความเป็นไปได้ที่ซัมซุงและแอปเปิลจะต้องชนกันบนสังเวียนทีวีเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ โอลิเวอร์ เฉิน (Oliver Chen) นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ้ปประเมินว่า ซัมซุงนั้นต้องการพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่ผู้บริโภคยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการใช้งาน แต่จะรู้สึกต้องการใช้ทันทีเมื่อผลิตภัณฑ์นั้นแจ้งเกิด นวัตกรรมลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อแอปเปิลพัฒนาเครื่องเล่นเพลงดิจิตอล "ไอพ็อด (iPod)" จนสามารถทำยอดจำหน่ายถล่มทลายต่อเนื่องหลายปี
การยืนยันว่ากำลังพัฒนานาฬิกาอัจฉริยะเช่นนี้ ทำให้ซัมซุงถูกมองว่ายักษ์ใหญ่เกาหลีเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข่าวลือมากกว่าแอปเปิล ซึ่งมีข่าวว่ากำลังซุ่มพัฒนานาฬิกาข้อมืออัจฉริยะเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ ซัมซุงใช้งานมหกรรมแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค Consumer Electronics Show หรือ CES 2013 เป็นเวทีเปิดตัวหน้าจอบิดงอได้ในชื่อ Youm ซึ่งซัมซุงพัฒนาขึ้นเอง จอดังกล่าวมีขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด 1280x720 พิกเซล และหน้าจอนี้เองที่มีโอกาสถูกนำไปพัฒนาเป็นนาฬิกาข้อมือได้ในอนาคต
ปัจจุบัน ซัมซุงเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ในตลาดโทรศัพท์มือถือ ทิศทางที่ซัมซุงกำลังเดินไปคือความพยายามในการฉีกตัวเพื่อสร้างอาณาจักรแห่งใหม่ขึ้น ซึ่งเบื้องต้นมีการประเมินว่าหากนาฬิกาอัจฉริยะสามารถแจ้งเกิดได้จริง จะมีเม็ดเงินหมุนเข้าสู่อุตสาหกรรมไอทีมากกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
นักวิเคราะห์เชื่อว่าเม็ดเงินนี้มีนัยสำคัญถึงแอปเปิล ข้อมูลจากสำนักบลูมเบิร์กชี้ว่าแอปเปิลนั้นมีอัตราเติบโตในระดับ"ต่ำที่สุด"ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2013 บลูมเบิร์กเชื่อว่าแอปเปิลจะมีอัตราเติบโต 27% เท่านั้น และปี 2017 อาจจะมีอัตราเติบโตต่ำกว่า 10% หากแอปเปิลไม่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด
เบื้องต้น นักวิเคราะห์เชื่อว่าตลาดนาฬิกาอัจฉริยะนั้นกำลังรอเวลาแจ้งเกิดในเวลาอันใกล้ เห็นได้จากทีมนักออกแบบสายรัด iPod Nano ที่สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ซีอีโอผู้ก่อตั้งแอปเปิลเปิดตัวไปเมื่อปี 2008 นั้นได้รับเงินทุนจากกลุ่มผู้สนับสนุนมากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปี 2011 เพื่อพัฒนานาฬิกาจากกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แอนดรอยด์และไอโอเอสผ่านเครือข่ายบลูธูท (Bluetooth)
นอกจากนี้ เว็บไซต์จีนยังเคยรายงานข่าวเมื่อเดือนธันวาคม 2012 ว่าแอปเปิลกำลังร่วมมือกับอินเทล (Intel) พัฒนาอุปกรณ์รับสัญญาณบลูธูทซึ่งมีหน้าจอ OLED ขนาด 1.5 นิ้ว ขณะที่เว็บไซต์นิวยอร์กไทมส์, วอลสตรีทเจอร์นอล และบลูมเบิร์ก พร้อมใจรายงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าพันธมิตรของแอปเปิลอย่าง "ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn)" กำลังเตรียมเปิดสายการผลิตนาฬิกา
ทั้งหมดนี้ แอปเปิลยังเก็บตัวเงียบและไม่มีการตอบรับหรือปฏิเสธใดๆ ผู้สนใจ ติดตามชมการเปิดตัวหน้าจอ Youm ของซัมซุงได้จากวิดีโอด้านล่าง
Company Related Link :
Apple
Samsung
ที่มา: manager.co.th