Mailbox เปิดทางให้ผู้ใช้ไอโฟนสามารถเข้าถึง-ตอบ-เก็บอีเมลจากบริการ Gmail ด้วยการสัมผัสจอที่สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิมหากหนึ่งในคีย์สำคัญของ Dropbox คือการเน้นให้ผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์และส่งต่อกับผู้อื่นได้ดี การใช้อีเมลเชื่อมต่อไฟล์เหล่านั้นจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมลงตัว ยักษ์ใหญ่บริการฝากไฟล์ออนไลน์ "ดรอปบ็อกซ์ (Dropbox)" ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมาว่าได้เข้าซื้อกิจการแอปพลิเคชันจัดการอีเมลดาวรุ่งน้องใหม่ "เมลบ็อกซ์ (Mailbox)" เบื้องต้น Dropbox ยืนยันว่าจะพัฒนาและคงชื่อ Mailbox ต่อไปโดยรับพนักงานทั้งหมด 14 คนมาอยู่ใต้ชายคา Dropbox ด้านนักวิเคราะห์มั่นใจ Mailbox จะเป็น 1 ในปัจจัยที่ช่วยให้ Dropbox ขยายตัวได้อย่างเป็นรูปธรรมแน่นอน วันที่ Dropbox ประกาศซื้อแอปพลิเคชัน Mailbox นั้นถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า Boxing Day เนื่องจากชื่อพ้องคำว่า box เหมือนกันโดยบังเอิญ จุดนี้ Dropbox ระบุในเว็บไซต์บริษัทว่าทีมงาน Mailbox ทั้ง 14 คนจะเริ่มเข้ามาทำงานที่สำนักงานใหญ่ Dropbox ที่ซานฟรานซิสโกตั้งแต่สัปดาห์นี้
Mailbox เป็นแอปพลิเคชันที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน ชื่อเสียงคุณสมบัติของ Mailbox ที่ผู้ใช้จะสามารถจัดการอีเมลบนอุปกรณ์พกพานั้นทำให้ยอดการส่งอีเมลผ่าน Mailbox มีจำนวนสูงถึง 60 ล้านฉบับต่อวัน ขณะเดียวกัน Mailbox ยังเปิดทางให้ผู้ใช้ไอโฟนสามารถเข้าถึง-ตอบ-เก็บอีเมลจากบริการ Gmail ด้วยการสัมผัสจอที่สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ส่งให้ชาวออนไลน์มากกว่า 1.3 ล้านคนลงชื่อต้องการทดลองใช้งานในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม Mailbox ยังมีข้อจำกัดเรื่องเครือข่ายและเงินทุนจนทำให้ไม่สามารถให้บริการผู้ใช้ทั้งหมด โดยขณะนี้ผู้ใช้มากกว่า 6 แสนคน (จาก 1.3 ล้านคน) ยังไม่สามารถใช้งานได้และถูกจัดให้เป็นกลุ่มรอใช้งาน จุดนี้ Mailbox ยอมรับว่าการขายกิจการให้ Dropbox จะทำให้บริษัทสามารถให้บริการ Mailbox แก่ทุกคนที่ต้องการได้เร็วขึ้น พร้อมยกย่องว่า Dropbox มีประสบการณ์ในการให้บริการแก่คนกลุ่มใหญ่ และมีผู้เชี่ยวชาญในการดูแลข้อมูลของผู้ใช้ที่ละเอียดและรอบคอบ
แม้จะไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการซื้อขายกิจการ สำนักข่าว TechCrunch รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวไม่ระบุนามว่าการซื้อขายกิจการครั้งนี้อาจมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยเงินสดและหุ้นที่ผู้บริหารและพนักงาน Mailbox จะได้รับ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้มูลค่ากิจการ Mailbox สูงเช่นนี้คือการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ Yahoo ซึ่งมีข่าวว่าต้องการซื้อกิจการ Mailbox เช่นกัน
มูลค่ากิจการ Mailbox ถูกวิจารณ์ว่าสูงมากเมื่อพิจารณาว่ารูปแบบการหารายได้ของ Mailbox ยังไม่ชัดเจน ขณะเดียวกัน ผู้ใช้บางรายยังไม่มั่นใจในแอปพลิเคชันจากผู้สร้างอิสระอย่าง Mailbox และเลือกใช้แอปพลิเคชันของ Gmail แทนเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าการซื้อกิจการครั้งนี้อาจทำให้ Mailbox ซึ่งเป็นสตาร์ทอัปดาวรุ่งสูญเสียอิสระในการพัฒนาไป
ประเด็นหลังสุด Dropbox ยืนยันว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะไม่ทำให้ชื่อ Mailbox หายไป โดยยกตัวอย่างว่า Dropbox ไม่เคยมีนโยบายแทนที่โฟลเดอร์หรือฮาร์ดไดร์ฟของผู้ใช้ แต่เน้นการพัฒนาให้ผู้ใช้สามารถจัดการไฟล์ได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับ Mailbox ที่ไม่เน้นการแทนที่กล่องอีเมลแต่มุ่งพัฒนาให้ประสบการณ์การรับอีเมลของผู้ใช้ดีขึ้น จุดนี้เองที่สะท้อนว่า Dropbox และ Mailbox มีความต้องการเดียวกัน ทำให้ Dropbox ไม่มีแผนแทนที่ Mailbox แต่จะมุ่งให้ Mailbox สามารถให้บริการได้ดีขึ้น
Mailbox เป็นผลงานของบริษัทออเครสตา (Orchestra) ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุน 5 ล้านเหรียญจากกลุ่มทุน Charles River Ventures และ SV Angel สำหรับ Dropbox นั้นถูกประเมินมูลค่าตลาดล่าสุดที่ 4 พันล้านเหรียญ โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าขณะนี้ Dropbox กำลังพยายามหาทางสร้างรายได้จากผู้ใช้บริการที่มีมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก จุดนี้คาดว่าการซื้อ Mailbox จะเป็นหนึ่งในหนทางที่ Dropbox จะสามารถผูกติดผู้ใช้ได้ทุกวัน
ที่ผ่านมา Dropbox พยายามเพิ่มความสามารถให้บริการไฟล์แชร์ริงของตัวเองสามารถรองรับคอนเทนต์ภาพและเอกสารได้ดีกว่าเดิม จุดประสงค์คือเพื่อเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถเปิดชมหรือใช้ไฟล์ Dropbox ได้ยืดหยุ่นมากขึ้น นโยบายนี้คาดว่าจะเป็นแนวทางหลักที่ Dropbox พร้อมเดินไปในอนาคต
คาดว่านอกจาก Mailbox มีความเป็นไปได้ที่ Dropbox จะซื้อหรือสร้างคุณสมบัติหรือแอปพลิเคชันอื่นเพื่อครอบข้อมูลคอนเทนต์ที่ผู้ใช้เก็บไว้บน Dropbox แอปพลิเคชันเหล่านี้เองที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการไฟล์ภาพ เพลง เอกสาร ภาพยนตร์ หรือสมุดโทรศัพท์บน Dropbox ได้ดีและสะดวก ซึ่งจะสามารถเป็นจุดเริ่มต้นให้ Dropbox มีช่องทางเก็บค่าบริการได้นอกเหนือจากการเก็บค่าพื้นที่ฝากไฟล์อย่างเคย ขณะเดียวกันก็สามารถแข่งขันและสร้างจุดต่างได้เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Google Drive หรือ Apple iCloud
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ แม้ Dropbox จะดูว่าไม่มีความจำเป็นในการสร้างบริการอีเมลของตัวเองเพื่อแข่งขันกับ Gmail แต่ Mailbox นั้นสามารถมีบทบาทในกลุ่มผู้ใช้ Gmail ด้วยการช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บไฟล์จากอีเมลลงใน Dropbox ได้ ดังนั้นหากหนึ่งในคีย์สำคัญของ Dropbox คือการเน้นให้ผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์และส่งต่อกับผู้อื่นได้ดี การใช้อีเมลเชื่อมต่อไฟล์เหล่านั้นจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมลงตัว ซึ่งทำให้เป็นไปได้สูงที่ Dropbox อาจมีการซื้อกิจการหรือเปิดตัวแอปพลิเคชันอื่นเพิ่มเติมอีกในอนาคต
Company Related Link :
Dropbox
Mailbox
ที่มา: manager.co.th