“ใบเตย” เคลียร์รูปหลุดนุ่งบิกินีกอดนักแสดง “ต๊อบ ชัยวัฒน์” เผยรูปนี้นานแล้วตั้งแต่สมัยยังรู้สึกดีๆ ต่อกัน พูดดักเรียกแฟนไม่ได้เพราะเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นเร็วและจบเร็ว พร้อมปัดไม่ได้แขวะต๊อบเกาะกระโปรงดัง อ้างแค่สื่อสารผิด ฟุ้งหวานใจ “ดีเจแมน” เห็นรูปแล้วไม่ว่าสักคำ ฉาวรายวันจริงๆ สำหรับนักร้องดัง “ใบเตย อาร์สยาม” เพิ่งมีภาพหลุดนุ่งชุดชั้นในแนบกับหนุ่มนิรนามออกมาหยกๆ ล่าสุดก็มีรูปเจ้าตัวในชุดบิกินี่กอดกับนักแสดงหนุ่ม “ต๊อบ ชัยวัฒน์” ริมชายหาดออกมาชวนให้หลายคนคิดลึก ซึ่งกับประเด็นดังกล่าวก่อนหน้านี้ใบเคยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ฝ่ายชายหวังจะเกาะชายกระโปรงตนดัง จนทำเอาหนุ่มต๊อบเดือดจัด ซัดกลับว่าพูดไม่คิด เจอสวนแรงขนาดนี้ร้อนถึงนักร้องสาวต้องเคลียร์ตัวเองในงาน “ฉลองครบรอบ 60ปี เสริมสุข เปิดตัวแรงเยอร์” ที่ โรงแรม พลาซ่าแอทธินี ถ.วิทยุ โดยยอมรับว่าเป็นภาพเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว
“รูปที่หลุดออกมาอันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ยิ่งเรื่องรูปยิ่งไม่ทราบใหญ่เลยค่ะว่าหลุดได้ยังไง และหนูไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวค่ะ โอ้ย ไม่จริงหรอกค่ะ เพราะว่าไม่มีรูปคู่อยู่ในมือถือเลย ก็ขอแถลงการผ่านตรงนี้เลยนะคะ ก็แบบชัดๆ ชัดเจน ก็ระหว่างพี่ต๊อบ ก็รู้จักกันจริง เป็นอะไรที่เริ่มต้นเร็วและก็จบเร็วค่ะ และเรื่องผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว”
“สำหรับใบเตยก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เพราะว่ายังไม่ได้ดูเลยที่เขาตอบมา แต่ได้ฟังจากเพื่อนๆ เล่าให้ฟัง รู้สึกว่าจะค่อนข้างแรง ก็ไม่เป็นไรค่ะ เขาพูดอะไรก็เรื่องของเขา ในส่วนนี้มันก็เป็นเรื่องของเรา แต่ถามซีเรียสไหม ไม่เลยค่ะ และก็ทั้งนี้ทั้งนั้นใบเตยก็ทำให้ดีที่สุดแล้ว การไม่เคยเอาเรื่องอดีต ขึ้นมาพูด และก็อย่างนึงที่อยากจะบอกตรงนี้เลยก็คือ ในเรื่องของสร้างกระแส ยิ่งเรื่องนี้แล้วเนี่ย ใบเตยไม่ใช่คนเริ่มต้น”
ส่วนที่ “ใบเตย” ไปให้สัมภาษณ์พาดพิงฝ่ายชายว่า “เกาะชายกระโปรงดัง” จนอีกฝ่ายไม่พอใจ จวกว่าพูดไม่คิดนั้น เจ้าตัวขอชี้แจงว่าเป็นแค่การสื่อสารที่ผิด
“อันนี้ต้องขอเคลียร์ก่อนค่ะว่าได้ฟังจากข่าวชัดๆ ได้ดูนิดเดียว ใบเตยบอกว่าไม่ขอพูดเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะว่าไม่อยากให้ฝ่ายชายถูกมองว่ามาเกากระแสเราดัง ความจริงแล้วคงเป็นเรื่องของการสื่อสารที่ผิด แต่ว่าในวันนั้นเราพูดแบบนั้นจริงๆ แต่ว่าเนื้อความ เราก็พูดตามตรงว่าเราไม่อยากให้เขามาโดนว่าเกาะชายกระโปรงเราดัง หนูไม่ได้ว่าเขามาเกาะดัง ก็ไม่ได้มีเจตนาในการพูดในมุมเชิงไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าเราจะพูด เราพูดอะไรได้มากกว่านั้นเยอะ แต่ว่าเราไม่ขอพูดอะไรตั้งแต่เริ่มต้น และก็ไม่เคย 2 ปีแล้ว ที่ไม่เคยได้นำประเด็นที่เกี่ยวกับเขาเข้ามาในชีวิตเลย”
“ส่วนเรื่องที่บอกว่าหนูพูดไม่คิดโอ๊ย ไม่จริงหรอกค่ะ ใบเตยคิดทุกครั้งก่อนจะพูดอยู่แล้ว ซึ่งทุกๆ คนรู้ดี ความจริงถ้าพูดไม่คิด ก็อย่างที่บอกไม่ได้เริ่มต้นจากเราอยู่แล้วค่ะ ก็คงไม่พูดให้เขาเข้าใจ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเราเนอะ แต่ว่าสำหรับใบเตย เราก็หยุดก็จบกันมานานแล้ว ที่เขาให้สัมภาษณ์ค่อนข้างมรอารมณ์โมโห หนูก็ไม่เข้าใจ แต่ก็เป็นอารมณ์ของเขาเนอะ แต่เราไม่เคยมีอารมณ์อะไรอยู่แล้ว เราเดินผ่านตรงนั้นมาได้ด้วยชีวิตที่ดีมากๆ มันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วค่ะ”
ลั่นไม่เคลียร์
“ไม่ๆ ค่ะ ประเด็นมันไม่ได้ใหญ่โตจากที่เรา และก็ไม่ได้เริ่มต้นจากที่เราเลย เพราะว่าเราไม่เคยเอื้อนเอ่ย ไม่เคยพูดถึงหรือไม่เคยมีใครถามถึงเขาเลย”
ไม่รับฝ่ายชายคือแฟนเก่า
“ถามว่าใช่แฟนเก่าไหม ไม่ดีกว่าค่ะ เพราะว่าระยะเวลาในการได้รู้จัก เรียกว่าแฟนไม่ได้เลย ได้ร่วมงานกัน จนเกิดความรู้สึกดีๆ กันมากกว่า แล้วก็ไม่ได้ไม่เคยไม่มีความรู้สึกไม่ดีกับพี่ต๊อบเลย ถามว่าอยากฝากอะไรถึงพี่เขามั้ย ก็ไม่มีค่ะ มันจบไปนานแล้ว และไม่เคยเริ่มต้น 2 ปีที่ผ่านมา มันไม่มีอะไรที่เกี่ยวทั้งเขาและเราเลย แต่ถ้าเขาไม่จบก็เป็นเรื่องของเขาแล้ว แต่เราจบมานานมากค่ะ”
ยันไม่กระทบสัมพันธ์ “ดีเจแมน” เกทับฝ่ายชายเข้าใจทุกอย่างดี
“พี่แมนโอเคค่ะ เข้าใจทุกอย่างเพราะว่าเราค่อนข้างพูดคุยกับตรงนี้มากพอสมควร และก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย เขาเป็นลูกผู้ชายอยู่แล้ว เขาได้ดูได้รับรู้อะไร เขาเข้าใจกว่าเราเยอะ เรื่องที่มีข่าวว่าความสัมพันธ์ของหนูกับพี่แมนไม่ค่อยดี อันนี้ไม่จริงเลยค่ะ ดี ยังดี พี่แมนยังเป็นคนที่เข้าใจทุกๆ เรื่องดีมาก”
“ที่จริงเราไม่รู้ข่าวพวกนี้ด้วยซ้ำ มีแต่พี่เขาที่โทร.มาว่าหนูโอเคไหม หนูซีเรียสหรือเปล่า แต่พี่แบบ พี่โอเคนะ เขาบอกพี่ได้ฟังแล้วรู้สึกไม่ดีมากๆ เลย แต่ว่าไม่เป็นไร พี่รู้จักหนูดีอย่างเนี้ยค่ะ กำลังใจเต็มร้อย ไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรทั้งสิ้นค่ะ ยิ่งเรื่องอดีตเราไม่เคยเรามาปนเปกับปัจจุบันอยู่แล้ว”
รับข่าวนี้ทำเอาผู้ใหญ่ต้นสังกัดตกใจ แต่เข้าใจว่าเกิดเป็น “ใบเตย” คงต้องทำใจกับทุกอย่าง
“เขาก็ตกใจนะคะเพราะว่าเขาก็ไม่เคยเจอว่ามีฝ่ายชายมาพูดถึงผู้หญิงแบบนี้อะไร แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะว่าถ้าเป็นใบเตยแล้วก็คงจะทำใจกับทุกอย่างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ก็ไม่ได้บอกให้เราอยู่นิ่งๆ ก็ให้เราชีวิตอย่างดีที่สุดมากกว่า เพราะว่าทุกคนเข้าใจในความเป็นเรา ทุกคนรู้จักเราดี และก็รู้จักเรื่องที่ผ่านมาของเราดีมากๆ”
ที่มา: manager.co.th
